เป็นประเด็นที่ยังคงร้อนระอุ สำหรับรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” จะสานต่อ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. หรือ “พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” หรือไม่ หลังจากทำการศึกษาและยกร่างมาตั้งแต่สมัยนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในการกำหนดทิศทางของการผ่านกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดขึ้นจริง
แม้ว่าร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ยังไม่ผ่าน แต่มีผู้สนใจที่จะเข้ามาลงทุนหลายรายทั้งในและต่างประเทศ ล่าสุด ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศแผนงาน The Royal Siam Heaven ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 200,000 ล้านบาท พร้อมผลักดัน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กาสิโน” เนื่องจากหน่วยงานมีประสบการณ์ด้านการทำสนามม้ามาแล้ว
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (19 ก.ย. 67) เครือข่ายเยาวชนและผู้ปกครอง ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้หยุด พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ที่มีแหล่งพนันหรือกาสิโนถูกกฎหมาย ด้วยเกรงว่าจะเป็นช่องทางในการคอรัปชั่นและทำให้เกิดการมอมเมา รวมถึงอาจเอื้อประโยชน์ให้เพียงกลุ่มนายทุน
อ่านข่าว: เยาวชนยื่นนายกฯ “ค้านกาสิโน” ชี้ในฐานะแม่ให้คิดถึงอนาคตลูก
ทำให้เกิดคำถามว่า พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ นั้น แท้จริงมีการ “แอบซ่อน” บางสิ่งบางอย่างที่ไม่ได้เปิดเผยออกมาหรือไม่ ?
กาสิโนถูกกฎหมายใต้ร่มเงารัฐบาล
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงื่อนไขการพนัน ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ได้กำหนดไว้ในมาตรา 4 ที่ระบุว่า การพนันอันระบุไว้ในบัญชี ก. ในพระราชบัญญัติพนัน พ.ศ. 2478 หรือการเล่นซึ่งมีลักษณะคล้ายกันนั้น จะจัดให้มี เข้าเล่น หรือเข้าพนันได้ ณ สถานกาสิโนของรัฐบาล ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจัดตั้งขึ้น หมายความว่า หากสถานกาสิโนนั้นไม่ได้ดำเนินการ “โดยรัฐบาล” จะถือว่าผิดกฎหมายทันที
รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายฯ ชี้ให้เห็นข้อสังเกตที่น่าสนใจ คือ แม้ว่ากาสิโนที่ประกอบการด้วยเอกชนโดยตรงจะผิดกฎหมาย แต่หากรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในส่วนกิจการเสี่ยงโชค หรือให้สัมปทานแก่เอกชนในการดำเนินธุรกิจกาสิโน จะถือว่า “ถูกกฎหมาย” ทันที
เพราะใน กฎกระทรวงกําหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ส่วนบัญชีพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตแนบท้ายกฎกระทรวง มีระบุถึง ตอนที่ 18 กิจการเสี่ยงโชค และตอนที่ 20 กิจการที่ได้รับอนุญาตหรือสัมปทานจากรัฐ ว่าสามารถจัดเก็บเป็นภาษีแบบถูกกฎหมายได้ จึงถือว่า “กาสิโน” เข้าเงื่อนไขทั้ง 2 ประการ
ถึงแม้จะเป็นกฎกระทรวงที่มีศักดิ์ทางกฎหมายต่ำกว่า พ.ร.บ. แต่การนับรวมกาสิโนให้มาอยู่ในรูปแบบการจัดเก็บภาษีที่ถูกกฎหมายนั้น กระทำการผ่านการที่รัฐเป็นเจ้าของสัมปทานกาสิโน โดยอาจจะให้สัมปทานแก่เอกชนภายหลัง หมายความว่าไม่ผิด พ.ร.บ. การพนันมาตั้งแต่ต้น
กาสิโนจึงเป็นได้ทั้งธุรกิจการพนันและธุรกิจที่สามารถจัดเก็บภาษีได้ตามกฎหมาย ทำให้ “ธุรกิจและเศรษฐกิจใต้ติน” ที่รัฐบาลไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้ ขึ้นมาอยู่บนดินทันที หากร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ผ่านการรับร่างกฎหมาย
ที่สำคัญ ในข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการพิจารณาญัตติดังกล่าว ข้อที่ 5 ระบุว่า “การจัดเก็บภาษีไม่ควรสูงเกินไปแต่ต้องมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการแบ่งรายได้เพื่อประโยชน์สาธารณะแก่ผู้ยากไร้และขาดแคลน ตลอดจนเป็นทุนการศึกษาและสร้างนวัตกรรม (ร้อยละ 50 ของรายได้จากการจัดเก็บภาษีในสถานบันเทิงแบบครบวงจร)”
ชี้ให้เห็นว่า มีความต้องการให้กาสิโนอยู่ได้นาน ให้เกิดการเก็บภาษีเข้ารัฐแบบ “เก็บน้อยแต่เก็บยาว” เพื่อทำประโยชน์ในด้านการศึกษาและนวัตกรรม ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ ได้รับมากเป็นอันดับ 2 ของงบประมาณปี 2567 จะได้เพิ่มมากขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น รายงานผลพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ยังเห็นด้วยตามผลการพิจารณาข้างต้น
“… รูปแบบการลงทุนต้องใช้เงิน เป็นจํานวนมาก หากรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนเองแล้วอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านงบประมาณที่รัฐ จะต้องจัดหามาใช้ในการลงทุนดังกล่าว ดังนั้นแนวทางที่จะช่วยลดปัญหา จึงอาจจะต้องเป็น ในรูปแบบการให้ใบอนุญาตกับเอกชนตามระยะเวลาที่กําหนด …”
ทั้งยังให้เหตุผลสนับสนุนด้วยผลกระทบเชิงบวกว่า ทําให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีการเติบโตมากขึ้น จะทําให้คนในพื้นที่มีรายได้มากขึ้น เกิดการกระตุ้นเงินหมุนเวียนในระบบไม่เกิดการรั่วไหลออกนอกประเทศ และเกิดการลงทุนในพื้นที่มากขึ้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ยังทําให้อัตราการว่างงานของคนในพื้นที่ลดน้อยลง เพราะเกิดการจ้างงานมากขึ้น ประชาชนหันไปพึ่งการพนันที่ผิดกฎหมายน้อยลง ทําให้ปัญหาต่าง ๆ เช่น อัตราการเกิดอาชญากรรมและอัตราการฆ่าตัวตายลดลง ทําให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ส่วนผลกระทบในเชิงลบ เป็นเรื่องที่ประชาชนทราบโดยทั่วกัน คณะกรรมาธิการฯ จึงเสนอไปในทิศทางว่า ควรมีมาตรการกำกับ ควบคุม และเฝ้าระวังผลกระทบด้านอาชญากรรมทางการเงินและการสร้างนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ของผู้ใช้บริการ
ช่องทางกฎหมายเอื้อกาสิโน
หากพิจารณา ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ฉบับแก้ไขล่าสุด มาตรา 41 ระบุว่า ให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น โดยจะต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้าย พระราชบัญญัตินี้อย่างน้อยสี่ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้ สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
หมายความว่า การจะทำธุรกิจกาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ได้นั้น ต้องเลือกธุรกิจบันเทิงประเภทอื่น ๆ ในบัญชีแนบท้าย “อย่างน้อย 4 ชนิด” จากในบัญชีนี้ที่กำหนดไว้ 10 ชนิดร่วมด้วย โดยที่กำหนดไว้ ได้แก่
- ห้างสรรพสินค้า
- โรงแรม
- ร้านอาหาร ไนต์คลับ ดิสโกเธค ผับ หรือบาร์
- สนามกีฬา
- ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
- สถานที่เล่นเกม
- สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
- สวนสนุก
- พื้นที่สาหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP
- กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ทำให้ผู้ประกอบการกาสิโนสามารถเลือกธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนมาก อย่างพื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP หรือสถานที่เล่นเกม ซึ่งอย่างแรกอาจจะสามารถเปิดพื้นที่ให้ธุรกิจท้องถิ่นเข้ามาขายของ ไม่ต้องลงทุนทั้งหมดเอง ส่วนอย่างหลังสามารถนับรวมเกมเข้ามาไว้เป็นส่วนหนึ่งในกาสิโนได้ อาทิ เกมไพ่ออนไลน์ หรือเกมสล็อตออนไลน์
รวมถึงในข้อที่ 10 ที่ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายสามารถกำหนด “กิจการอื่น ๆ” ภายหลัง เท่ากับว่าสามารถที่จะออกข้อกำหนดธุรกิจให้เอื้อต่อธุรกิจของผู้ถือใบอนุญาต หรืออาจจะส่งเสริมกับธุรกิจคาสิโนในเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ได้
เพราะหากพิจารณา มาตรา 52 ที่ระบุว่า กาสิโนให้กระทำได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรโดยผู้รับใบอนุญาต และให้มีเฉพาะประเภทดังต่อไปนี้
- ใช้เครื่องเล่นซึ่งใช้เครื่องกล พลังไฟฟ้า พลังแสงสว่าง หรือพลังอื่นใดที่ใช้เล่นโดย วิธีสัมผัส เลื่อน กด ดีด ดึง ยิง โยน โยก หมุน หรือวิธีอื่นใดซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดย การนับแต้มหรือเครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม
- ใช้อุปกรณ์ซึ่งสามารถทำให้แพ้ชนะกันได้ ไม่ว่าจะโดยการนับแต้มหรือ เครื่องหมายใด ๆ หรือไม่ก็ตาม
กรอบของการเล่นพนันในกาสิโนถือว่ากว้างขวางมาก เพราะ “การทำให้เกิดแพ้ชนะ” ไม่ว่าจะใช้เครื่องเล่น อุปกรณ์ หรือไม่ใช้ก็ตาม เช่น สามารถพนันโดยทายว่าผู้เล่นพนันคนนั้นจะได้หรือเสีย
ขยายขอบเขตการพนัน เพิ่มช่องทางเก็บภาษี
เท่านั้นยังไม่พอ รายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง การเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร (Entertainment Complex) การจัดเก็บรายได้และภาษีจากธุรกิจกาสิโนถูกกฎหมายฯ ยังระบุเพิ่มถึงการพนันในรูปแบบ “Gaming” ซึ่งถือเป็นการพนันในรูปแบบใหม่ที่กฎหมายไทยยังขาดองค์ความรู้และความเข้าใจอยู่มาก โดยองค์ประกอบของ Gaming มีทั้งหมด 8 ประการ ได้แก่
- กาสิโนออนไลน์ (Online Casino Games) ประกอบด้วย เกมส์พนันหมายรวมถึง เครื่องเล่นการพนัน ในกาสิโน
- การซื้อขายหุ้น สกุลเงิน รายวัน (Day – Trading) คือ การพนันที่ใช้การขึ้น – ลง ของตลาดหุ้น สกุลเงิน สินทรัพย์มีค่า
- พนันกีฬาออนไลน์ (Online Sport Betting) คือ กีฬาสากล กีฬาพื้นบ้าน การแข่งม้า
- การพนันอิงเหตุการณ์จริง (Betting Exchange) เช่น ผลการเลือกตั้ง
- บิงโกออนไลน์ (Online Bingo)
- การเสี่ยงโชคออนไลน์ (Online Lotteries) ผลการออก สลากกินแบ่งทั้งไทย และต่างประเทศ
- เว็บไซต์เกมที่ต้องใช้ทักษะ (Skill Gaming Sites) เช่น เกมการต่อสู้ออนไลน์ E – Sport เป็นต้น
- เว็บไซต์เพื่อการฝึกฝน (Practice Sites)
ดังนั้นความหมายของคำว่า “การพนัน” จึงขยายออกไปอย่างมาก โดยนับรวมการซื้อ-ขายหุ้น การเล่นเกมออนไลน์ หรือการฝึกฝนทักษะออนไลน์ที่ตามความเข้าใจของประชาชนแทบจะไม่เกี่ยวข้องกับการพนันเลย
แต่การฝึกฝนทักษะสามารถแข่งขันกันโดยวัดพัฒนาการที่เหนือกว่าของผู้ฝึก นับว่าเข้าข่ายไปโดยปริยาย การขยายขอบเขตการพนันไปไกลมากเท่าไร อำนาจในการเก็บภาษีที่เกี่ยวข้องกับการพนันนั้นก็จะขยายวงกว้างไปได้มากยิ่งขึ้น
อ่านข่าว:
ใกล้เป็นจริง “กาสิโนเสรี” ไม่มีแม้มือสักข้าง สส.โหวตค้าน