‘สุริยะ’ สั่งทุกหน่วยงานลงช่วยประชาชนประสบภัยน้ำท่วมเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่ดูแล 24ชั่วโมง ด้านอธิบดีกรมทางหลวงชนบทลุยเร่งฟื้นฟูทางสัญจร ให้สามารถใช้สัญจรได้อย่างปลอดภัยโดยเร็ว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในวันนี้ (4 ตุลาคม 2567) จากสถานการณ์แม่น้ำปิงล้นฝั่งเข้าท่วมจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณแม่น้ำปิง ที่มีน้ำล้นฝั่งเข้าท่วมบริเวณเชียงใหม่ไนท์บาซ่าร์ ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเข้าที่พักไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำแม่น้ำปิงยังอยู่ในระยะวิกฤตสีแดง วัดได้ 4.80 เมตร
โดยล่าสุดได้สั่งการให้ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยว เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งให้ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิดรวมถึงจัดเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.) จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กระทรวงคมนาคมได้กำกับทุกหน่วยงานในสังกัด ให้นำทรัพยากรเครื่องมือเครื่องจักรเข้าสู่พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกหลังคาเรือน รวมถึงเร่งแก้ปัญหาของดินสไลด์กีดขวางการเดินทางบนถนน และเร่งแก้ปัญหาถนนหรือสะพานที่โดนกระแสน้ำพัดขาดเสียหาย เพื่อรักษาสภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ให้สามารถลำเลียงขนส่งอาหาร น้ำดื่ม เวชภัณฑ์ที่จำเป็นส่งให้ถึงพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยได้โดยทันที
ด้านศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม ได้รายงานว่าขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้บูรณาการกับหลายหน่วยงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย และกองทัพบก เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้มีความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงให้ทุกหน่วยงานประสานรายงานการปฏิบัติกับศูนย์ Command Center อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ขณะที่ ทช. ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดว่าจากน้ำท่วมรอบใหม่ บนถนนสาย ชม. 3029 ถนนสมโภช 700 ปี (ถนนวงแหวนรอบกลาง) ได้ส่งเจ้าพนักงานเข้าลงพื้นที่ลาดตระเวนเฝ้าระวังน้ำท่วมทันที พบว่า มีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรทั้ง 3 เลน ทั้งสองฝั่ง ด้านช้ายทางและขวา ทางช่องจราจรด้านชิดกับเกาะกลาง น้ำท่วมสูงขึ้นประมาณ 25 ซม ระดับน้ำทรงตัว เริ่มตั้งแต่ ช่วง กม. ที่ 19+800 – 20 + 300 รถยนต์ไม่สามารถเคลื่อนผ่านได้ แขวงทางหลวงชนบทจึงปิดการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง โดยขณะนี้แขวงฯ ได้ติดตั้งป้ายเตือน น้ำท่วม พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่คอยดูแลประชาชนตลอดเส้นทาง
ส่วนกรมเจ้าท่า (จท.) ได้เข้าติดตามสถานการณ์ พร้อมทั้งคาดการณ์มวลน้ำ และเตรียมการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที ขณะที่ ทล. รายงานว่าพื้นที่ภายใต้การดูแลของ ทล. ที่เชียงใหม่มีน้ำท่วม บริเวณ ทล.108 เชียงใหม่ – หางดง ช่วง กม. ที่ 13+450 – 13+700 ด้านขวาและซ้ายทาง เนื่องจากน้ำจากห้วยแม่ท่าช้างเอ่อท่วมล้นตลิงจนท่วมพื้นที่โดยรอบ และไหลหลากเข้าท่วมผิวทาง สูง 0.50 เมตร รวมถึง ทล.1141 ทล.11 และ ทล.107 เช่นกัน โดยขณะนี้ได้ปิดการจราจร ทั้งขาเข้า – ออก พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลประชาชนตลอด 24 ชม. จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วน ทล. โทร. 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สายด่วน ทช. โทร. 1146 และสายด่วน จท. โทร. 1199 ได้ตลอด 24 ชม.
ด้าน นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำขยายวงกว้างส่งผลกระทบให้พื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ปศุสัตว์หลายแห่งได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะถนนทางหลวงชนบทในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปัจจุบันได้เกิดน้ำป่าไหลหลาก จึงได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอนนำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรลงพื้นที่ปรับเกลี่ยดินสไลด์และเคลื่อนย้ายกิ่งไม้ที่กีดขวางการจราจร บนถนนทางหลวงชนบทสาย มส.4001 – บ้านดอยแสง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 13+300) ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณฝนตกหนักในพื้นที่ ปัจจุบันสามารถสัญจรผ่านได้เรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกัน ได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทลำพูน ติดตามการซ่อมแซมคอสะพานชุมชนสาย ลพ.024 บ้านศรีเมืองยู้ ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โดยเร่งด่วน เนื่องจากพบการทรุดตัวตรงบริเวณจุดรอยต่อจึงได้ดำเนินการเสริมความแข็งแรงเพื่อให้เกิดความมั่นคงดังเดิม คาดว่าจะใช้เวลาซ่อมแซมแล้วเสร็จภายใน 1 วัน เพื่อให้กลับมาใช้งานตามปกติ
นอกจากนี้ ช่วงเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา () สำนักบำรุงทาง รายงานถึงโครงข่ายทางหลวงชนบทที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ หนองคาย อุดรธานี แม่ฮ่องสอน เลย และตาก จำนวน 9 สาย สัญจรผ่านได้ 3 สายทาง สัญจรผ่านไม่ได้ 6 สายทาง
โดยมีสายทางที่สัญจรผ่านไม่ได้ ดังนี้
1) ถนนสาย นค.5027 แยกทางหลวงชนบทสาย นค.3009 – บ้านสร้างคอม (ตอนหนองคาย) อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 12+825 – 13+400)
2) ถนนสาย นค.3042 แยก ทล.211 – บ้านธาตุกลางน้อย อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย (ช่วง กม.ที่ 16+300 – 17+300)
3) ถนนสาย มส.3018 แยก ทล.108 – บ้านน้ำเพียงดิน อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ช่วง กม.ที่ 8+400 – 8+500)
4) ถนนสาย ลย.2002 แยก ทล.21 – บ้านนาซำแซง อำเภอภูเรือ, วังสะพุง จังหวัดเลย (ช่วง กม.ที่ 22+241 – 22+270)
5) สะพาน ลย.018 สะพานอนุสรณ์ศรีฐานคณานุยุต อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย
6) ถนนสาย ตก.5015 แยกทางหลวงชนบท ตก.1004 – บ้านแม่เชียงราย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก (ช่วง กม.ที่ 5+900 – 5+940)
ทั้งนี้ แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ได้ระดมเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้น และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งปิดการจราจร ติดตั้งป้ายห้ามใช้เส้นทาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงชนบทขอความร่วมมือประชาชนโปรดระมัดระวังในการใช้เส้นทาง สังเกตป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และโปรดวางแผนก่อนออกเดินทาง เพื่อเลี่ยงเส้นทางที่เกิดอุทกภัย หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่แขวงทางหลวงชนบทในพื้นที่ หรือสายด่วน 1146