หน้าแรก Voice TV ‘ประเสริฐ’ ย้ำ ‘รัฐบาล’ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโต AI สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน ปั้นบุคลากรมากกว่า 3 หมื่นคนภายในปี 70

‘ประเสริฐ’ ย้ำ ‘รัฐบาล’ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโต AI สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน ปั้นบุคลากรมากกว่า 3 หมื่นคนภายในปี 70

28
0
‘ประเสริฐ’-ย้ำ-‘รัฐบาล’-มุ่งขับเคลื่อนการเติบโต-ai-สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ-4.8-หมื่นล้าน-ปั้นบุคลากรมากกว่า-3-หมื่นคนภายในปี-70
‘ประเสริฐ’ ย้ำ ‘รัฐบาล’ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโต AI สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน ปั้นบุคลากรมากกว่า 3 หมื่นคนภายในปี 70

‘รองนายกฯประเสริฐ’ ย้ำ ‘รัฐบาล’ มุ่งขับเคลื่อนการเติบโต AI สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 4.8 หมื่นล้าน ปั้นบุคลากรมากกว่า 3 หมื่นคนภายในปี 70 ชี้งาน Delta Future Industry Summit 2024 นำร่องปลดล็อกศักยภาพพร้อมต้อนรับการวางแผนลงทุน 500 ล้านเหรียญในไทยใน 5 ปีข้างหน้า

วันที่ 18 ตุลาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษเพื่อนำเสนอเส้นทางสู่ยุค AI ของประเทศไทย ในหัวข้อ ‘การมุ่งหน้าสู่ยุค AI ของประเทศไทย’ ในการประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Delta Future Industry Summit 2024 ภายใต้ธีม ‘ปลดล็อกศักยภาพ AI รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมและดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Unlocking the Potential of AI for Industrial and Data Center Growth in Southeast Asia)’ ซึ่งจัดโดยบริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมชาเทรียม แกรนด์ กรุงเทพฯว่า ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ใช่กระแสที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หากแต่เป็นพลังขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่จะปฏิรูปเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และสังคมของเราอย่างรอบด้าน จากการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาด AI ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 826 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 นั้นประเทศไทยพร้อมคว้าโอกาสนี้ผ่านแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ซึ่งวางกรอบการดำเนินงานไว้อย่างเป็นรูปธรรม 

“เป้าหมายของเราคือการสร้างบุคลากรด้าน AI ให้ได้มากกว่า 30,000 คนภายในปี 2570 พร้อมทั้งส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย AI ให้มีมูลค่ารวมมากกว่า 48,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคก็กำลังเร่งลงทุนด้าน AI อย่างจริงจัง โดยมุ่งหวังที่จะเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ผมมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นในภูมิภาค เราจะสามารถยกระดับตำแหน่งของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เป็นกำลังสำคัญระดับโลกในด้านนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างแน่นอน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีกล่าว 

ด้าน นายวิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเดลต้า ประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้้ร่วมรับฟังการอภิปรายที่น่าสนใจในงาน Delta Future Industry Summit 2024 ซึ่งมุ่งวิเคราะห์บทบาทของ AI ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมชั้นนำต่าง ๆ เดลต้ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ ผ่านโซลูชันนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบของเรา ตัวอย่างเช่น โซลูชันระบายความร้อนขั้นสูง Air-Assisted Liquid Cooling (AALC) ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งให้ความสามารถในการระบายความร้อนมากกว่า 2.5 เท่าและใช้พลังงานน้อยกว่า 7% เมื่อเทียบกับการระบายความร้อนด้วยอากาศแบบเดิม วิสัยทัศน์ของเดลต้าไม่เพียงแค่มุ่งก้าวล้ำนำหน้ากระแสเท่านั้น แต่เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์อนาคตที่เทคโนโลยีสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจ และขับเคลื่อนด้วยหลักความยั่งยืน เพื่อก้าวสู่โลกที่ชาญฉลาด ยั่งยืน และเชื่อมโยงถึงกัน”

นางภารดี สินธวณรงค์ Head of Marketing, Thailand & Vietnam at Facebook Thailand กล่าวว่า ที่ Meta เราภูมิใจที่ได้เชื่อมโยงผู้คนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกด้วยวิธีการที่สร้างแรงบันดาลใจและล้ำสมัย โดยมีผู้ใช้งานรายวันมากกว่า 3,270 ล้านคน เพื่อส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจต่าง ๆ เราได้ลงทุนมากกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการเชื่อมต่อเหล่านี้ ขณะนี้ เทคโนโลยี Gen AI สำหรับธุรกิจของเราได้เปิดให้บริการแก่ธุรกิจในประเทศไทยผ่านฟีเจอร์ Advantage+ Creative โดยในเดือนที่ผ่านมา มีผู้ลงโฆษณามากกว่า 1 ล้านรายทั่วโลกที่ใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์โฆษณาที่เกี่ยวกับ AI เชิงสร้างสรรค์อย่างน้อยหนึ่งฟีเจอร์ ด้วยการใช้ทรัพยากรเชิงสร้างสรรค์มาเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการกำหนดเป้าหมาย ฟีเจอร์ Advantage+ Creative ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งแคมเปญให้เป็นรูปแบบที่หลากหลาย เพิ่มประสิทธิภาพด้านเวลาและทรัพยากร พร้อมสร้างการปรับแต่งเฉพาะบุคคลและการเชื่อมต่อในระดับที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ด้าน นายทิม โรเซนฟิลด์ ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัท Firmus Technologies และ Sustainable Metal Cloud (SMC) ได้เน้นย้ำว่าแม้ AI จะสามารถปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง แต่หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดที่เราเผชิญคือความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราพบโอกาสสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้โดยอาศัยระบบโครงสร้างพื้นฐานการทำความเย็นด้วยของเหลว หรือ Liquid cooling infrastructure ที่เข้ามาเป็นตัวพลิกโฉมการใช้พลังงานในระบบโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าว โดยเทคโนโลยีนี้สามารถลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึงร้อยละ 50 นายทิมยังเน้นย้ำว่า การปรับปรุงดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่เดิมด้วยเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ทำได้จริง แต่ยังมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม ควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับการประชุมสุดยอดอุตสาหกรรมแห่งอนาคต หรือ Delta Future Industry Summit 2024 เป็นเวทีสำคัญในการเรียนรู้โอกาสและความท้าทายที่เกิดขึ้นจากเทรนด์อุตสาหกรรมใหม่ที่กำลังเป็นกระแส เพื่อจุดประกายให้เกิดแนวคิดใหม่ ๆ สำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน ในปีนี้ การประชุมฯ ได้มีการรวบรวมบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี รวมไปถึงผู้นำนวัตกรรมและผู้กำหนดนโยบายมากมายไว้ที่นี่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในอนาคตในภูมิภาค โดยเน้นย้ำบทบาทและศักยภาพของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ ด้วยพลังของ AI เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยบริษัทเดลต้า ประเทศไทย มีความตั้งใจในการลงทุนในประเทศไทย 500 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงห้าปีข้างหน้า โดยคาดว่าการลงทุนนี้จะครอบคลุมถึงการวิจัยและพัฒนา การสร้างฐานโรงงานใหม่ การปรับปรุงโรงงาน กิจกรรมด้านการสร้างความยั่งยืน รวมถึงการลงทุนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย RE100 ภายในปี 2030 และโครงการด้านการศึกษาในท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญให้กับประเทศในช่วงเวลาดังกล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่