ต้นไม้ที่เกิดในป่า ก็ยังมีคนเห็นจนได้ ฉันใด การพบกันระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” บอสใหญ่พรรคเพื่อไทย และครูใหญ่ภูมิใจไทย “เนวิน ชิดชอบ” โดยมี มท.หนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นสะพานเชื่อม ก็ปิดไม่มิด ฉันนั้น
โดย “อนุทิน” ยอมรับว่า เป็นคนชวน “เนวิน” ไปรับประทานอาหารมื้อเย็นที่บ้านของ “ทักษิณ” จริง เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องในวันคล้ายวันเกิดของนายเนวิน ครบรอบ 66 ปี เบิร์ทเดย์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างแฮปปี้
แม้ก่อนหน้านี้ อนุทิน แม้จะไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฎิเสธจริงจัง ตอบสั้น ๆ เมื่อถูกนักข่าวถามในเรื่องดังกล่าวว่า “ไร้สาระ” แถมวันนี้ ยังบอกอีกว่า เมื่อวานก็ไม่ได้หนี แต่แกล้งผู้สื่อข่าว
“ท่าน(ทักษิณ) เป็นคนใจดีให้เสื้อแจ็กเกตมา 1 ตัว ซึ่งผมก็ไม่ได้ …ความสัมพันธ์ระหว่างนายเนวินและนายทักษิณ ไม่ได้มีการโกรธอะไรกัน เรื่อง คำว่ามันจบแล้วครับนาย ใครก็ไม่รู้เป็นคนพูด ผมอยู่มาเป็นสิบกว่าปี ยังไม่เคยได้ยินเลย ก็ใส่กันไป กล้าพูดหรือถามจริง กับคนที่เป็นเจ้านาย แล้วเราไปพูดคำว่ามันจบแล้วครับนาย มันไม่มีหรอกครับ พูดมาไม่รู้กี่ครั้งก็ยังเอาคำนี้กลับขึ้นมา”
มท.หนู อนุทิน ปฏิเสธว่า การเข้าพบทักษิณไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วจะไปพูดคุยได้อย่างไร เพราะคนแก้ไขคือพวกคน คนที่นั่งอยู่ใน ครม. และสภา
ส่วนแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงคลองหลอด ที่มีประเด็นดรามาว่า สาย ปลัดเก่ง “สุทธิพงษ์ จุลเจริญ” อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย หลุดออกจากโผการแต่งตั้ง 25 ตำแหน่งจาก 30 ตำแหน่ง มท.หนู อนุทิน ระบุว่า ต้องตั้งตัวจริงเข้าไปทำงาน เพราะประสบปัญหาภัยธรรมชาติต่าง ๆ มาก ต้องมีตัวจริงเข้าไปทำงานให้ไว เนื่องจากรักษาการไม่เต็มไม้เต็มมือ ส่วนตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ที่เป็นที่จับจ้อง ต้องถามวาส แล้วบุรีรัมย์เจริญหรือไม่ และคนที่เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หรือลำพูนก็ได้ขึ้น
ไม่มีสายใครวันนี้ก็ต้องสาย มท.1 ทุกคนที่อยู่ในมหาดไทย ตราบใดที่ มท.1 ยังอยู่ ก็ต้องเป็นสาย มท.1 ถึงจะทำงาน ทำนโยบายได้ ไม่มีสายใคร ตนไม่เคยมองใครเป็นสายใคร
ต้องให้เวลา “ต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกหลังจาก ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ขณะนี้พรรคประชาชนกระแสตกว่า ต้องให้เวลาให้เวลาในการจัดระบบบุคลากร ระบบการทำงานอีกสักพัก ซึ่งยังมีเวลาอยู่ เข้าใจว่าข้อวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลาย ข้อบกพร่องจากการทำงานที่ผ่านมา ผู้บริหารพรรค รวมถึง สส. และสมาชิกพรรคมีการพูดคุยตลอดเวลาและตระหนักดีว่าจะมีการปรับปรุงอย่างไร
“..คงมีหลายปัจจัย เช่น ความนิยมของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคคนใหม่ คงต้องให้เวลาเขา เป็นเรื่องปกติที่แกนนำพรรคคนใหม่ขึ้นมาก็ต้องใช้เวลาในการทำให้สังคมรู้จัก และได้สัมผัสถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ รวมถึงวิสัย ทัศน์ที่จะทำให้ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ต้องใช้เวลาพิสูจน์ พรรคประชาชนยังมีเวลาอยู่”
นับถอยหลัง ไพบูลย์ นิติตะวัน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บอกว่า วันที่ 10 ต.ค.นี้ หรืออีกเพียง 2 วัน ไม่ถึง 48 ชั่วโมง จะเกิดเหตุการณ์ที่เป็นจุดเริ่มต้นที่ไปถึงบทจบของพรรคแกนนำรัฐบาลพรรคหนึ่ง ถึงขั้นล่มสลาย โดยขอให้จับตาเวลาประมาณ 7.00 น.พรุ่งนี้ (9 ต.ค.2567) จะมีการแจ้งไปยังสื่อมวลชนรับทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร
แต่เชื่อมั่นว่า จะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องใหญ่มาก และจะพัฒนาไปถึงจุดจบของพรรคแกนนำรัฐบาลได้อย่างแน่นอน
ส่วนใครจะเป็นคนแจ้งเดี๋ยวก็จะรู้เอง ส่วนการประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประรัฐวันนี้ มีระเบียบวาระสำคัญคือ การเสนอตั้งศูนย์บริหารเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ เพื่อให้ที่ประชุมมีมติจัดตั้งตามแนวทางการปรับโครงสร้างทพรรคพลังประชารัฐ รองรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
เจ็บแสบ แปลบทรวง หลัง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มีหนังสือแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีฯ โดยมีชื่อ “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี คนเคยรักอย่าง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บอกว่า ก่อนที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะออกจากโรงพยาบาลตำรวจ เพียงหนึ่งวัน พรรคเพื่อไทยก็ได้ไปถอนกฎหมายจะให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือญาติผู้เสียชีวิตสามารถร้องตรงกับศาลกีฎา แผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ จึงมองว่า เป็นการ ตระบัดสัตย์ ไม่เป็นไปตามที่พูด
“วันนั้น ณัฐวุฒิ ก็ประกาศว่าจะไม่ร่วมกับรัฐบาล น้ำตาคลอเบ้า แต่วันนี้ กลับไปอยู่ใจกลางของรัฐบาล…ส่วนที่คนชอบเอามาวิเคราะห์เปรียบเทียบผม และนายณัฐวุฒิ เป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนตัวเห็นว่า ไม่ได้เป็นเรื่องความพูดเก่งแต่เป็นเรื่องของการพูดความจริง ที่ไม่มีใครแพ้ใคร เพียงแต่ความจริงอยู่ตรงไหน ดังนั้นแค่จุดสตาร์ทไม่เป็นความจริง 2 ขยัก ส่วนเหตุผลจะเป็นอย่างไรนั้นต้องให้เจ้าตัวเป็นคนตอบ”
ติดตามตอนต่อไป “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.) กล่าวถึงกรณี 2 สส.พรรคเล็ก เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังสังคมใหม่ และกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคใหม่ ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรม จะทำให้พรรคมี สส.เป็นครั้งแรกว่า ต้องรอขั้นตอนที่เขาจะไปรายงานต่อสภา ถึงการเปลี่ยนแปลงสังกัด
หากมีความชัดเจนอย่างไรจะแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบอีกครั้ง ก็เป็นอย่างที่เป็นข่าวส่วนจะมี สส.อื่นย้ายมาสังกัดพรรคฯเพิ่มขึ้นหรือไม่ ยังตอบไม่ได้ แต่ขอให้รอติดตามตอนต่อไป
อ่านข่าว : นักเรียนไทยคว้า 26 รางวัล “คณิต-วิทย์โอลิมปิกระหว่างประเทศ”
กวางหลุดจากวัด ยืนเนียนกลางรูปปั้นสัตว์ บนเกาะกลางถนน
สำรวจกายภาพ “ทางด่วนฉลองรัช” กรณี รถตกทางด่วน มีผู้เสียชีวิต