วันนี้ (7 ต.ค.2567) พล.ท.สิรภพ ศุภวานิช เจ้ากรมการทหารช่าง เป็นประธานส่งนักเรียนนายสิบจิตอาสาช่วยเหลือประชาชนแม่สาย เป็นนักเรียนนายสิบทหารบกเหล่าช่าง รุ่นที่ 27 จำนวน 162 นาย พร้อมผู้ควบคุม ช่วยฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วมที่อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วงวันที่ 7-22 ต.ค.นี้
อ่านข่าว พังตั้งแต่ 26 ก.ย “ฝายบ้านดอยน้อย” พบขยะ-ประตูสลิงขาด
ภารกิจที่นักเรียนนายสิบจะต้องเข้าไปร่วมสนับสนุน คือการนำดินโคลนออกจากบ้านเรือนประชาชน 10 คนต่อ 1 หลัง ถือว่าเป็นการทำกุศลครั้งใหญ่ เพราะชาวแม่สาย กำลังยากลำบาก เชื่อว่าจะได้รับรอยยิ้มจากชาวแม่สาย
ถือว่าเป็นภารกิจที่มีเกียรติ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน และการเดินทาง โดยต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วน รวมทั้งการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งสนับสนุนการเดินทางตู้นอน จากสถานีกลางบางซื่อ ไปยังสถานีรถไฟเชียงใหม่ และเดินทางต่อด้วยรถโดยสารที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 เข้าพื้นที่ อ.แม่สาย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
อ่านข่าว รพ.สุโขทัย เร่งป้องกันน้ำท่วม หลังคลองแม่ลำพันน้ำล้นตลิ่ง
ทั้งนี้นอกจากเป็นการเสริมกำลังในการช่วยเหลือประชาชนแล้ว นักเรียนนายสิบทหารบก เหล่าทหารช่าง ยังได้นำความรู้จากการศึกษาวิชาจิตอาสาภัยพิบัติมาฝึกปฏิบัติจริง ในการดำเนินงานด้านจิตอาสาบรรเทาสาธารณภัย
ซึ่งจะทำให้นักเรียนนายสิบทหารบกได้เห็นภาพการวางแผนงานการปฏิบัติงาน ทั้งก่อนระหว่างและหลัง สภาวะภัยพิบัติ เพื่อนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับ ไปใช้ประโยชน์ต่อประชาชนเมื่อสำเร็จการศึกษาต่อไป
นักเรียนนายสิบ พัทธมน มาลัย หนึ่งในนักเรียนนายสิบทหารบก เหล่าทหารช่าง รุ่นที่ 27 ที่ได้เดินทางร่วมภารกิจครั้งนี้ ระบุว่า มีเวลาในการเตรียมตัว 2 วัน หลังจากรับทราบภารกิจ ส่วนตัวก็อยากจะไปร่วมช่วยเหลือประชาชนดูแล้ว
ทั้งนี้ถือว่าเป็นการใช้ทักษะความรู้ที่เรียนมาไปปฏิบัติจริงก่อนจะจบการศึกษาจากโรงเรียนนายสิบ ด้วยการไปช่วยเหลือประชาชนยกรุ่น ก่อนออกไปรับราชการ และครอบครัวก็ให้กำลังใจในการไปปฏิบัติช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้
อ่านข่าว ผงะ! ประตูฝายบ้านดอยน้อยชำรุด ส่งผลเคลียร์ “น้ำปิง” ช้า
ชี้บ้านหลายหลังเสี่ยงทรุด “โซนแดง”
ขณะที่วิศวกรอาสา ลงพื้นที่ จ.เชียงราย สำรวจความเสียหายโครงสร้างบ้านเรือนประชาชนเป็นครั้งที่ 2 หลังน้ำท่วมซ้ำ โดยบ้านของนายพิเชษฐ์ ม่วงยิ้มพงษ์ ในพื้นที่ชุมชนสายลมจอย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่าโครงสร้างบ้านที่ติดกับแนวแม่น้ำสาย พังเสียหายเกือบทั้งหมด ส่งผลให้ทางเจ้าของบ้านไม่มั่นใจ และเกรงว่าหากต้องกลับเข้าไปฟื้นฟูบ้าน
เบื้องต้นจากการตรวจสอบและประเมิน ของทีมวิศวกรอาสา พบโครงสร้างบ้านที่มีการต่อเติม ก่อสร้างแนวแม่น้ำสายอยู่ในโซนสีแดง ไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้ ประกอบกับรากฐานของโครงสร้างบ้านอาจจะเกิดการ ทรุดตัวได้ตลอดเวลา เนื่องจากน้ำยังคงท่วมขัง
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า เดิมน้ำท่วมรอบแรก พบเสียหายมีกำแพงกันระหว่างบ้านและแม่น้ำสายเพียงบางส่วน แต่รอบนี้ส่งผลให้กำแพงและบ้านพังเสียหายไปทั้งหมด
สำหรับกับการลงพื้นที่ตรวจสอบ-ประเมินความเสียหายของสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ถือเป็นหนึ่งในภารกิจที่ต้องการช่วยให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย หากต้องกลับเข้าไปอยู่อาศัยภายในบ้าน
นายบัณฑิตย์ พันธ์พลากร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย บอกว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ของทีมวิศวกรอาสา ทำให้เห็นข้อเท็จจริงหลายอย่าง
เช่น โครงสร้างบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายจากดินถล่ม และบ้านเรือนที่พังเสียหายจากกระแสน้ำพัดจนเกิดการทรุดตัว
ถือว่าอันตรายและไม่เหมาะกับการอยู่อาศัย แต่สิ่งที่ขาดคือบุคลากรที่มีความรู้ ทางด้านวิศวะ งานช่าง รวมถึงแรงงานที่จะต้องเข้ามาฟื้นฟูความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน จึงจะสามารถฟื้นฟูได้