นับถอยหลังวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.สนามการเลือกตั้งซ่อมพิษณุโลก เขต 1 ดูเหมือนจะเข้มข้น เป็นการสู้กันแบบตรง ๆ ครั้งแรกของ 2 พรรคที่ได้ ส.ส.มากที่สุดในฟากของรัฐบาลเพื่อไทย และฝ่ายค้านพรรคประชาชน ที่ต่างฝ่ายต่างยอมกันไม่ได้
เช็กกระแส วัดเรตติง เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี นั่นมาจากเป็นสนามเลือกตั้งแรก พื้นที่นี้เป็นของก้าวไกล 2 สมัย หลังจากถูกยุบพรรค ซึ่งต้องยึดฐานที่มั่นให้ได้ สร้างขวัญกำลังใจ ส่วนเพื่อไทยก็ต้องสร้างความฮึกเหิมให้กับรัฐบาลแพทองธาร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เช่นกัน จากรัฐบาลที่พึ่งเข้ามาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี
ถามว่าการเลือกตั้ง ซ่อมสส. เพียงเขตเดียว ได้สส.เพิ่ม 1 คนไม่มีผลเปลี่ยน แปลงใด ๆ ทั้งสิ้น ความสำคัญคืองานนี้จะแพ้ไม่ได้ นักวิชาการ นักการเมืองทั้งเพื่อไทย และประชาชนเองก็ยอมรับว่า ณ เวลานี้ตอบได้ยาก ใครจะชนะใครจะแพ้ คะแนนสูสีกันมาก จากยุทธวิธีที่แต่ละพรรคใช้ในการหาเสียง
เพื่อไทยใช้กลยุทธ์บ้านใหญ่ล้อม ตีโอบอาศัยความเป็นพรรคขั้วรัฐบาล ใช้อาศัยความสัมพันธ์ที่ดีระดับแกนนำของพรรค ขอคะแนนเสียงและการสนับสนุนจากบ้านใหญ่ ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่้ ควบคู่กับการหาเสียงเน้นความเป็นส.ส.รัฐบาล สามารถทำงานต่อได้ พัฒนาพื้นที่
ส่วนพรรคประชาชน มาเป็นปูพรมลงพื้นที่ใช้แกนนำผู้ช่วยหาเสียงทั้งคณะก้าวหน้า และก้าวไกล ช่วยขอคะแนน แบบดาวกระจาย จุดขายอยู่ที่การขอเข้าไปทำหน้าที่ตรวจสอบ เป็นฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ มีจุดยืน และอุดมการณ์ที่ชัดเจน
ปัจจัยสำคัญที่จะชี้ขาด น่าจะมาจากจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อย่าลืมว่าในการเลือกตั้งใหญ่เป็นกระแสที่ทำให้คนตื่นตัว มีทั้งการเเข่งขันเชิงนโยบาย และการเลือกนายกรัฐมนตรี มีทั้งการการเลือกตั้งล่วงหน้า การเลือกตั้งนอกอาณาจักร แต่ครั้งนี้ไม่มี
ซึ่งปี 2566 “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ก็ได้คะแนนส่วนนี้ไปหมื่นกว่าคะแนน หากตัดออกคนไปใช้สิทธิไม่มาก ก็ต้องสู้กับคะแนนจัดตั้ง และแฟนคลับของแต่ละฟาก
นายณัฐดนัย นาจันทร์ สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มองว่าพื้นที่เขต 1 พิษณุโลกไม่มี สส.เพื่อไทย ในช่วงที่ผ่านมานับ 10 ปี เป็นของประชาธิปัตย์ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม
ต่อมาเป็นของ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ 2 สมัย แต่ตอนนี้บริบทการเลือกตั้งเปลี่ยนไป ไม่ได้เหมือนการเลือกตั้งทั่วไป เพราะชัดเจนแล้วใครเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคไหนเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ดังนั้นคะแนนอาจชนะไม่ขาด
การปลุกกระแสอุดมการณ์ ตัวนโยบายในฐานะรัฐบาลไม่ได้แล้ว แต่พรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะเพื่อไทย จุดสำคัญคือมีผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคเกือบทุกพรรคร่วมออกมาสนับสนุนได้เต็มที่
นักวิชาการยังมองว่า รวมทั้งลูกอ้อนที่ทำได้ดี คือพูดย้ำให้ชาวพิษณุโลก จะได้มีโอกาสมีตัวแทนในการร่วมรัฐบาล เห็นความเชื่อมโยงจังหวัดไปหารัฐบาลได้
กกต.ลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้งที่ 1 พิษณุโลก
ขณะที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)พร้อมคณะ ลงพื้นที่สังเกตการณ์การอบรมเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพิษณุโลก เขตเลือกตั้งที่ 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง ณ ศูนย์ประสานแผนพัฒนาท้องถิ่นประจำอำเภอเมืองพิษณุโลก
นายอิทธิพร กล่าวว่า สำหรับเพราะการเลือกตั้งครั้งนี้มีอยู่เขตเดียว มีทั้งหมด 208 หน่วยเลือกตั้ง เพิ่มมาจากเมื่อปีที่แล้ว 1 หน่วย ทั้งนี้การจัดการเป็นเบื้องต้นถือว่าเรียบร้อย ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ยังไม่มีเรื่องร้องเรียน
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้มีผู้สมัคร 2 คน ได้แก่ หมายเลข 1 นายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ หรือ โฟล์ค จากพรรคประชาชน และหมายเลข 2 นายจเด็ศ จันทรา หรือ บู้ จากพรรคเพื่อไทย