วันนี้ (12 ก.ย.2567) ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เวลา 12.05 น. นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อยากเห็นความหวังในการกระจายอำนาจไปสู่ท้องถิ่น โดยเสนอนโนบายภาษีบ้านเกิด เปิดโอกาสให้ประชาชนเลือกเสียภาษีกลับไปยังบ้านเกิดของเขา
นายกรวีร์ กล่าวว่า ประเด็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ขอย้ำจุดยืนของพรรคว่า ไม่ได้ขัดข้องที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้ไทย ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธว่าใครขึ้นชื่อเรื่องการบริการ และบันเทิง ติดอันดับต้น ๆ ของโลก โดยอยากเห็นการนำสถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก สวนน้ำ ผับ เธค นวด หรือแม้กระทั่ง Sex Worker สิ่งที่เคยหลบ ๆ ซ่อน แต่เรามองเห็นจนชินตา ซึ่งต้องจ่ายส่วยใต้โต๊ะ ให้นำมารวมกันและเอาขึ้นมาบนดิน เป็นแหล่งบันเทิงที่ควบคุมโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ต้องควบคุม และสร้างรายได้ให้ได้
นายกรวีร์ ยังกล่าวว่า สถานที่เปิดนั้น ไม่อยากเห็นทุนขนาดใหญ่ระดับหมื่นล้าน และไปลงทุนเพียง 1-2 แห่ง ไม่อยากเห็นการกระจุกเพียงแค่หัวเมือง แต่อยากเห็นการกระจายไปทั้งหัวเมืองเล็กและต่างจังหวัดที่มีความพร้อม เพื่อกระจายรายได้ รวมทั้งการจัดเก็บภาษีไปช่วยคนจน สร้างสาธารณูปโภค พัฒนาการศึกษา และพัฒนาประเทศ
นายกรวีร์ กล่าวว่า ตนเองไม่ได้พูดถึงการพนัน และกาสิโน แม้แต่คำเดียว เพราะมองแยกกัน ซึ่งในส่วนนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนที่จะนำเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนโต๊ะและจัดเก็บภาษี วิธีการเดียวที่จะแก้ปัญหาได้ คือ ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการสร้างรายได้ และการสร้างรายจ่ายที่เป็นต้นทุนทางสังคมที่ไทยต้องจ่าย ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพนัน คนที่ชนะมีแค่เจ้ามือ จึงถามว่าเหตุใดรัฐไม่ทำเอง และเป็นผู้เก็บผลประโยชน์แทนคนไทยทั้งประเทศ เพราะกำไรสูง แต่มีแนวคิดเปิดโอกาสให้ทุนขนาดใหญ่ ต้องมีเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 10,000 ล้านบาท แลกค่าสัมปทานปีละ 1,000 ล้านบาท จึงเกิดคำถามว่า เป็นธรรมกับประชาชน และยุติธรรมกับประเทศไทยจริงหรือไม่
“ถ้าเราจะทำจริง ๆ ทำไมไม่ให้รัฐเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ทั้งหมด เอารายได้จากเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาเป็นรายได้ของรัฐทั้งหมด ไปช่วยคนยากจน คนตกทุกข์ได้ยาก ทำให้คนไทยมีกินมีใช้ มีเกียรติศักดิ์ศรีไปด้วยกัน ถ้าทำจะเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ใช่นายทุนคนใดคนหนึ่ง”