วันนี้ (13 ก.ย.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐ มนตรีที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคเหนือที่ อ.แม่สายเชียงราย
ก่อนออกเดินทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการกองทัพอากาศ (ผบ.ทอ.) นำนายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เช่น เรือท้องแบน เรือยางที่นำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมด้วยกำลังพลที่ลงไปปฏิบัติงานเพิ่มเติม พร้อมขอบคุณกองทัพ และทุกหน่วยงานที่ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้
ยืนยันว่าได้มีการจัดเตรียมงบกลาง ซึ่งสามารถนำมาช่วยประชาชนได้ทันที รวมทั้งการเยียวยาขอให้ทำทันทีไม่ต้องรอสถานการณ์คลี่คลาย เพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อน
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่สูง หรือพื้นที่บนดอย ที่ถูกตัดขาดขอให้กอง ทัพ ส่งกำลังเข้าไปดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน หากพื้นที่ใดปริมาณน้ำเริ่มลดลงแล้ว ขอให้ช่วยกันเร่งทำความสะอาด เพื่อคืนภาวะปกติให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยเร็ว
อ่านข่าว 135 ฟุตภารกิจสุดหิน KA-32 ปักเป้าสีส้มช่วยน้ำท่วม
มีรายงานว่าขณะที่อยู่บนเครื่องบิน นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ช่วยราชการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ให้ข้อมูลแผนการช่วยเหลือ และภาพรวมสถานการณ์น้ำล่าสุดต่อนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าว “น้ำท่วม” เศรษฐกิจเสียหาย 4 หมื่นล้าน กระทบพื้นที่เกษตร 9 ล้านไร่
ไทม์ไลน์นายกรัฐมนตรีลุยน้ำท่วมรอบ 2
สำหรับการลงพื้นที่ติดตามภารกิจน้ำท่วมของน.ส.แพทองธาร ที่จ.เชียงราย ถือเป็นครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกลงพื้นที่น้ำท่วมสุโขทัยเมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยรอบก่อนเป็นการลงพื้นที่ในนามหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
หลังจากเมื่อวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร ลงพื้นที่ติดตามชาวบ้านน้ำท่วมที่อ.เทิง จ.เชียงราย
ขณะที่ภารกิจลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมของน.ส.แพทองธาร รอบนี้หลังจากได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปเมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) ประกอบด้วย
เวลา 11.30 น.นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางไปยังที่ว่าการ อ.แม่สาย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะมีการติดตามสถานการณ์น้ำ ความเดือดร้อน ผลกระทบความเสียหาย และแผนให้การช่วยเหลือ ณ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ที่ว่าการอำเภอแม่สาย
ต่อมา 13.45 น.นายกรัฐมนตรี และคณะจะเดินทางลงพื้นที่ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย เยี่ยมผู้ประสบภัย และมอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย
อ่านข่าว น้ำท่วม 5 แยกพ่อขุนฯ เชียงรายเริ่มลด ปชช.สำรวจความเสียหาย
“แพทองธาร”น้ำตาคลอ รับปากไม่ทิ้งชาวบ้าน
ต่อมาช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ณ ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดพรหมวิหาร ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงรายสวมกอดให้กำลังใจผู้ประสบภัย อ.แม่สาย ยืนยันเร่งเยียวยาประชาชน ให้ดีที่สุด ย้ำไม่ทอดทิ้ง ไม่นิ่งนอนใจ ห่วงใยทุกคน
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนกล่าวกับนายกรัฐมนตรีทั้งน้ำตาว่า หมดตัวแล้วไม่เหลืออะไรแล้ว นายกรัฐมนตรีตอบว่า
ยังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจที่ต้องสู้ต่อไป
ชาวบ้านได้กอดนายกรัฐมนตรีและบอกว่า “แค่อ้อมกอดของนายกฯ ก็พอแล้ว” ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า นี่ก็เป็นกำลังใจให้นายกรัฐมนตรีเหมือนกัน จะรีบกลับไปทำงานในเรื่องชดเชยเยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งผู้ประสบภัยคนหนึ่งยังบอกกับนายกรัฐมนตรีว่า “อย่าทิ้งกัน” ซึ่งนายกรัฐมนตรีตอบกลับว่า
ไม่ทิ้งอยู่แล้ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมรถโรงครัวจิตอาสา ซึ่งได้ผลิตอาหารวันละประมาณ 1,500 – 2,000 กล่อง เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่และได้ร่วมทำอาหารเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่กับกลุ่มแม่บ้านตำรวจภูธรจังหวัดเชียงรายเมนูไก่กระเทียม ณ โรงครัวพระราชทาน
นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเร่งช่วยเหลือ เรื่องการเยียวยา ทั้งการดูแลบ้านพัก ที่อยู่อาศัยให้เร็วที่สุด เพื่อให้ทุกคนกลับไปอยู่ที่พักของตนเองได้อย่างรวดเร็วและอยากให้การเยียวยาเข้าถึงทุกคนอย่างรวดเร็ว
ครม.เคาะงบกลางไว้ 5,000 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา อนุมัติงบกลางกว่า 5,000 ล้าน รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวง คมนาคม ใช้ซ่อมแซม ปรับปรุงคลองส่งน้ำชลประทาน และฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์อุทกภัย 2 รายการ ดังนี้
อนุมัติวงเงิน 2,289 ล้านบาท ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 1,072 โครงการ และซ่อมแซมอาคารของกรมชลประทานที่ได้รับความเสียหายและกระแสน้ำกัดเซาะ ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำ และมีตะกอนดินที่กระแสน้ำพัดมา รวมถึงกิ่งไม้และวัสดุที่ขวางทางเดินน้ำอุดตัน คลองส่งน้ำ ทางลำเลียงน้ำ เพื่อซ่อมแซมปรับปรุงให้ดีขึ้น และเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการน้ำในอนาคต
และอนุมัติวงเงิน 3,017 ล้านบาท ให้กระทรวงคมนาคม ใช้ฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน/เส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายหลายจุด โดยให้กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ดำเนินการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกและมีความปลอดภัยในการเดินทาง
อ่านข่าว
น้ำท่วมเชียงราย หลายพื้นที่ยังหนัก ดินสไลด์ทับบ้าน เด็กตาย 1 คน