‘ชนินทร์’ เสนอแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตร พ.ศ.2560 มาตรา 153 เพื่อให้การขออนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไข พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต ฉบับที่ พ.ศ. … ของพรรคเพื่อไทย กล่าววันนี้ (18 กันยายน 2567) ว่า หลักการในการแก้ไขของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตร พ.ศ.2560 มาตรา 153 เพื่อให้การขออนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่เหมาะสมยิ่งขึ้น
โดยให้กฎกระทรวงที่ออกตาม พ.ร.บ.ฉบับนี้ ต้องมีสาระสำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งสถาบันเกษตรกรฯ SME วิสาหกิจชุมชน และบุคคลโดยทั่วไป ให้สามารถเข้าถึงใบอนุญาตได้ โดยไม่สร้างภาระเกินความจำเป็น และต้องไม่นำเรื่องกำลังการผลิตและทุนจดทะเบียนมาเป็นเงื่อนไข แต่ควรให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยเป็นหลัก
ซึ่งแตกต่างจากร่างของพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคประชาชน ที่มีการปรับแก้ให้ผู้ถือครองเครื่องกลั่นสุราที่ไม่ได้มีไว้เพื่อประโยชน์ทางการค้า “ไม่ต้องขออนุญาต” หรือเท่ากับว่าการผลิตเพื่อบริโภคกันเองในกลุ่มเพื่อน หรือในครัวเรือน ไม่ต้องขออนุญาต หรือแจ้งให้หน่วยงานใดทราบเลย และอาจจะทำให้การกำกับดูแลการผลิตสุรามีความยากต่อการควบคุมมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่สุราใดๆ ที่ถูกผลิตขึ้นมาแบบไม่ได้มาตรฐานจะถูกส่งต่อ
นายชนินทร์ กล่าวว่า ในอดีต รัฐบาลไทยรักไทยได้ดำเนินนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน โดยสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายสุราแช่พื้นเมือง สุราผลไม้ และสุรากลั่น หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ‘สุราชุมชน’ นโยบายนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตรายย่อยในท้องถิ่นสามารถผลิตสุราพื้นเมืองและจำหน่ายได้อย่างเสรีเพิ่มขึ้น มีผู้ประกอบการรายใหม่มากมายเข้าไปติดต่อหน่วยงานเพื่อเสียภาษีให้รัฐ นำแสตมป์อากรมาติดขวดสุราที่ผลิตอย่างภาคภูมิใจ เป็นตัวอย่างการดำเนินนโยบายที่สำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจจากฐานราก ผ่านการแปรรูปสินค้าเกษตร เพิ่มมูลค่า เพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร และช่วยบรรเทาปัญหาในขณะที่สินค้าเกษตรล้นตลาดในบางโอกาสได้ด้วย
“ผมเชื่อครับ ว่าทุกท่านต้องการส่งเสริมวัฒนธรรมสุราของไทย เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศ แต่การที่จะสนับสนุนให้อุตสาหกรรมนี้ขยายตัวขึ้น ก็ต้องคงไว้ซึ่งความห่วงใยต่อปัญหาสุขภาพและผลกระทบทางสังคมด้วย เพราะหากคุมไม่ได้จะยิ่งเป็นการทำลายชื่อเสียงความน่าเชื่อถือของสุราภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยเองด้วย” นายชนินทร์กล่าว
