หน้าแรก Thai PBS จับกระแสการเมือง: วันที่ 7 ต.ค.2567 “ บิ๊กต่าย”อาทิตย์ดวงใหม่กรมปทุมวัน? เนวินพบทักษิณ อนุทินบอกไร้สาระ

จับกระแสการเมือง: วันที่ 7 ต.ค.2567 “ บิ๊กต่าย”อาทิตย์ดวงใหม่กรมปทุมวัน? เนวินพบทักษิณ อนุทินบอกไร้สาระ

51
0
จับกระแสการเมือง:-วันที่-7-ตค.2567-“-บิ๊กต่าย”อาทิตย์ดวงใหม่กรมปทุมวัน?-เนวินพบทักษิณ-อนุทินบอกไร้สาระ
จับกระแสการเมือง: วันที่ 7 ต.ค.2567 “ บิ๊กต่าย”อาทิตย์ดวงใหม่กรมปทุมวัน? เนวินพบทักษิณ อนุทินบอกไร้สาระ

ไม่ต้องลุ้นมากับดวงล้วน ๆ เป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “บิ๊กต่าย” พล .ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.คนที่ 15 แม้จะมีแคนดิเดต แต่ด้วยอาวุโสอันดับ 1 และฝ่ายการเมืองหนุนนำ ทำให้ลอยลำนั่งแท่นเก้าอี้พิทักษ์ 1 แบบไร้กังวลหลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจ ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 ในฐานประธาน ก.ตร. เสนอให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจแห่งชาติ(ก.ตร.) จำนวน 12 คน เพื่อพิจารณาเห็นชอบ

อ่านข่าว : กู้ศรัทธา – ลบขัดแย้งองค์กร บททดสอบ “บิ๊กต่าย” ผบ.ตร.คนที่ 15

โดยตัด 3 แคนดิเดต คือ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ, พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจ อาวุโสอันดับ 2 และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.อาวุโส อันดับ 3 เหลือ 9 คน ส่วนนายกฯงดออกคะแนนเสียง จึงเหลือ ก.ตร. ผู้ลงคะแนนเสียง 8 คน

และทุกคนผ่านฉลุยให้ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เป็นเจ้ากรมปทุมวันคนต่อไป ต้องจับตาดูว่า ภายใต้การนำของอาทิตย์ดวงใหม่ วงการตำรวจไทยจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่

ขณะที่ “แพทองธาร” นายกฯ ซึ่งเข้าร่วมประชุมในฐานะ ปธ.ก.ตร.ครั้งแรก บอกว่า ภูมิใจที่เป็นลูกหลานตำรวจ และอยากฝากถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้สานต่อนโยบายของรัฐบาล เนื่องจากมีนโยบายเร่งด่วนทั้งเรื่องของยาเสพติดและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ส่วนปมดรามาร้อน อ่านไอแพดในวงประชุม ACD ที่ผ่านมา นายกฯ ระบุว่า ได้โพสต์ลงในสตอรี่อินสตราแกรม การทำงานและกระแสเป็นเรื่องหนึ่ง การทำงานให้สำเร็จถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่บางครั้งรู้สึกว่าถูกเข้าใจผิด รู้ข้อมูลไม่ครบ จึงอยากอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่ได้คิดว่าการโพสต์ลงโซเชียล คือการแขวะให้ทัวร์ลง ทุกคนสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้อยู่แล้ว …การด่วนตัดสินคนอื่น ก็ต้องมีข้อมูลในการวิจารณ์ด้วย และคิดว่าการใช้ไอแพด เป็นเรื่องที่ทุกคนใช้กันทั่วโลก หรือใครจะใช้หรือใช้ก็แล้วแต่บุคคล แต่การประชุมหลักสำคัญระหว่างประเทศควรจะใช้ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบประเด็นถูกต้อง”

นายกฯ ยังชี้แจงอีกว่า …ถ้าเป็นเรื่องของกฎหมาย เรื่องความอ่อนไหว จะก้มอ่านทั้งประโยค เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด แต่ถ้าถามเรื่องการลงทุน ก็พร้อมตอบ ไม่ได้ก้มอ่าน การประชุมใหญ่สปีชต้องอ่านทั้งหมดให้ที่ประชุมทุกคนรับรู้ตรงกัน

ไร้สาระ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เห็นว่า ประเด็นนี้ควรสนใจสาระมากกว่ารูปแบบ เพราะสิ่งนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศที่แต่ละประเทศจะต่อรองกัน มันอยู่ที่สาระไม่ได้อยู่ที่ใช้ไอแพด หรือ ไม่ใช้ จะเปิดดูหรือไม่เปิดดู ที่จริงแล้วตามวัตรปฏิบัติที่ทำกันมาก็ไม่ได้มีปัญหา เปิดดูเพราะสปีชหรือการพูดที่เป็นทางการมาก ๆ ไม่มีใครพูดสด อ่านกันทั้งนั้น บางทีเห็นผู้นำระดับโลกยืนพูดมีพรอมเตอร์ (prompter) ให้เห็นทั้งนั้น

“อย่าใช้อคติมาจ้องเล่น เรื่องรูปแบบมันไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ แต่ถ้าสาระไปเจรจา แล้วได้เปรียบเสียเปรียบ ประโยชน์ต่อประเทศมันเกิดหรือไม่เกิด อันนั้นมันน่าคุยกว่า ผมอยากเชิญชวนมาแก้ไขด้วยสาระ เพื่อแก้ไขปัญหามากกว่าจะมาคอยจับผิด จับถูกว่าสำเนียงเป็นยังไง เสียงเป็นยังไง แต่งตัวเป็นยังไง ในสายตาผมมันไร้สาระ” 

ข้ามมาที่ค่ายสีน้ำเงิน หลังเกิดกระแสสะพัด เจ้ากระทรวงคลองหลอด “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ควงครูใหญ่ “เนวิน ชิดชอบ” ดอดเข้าพบ “ทักษิณ ชินวัตร” บอสใหญ่ตัวจริงพรรคเพื่อไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ช่วงเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรม การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล ได้ให้คนขับรถไปจอดรถชั้นใต้ดินแล้วขึ้นลิฟท์มายังห้องประชุมทันที

และหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม มท.หนู “อนุทิน” ได้ลงจากตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยใช้ประตูชั้นใต้ดิน เพื่อเลี่ยงเจอสื่อมวลชน ก่อนที่จะนั่งรถมาลงที่บริเวณด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อร่วมประชุมเรื่องความปลอดภัยทางถนนกับนายกรัฐมนตรี ห้องสีเขียว โดยไม่ตอบคำถามถึงกระแสข่าวดังกล่าว

และเมื่อถูกถาม ได้ตอบกลับเพียงว่า “ไร้สาระ” พร้อมถามกลับ “ใครเป็นคนออกข่าว” พร้อมกับส่ายหน้า ก่อนออกจากทำเนียบฯ

Comeback ทำเนียบ “เต้น” ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ หลังเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้เซ็นแต่งตั้ง “ธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส” อดีตปลัด สปน.และ “ณัฐวุฒิ” เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติม เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11(6) แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2535 เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา และพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่าง ๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย หลังก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้ง จิรายุ ห่วงทรัพย์ ให้เข้ามาช่วยงาน

ยังไหว “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ไม่ได้ประจำการอยู่ในเมืองหลวง แต่ยังอยู่ในพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกองทัพเรือในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อให้กำลังใจกำลังพล ชุดฟื้นฟูจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) โดยมี น.อ.สมเจษฎ์ พ่วงรักษ์ รอง ผบ.กรม สอ.1.หน.ชุดฟื้นฟู สอ.รฝ.พร้อม น.ท.คงฤทธิ์ บุญทอง ผบ.พัน. สอ.21 และ น.ท.ศิวดล แปลงแดง ผบ.พัน สอ.11 นำลงพื้นที่บ้านผาจม อ.แม่สาย จ.เชียงราย

เช่นเดียวทีมกู้ภัยที่ยังไม่ถอย ไม่ว่าจะเป็นทีมองค์กรทำดี ของ “บุ๋ม” ปนัดดา วงศ์ผู้ดี, มูลนิธิร่วมกตัญญู นำทีมโดย “บิณฑ์ -เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์”, ทีมของฝันดี-ฝันเด่น ใจถึงใจคนไทยไม่ทิ้งกัน และมีแนวโน้มว่าจะยังอยู่ในพื้นที่อีกยาวเพราะแม้น้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ความเสียหายยังมีอยู่โดยเฉพาะการโคลนดินออกจากพื้นที่ 

อ่านข่าว : เลาะรั้วสนามเล็ก นายก อบจ. “อุทัยฯ-ระนอง-ยโสธร”ถ้อยอาศัยพรรคร่วม ?

“อนุทิน​” หลบสื่อฯ​ หลังข่าวสะพัดควง “เนวิน​” เข้าพบ​ “ทักษิณ”

กลุ่มธรรมาภิบาลฯ ยื่นสอบ “นันทนา” เข้าข่ายขัดจริยธรรม พาดพิงอาชีพขายหมู

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่