ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามวุฒิสภา ยืนยัน รัฐบาลมุ่งมั่นบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนอย่างเต็มกำลัง เพื่อประชาชนกลับมาใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติสุขโดยเร็ว
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบกระทู้ถามประเด็นการบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของ นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 ที่รัฐสภาฯ
‘ธีรรัตน์’ รมช.มหาดไทยกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เคยนิ่งนอนใจและเรารู้ว่าความเดือดร้อนทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องรีบดำเนินการให้สถานการณ์นั้นกลับคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งเราได้ติดตามสถานการณ์ฝนและลมมรสุมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเพื่อนบ้านหรือแม้แต่ที่ตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือของไทย พร้อมทั้งดำเนินการทุกช่องทางเพื่อที่จะเตือนภัยให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ แต่จากภาพที่เราเห็นโดยทั่วกัน เพราะน้ำมาเร็ว มาแรง และมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้สถานการณ์จะรุนแรงเพียงใด ก็ไม่ทำให้เราท้อถอย และมุ่งมั่นในการบริหารจัดการอย่างเต็มกำลัง
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปที่จุดผ่านแดนถาวรสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 โดยได้พบว่ามีสภาพความเสียหายเป็นจำนวนมาก สภาพโคลนที่หนา ขนาดล้างแล้วยังสูงถึง 1 ฟุต และในวันนั้นปริมาณน้ำยังสูงและแรงพอสมควร แต่ถึงกระนั้น พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่รายรอบยังมีกำลังใจที่ดีเมื่อได้เห็นการทำงานของภาครัฐที่ได้เดินทางเข้าไป โดยต่างเข้ามาโผกอดส่งมอบกำลังใจให้กัน ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนว่า “เราจะไม่ทิ้งพวกเขาแน่นอน” พร้อมทั้งสั่งการในเรื่องการช่วยเหลือประชาชนนั้นไม่ใช่เป็นหน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง กระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงาน ทุกกระทรวงที่มีเครื่องมือ เครื่องไม้ ที่มีสรรพกำลัง ให้ลงไปช่วยเหลือกัน เช่น กระทรวงกลาโหม ก็ได้มีการสั่งการทุกเหล่าทัพระดมกำลังเจ้าหน้าที่ลงไปใช้เครื่องมือที่มีอยู่ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชนที่ติดอยู่บนชั้น 2 หรือที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกมาได้ เราก็ได้มีการลำเลียงเครื่องมือไปถึงบ้านผู้ประสบเหตุ และทำการเคลื่อนย้ายผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบาง เด็กเล็ก ออกจากที่เกิดเหตุอย่างปลอดภัย
สำหรับในเรื่องการทำความสะอาดนั้น ครั้งเดียวไม่เพียงพอ ไม่ใช่ลงไปครั้งเดียวแล้วถอนกำลังออก แต่เรายังมีการตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพราะบางพื้นที่โคลนสูงเต็มชั้น 1 ของบ้านสูงไปถึงบันไดชั้น 2 ดังนั้น ครั้งเดียวไม่เพียงพอ ต้องลงไปช่วยจนกว่าจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์เจ้าหน้าที่จึงจะถอนออกมา ถ้าประชาชนท่านใดมีกำลังเพียงพอช่วยเหลือตัวเองได้ เราก็จะย้ายไปช่วยเหลือท่านอื่นต่อไป แต่ถ้าบ้านใดที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สายด่วน 1784 หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ได้ทันที หรือประสานข้อมูลจากรัฐบาลเพื่อส่งข้อมูลข่าวสาร โดยจะมีการทำงานแบบยืดหยุ่น ปรับให้เหมาะสมและรวดเร็ว เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคประชาชน และจิตอาสาและทุกหน่วยงานในพื้นที่ นอกจากนี้ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา ท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ไปที่หนองคาย ไปช่วยประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำโขงที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งขึ้นมา ทั้งการมอบถุงยังชีพและไปเยี่ยมที่ศูนย์พักพิงที่พี่น้องประชาชนมาพักอยู่ มีการนำอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องผลิตน้ำประปาลงไปด้วย และมีการดำริเรื่องของการป้องกันโจรขโมย เพราะในขณะนี้พี่น้องประชาชนไม่กล้าออกจากบ้านเพราะว่าเป็นห่วงเรื่องทรัพย์สิน เราก็ได้นำเจ้าหน้าที่คอยลาดตระเวนลงไปดูความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนว่า เราดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่
สำหรับในส่วนเรื่องการเยียวยาฟื้นฟู การซ่อมแซมบ้านเรือนต่าง ๆ ภาครัฐจะช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ ต้องออกให้ทันเหตุการณ์ ตอนนี้ทุกคนลงไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะได้รับอะไรตอบแทนบ้าง แต่ไปเพราะต้องการขอแค่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ช่วยเหลือประชาชน ซึ่งรัฐบาลไม่ละเลยที่จะสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่หน้างาน หรือแม้แต่ขวัญกำลังใจอาสาสมัคร ที่เราต้องขอแสดงความเสียใจกับอาสาสมัครที่ท่านเสียชีวิตระหว่างเดินทาง และเราก็จะให้ขวัญกำลังใจกับครอบครัวอาสาสมัครที่เสียชีวิต
สำหรับในส่วนค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นมา เมื่อวานนี้จากการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่ประชุมก็ได้มีการตั้งโจทย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูในเรื่องการแบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าเป็นไปได้ไม่จำกัดในเรื่องของข้อระเบียบ หรือข้อบังคับใด ๆ และขั้นตอนต่อไปก็จะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อขอความเห็นชอบ เพราะเราต้องคำนึงถึงเรื่องระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง และในส่วนการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยตามกฎหมายในขั้นต้นนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสามารถใช้เงินทดรองราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ 20 ล้านบาท ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 และขณะนี้ กรมบัญชีกลาง ได้อนุมัติขยายวงเงินให้จังหวัดที่ประสบภัยในภาคเหนือเพิ่มขึ้นจังหวัดละ 100 ล้านบาท ที่สะท้อนการทำงานที่รวดเร็วและไม่กระจุกตัวให้กับส่วนกลาง แต่เรากระจายอำนาจให้จังหวัดสามารถช่วยเหลือประชาชนได้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไม่นิ่งนอนใจ และแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม และจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ซึ่งมีการประชุมในวันนี้ เพื่อบูรณาการรวมพลังทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ร่วมกันทำงาน เพื่อทำให้การรับรู้ข้อมูล ส่งต่อข้อมูลและสื่อสารข้อมูลเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีเอกภาพในทิศทางเดียวกัน ซึ่งต้องยอมรับว่าในวันนี้เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยต่าง ๆ ลงไปในพื้นที่เป็นจำนวนมาก เราอาจจะเห็นถึงความชุลมุนวุ่นวาย แต่นั่นคือ ความเสียสละและความมุ่งมั่นตั้งใจของทุกหน่วยงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ ใครทำอะไรได้ทำก่อนเลย ใครช่วยเหลืออะไรได้ช่วยเหลือก่อนเลย ซึ่งเป็นค่านิยมที่ดีของคนไทยที่มีส่งต่อกันมา ในทุกครั้งที่มีภัยพิบัติเราจะเห็นถึงการรวมเนื้อรวมใจร่วมกันทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเสมอ
ในส่วนต่อมา เราได้ทราบทั่วกันว่า ปริมาณน้ำจำนวนมากมาจากต่างประเทศ เราก็มีแผนที่จะเร่งเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านที่มีความเกี่ยวข้องกัน เช่น ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เราจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ซึ่งในวันที่ได้เดินทางลงไปที่แม่สาย ศูนย์พักพิงชั่วคราวก็ได้มีการช่วยเหลือพี่น้องชาวพม่าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วย บางคนเป็นหญิงตั้งครรภ์ เราก็ลงไปให้กำลังใจและทำให้เขาได้เห็นว่าเขาอยู่ในที่ปลอดภัยตามหลักมนุษยธรรม และในเรื่องการที่เราต้องขยายพื้นที่รับน้ำระหว่าง 2 ประเทศร่วมกัน ซึ่งเกิดจากความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วโลก ไม่ได้กระทบแค่ประเทศไทย เราจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือในส่วนนี้ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย จะร่วมกันทำงาน
รวมทั้งเร่งซ่อมแซมสะพานที่ขาดและชำรุด เพื่อการเดินทางของพี่น้องประชาชนสามารถติดต่อและเดินทางได้อย่างปลอดภัย และขณะเดียวกันได้มีการควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น เพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พร้อมตรวจตราร้านค้าไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าในช่วงที่ประชาชนกำลังประสบภัยขณะนี้
และได้มีการหามาตรการเร่งด่วนเพื่อเตือนภัยประชาชนอย่าง SMS Alert ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกวันนี้คืบหน้าอย่างมาก โดยงบประมาณปี 68 ก็มีการผลักดันโครงการให้ระบบได้ใช้จริง รวมถึงการใช้แอปฯ ทางรัฐ ลงทะเบียนรับสิทธิเยียวยาเพื่อพี่น้องประชาชนสะดวกในการใช้มือถือของท่านติดต่อกับทางภาครัฐได้เลย ซึ่งแอปฯ ทางรัฐได้รวบรวมข้อมูลพื้นฐานของพี่น้องประชาชน เช่นกรณีเกิดภัยพิบัติ ก็สามารถลงทะเบียนเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับการช่วยเหลือได้โดยทันที และสำหรับการดูแลความเป็นอยู่ในพื้นที่พักพิง โดยเฉพาะการดูแลด้านการแพทย์ พยาบาล ยารักษาโรค กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงสาธารณสุข ได้สนับสนุนทีมแพทย์พยาบาลทุกเวลา รวมถึงการดูแลสัตว์เลี้ยงซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมดำเนินการ นอกจากนี้ การดำเนินการเตือนภัยในพื้นที่สูงบนดอย บนเขา ทางกรมทรัพยากรธรณีก็ได้มีความพร้อมที่จะรับมือในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งการเร่งตรวจสอบปรับปรุงการเสริมความมั่นคงแข็งแรงของคันกั้นน้ำและระบบระบายน้ำ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทย จะได้ทำงานร่วมกัน
น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวในช่วงท้ายว่า สำหรับการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพ โดยสถานการณ์ขณะนี้เราคาดการณ์ว่า หลายพื้นที่ยังมีปริมาณน้ำต่อเนื่องในช่วง 2-3 สัปดาห์นี้ แต่การช่วยเหลือสามารถลำเลียงได้โดยตลอด และการที่จะใช้งบประมาณ (งบกลาง) ที่จะดูแลประชาชนต้องเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ซึ่งมั่นใจว่าทุกฝ่ายอยากจะเห็นจุดนี้ ด้วยการลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้หมดไป รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาน้ำในระยะยาวที่ถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่เราตั้งใจจะทำมาหลายปีตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ต้องพูดว่าทำไมเดี๋ยวก็น้ำท่วม ทำไมเดี๋ยวก็น้ำแล้ง วันนี้เราจะมาร่วมกันเริ่มต้นในการทำงานโดยนำข้อมูลจากการศึกษาในอดีตมาทำให้ประสบความสำเร็จด้วยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานและทุกภาคส่วน