หน้าแรก Voice TV ‘สส.เพื่อไทย’ ชี้ ‘กฎหมายรังนก’ ล้าหลัง กีดกันประชาชน เรียกร้องสภาฯ ร่วมผลักดันญัตติศึกษาฯ กฎหมายปลดล็อกให้เกษตรกรสร้างรายได้

‘สส.เพื่อไทย’ ชี้ ‘กฎหมายรังนก’ ล้าหลัง กีดกันประชาชน เรียกร้องสภาฯ ร่วมผลักดันญัตติศึกษาฯ กฎหมายปลดล็อกให้เกษตรกรสร้างรายได้

55
0
‘สส.เพื่อไทย’-ชี้-‘กฎหมายรังนก’-ล้าหลัง-กีดกันประชาชน-เรียกร้องสภาฯ-ร่วมผลักดันญัตติศึกษาฯ-กฎหมายปลดล็อกให้เกษตรกรสร้างรายได้
‘สส.เพื่อไทย’ ชี้ ‘กฎหมายรังนก’ ล้าหลัง กีดกันประชาชน เรียกร้องสภาฯ ร่วมผลักดันญัตติศึกษาฯ กฎหมายปลดล็อกให้เกษตรกรสร้างรายได้

‘สกุณา สาระนันท์’ สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ชี้ ‘กฎหมายรังนก’ ล้าหลัง กีดกันประชาชน เรียกร้องสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกันผลักดันญัตติศึกษาฯ หวังนำไปสู่การแก้ไขกฎหมายปลดล็อกให้เกษตรกร เปิดโอกาส สร้างโอกาส-อาชีพ-รายได้

วันที่ 20 ตุลาคม 2567 นางสาวสกุณา สาระนันท์ สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความบนเพจ ‘สกุณา สาระนันท์’ ระบุถึงปัญหาการดำเนินธุรกิจรังนกในประเทศไทย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แม้เกษตรกรจำนวนมากในหลายพื้นที่จะใช้ภูมิปัญหาและมีความสามารถในการดำเนินธุรกิจนี้ได้แล้วในปัจจุบัน 

นางสาวสกุณา ระบุว่า รังนกถือเป็นสินค้ามูลค่าสูงที่ช่วยเสริมเศรษฐกิจไทย แต่กลับประสบปัญหาจากการที่กฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจรังนก อาทิ พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ยังไม่มีความชัดเจนในข้อกฎหมายอนุบัญญัติ ส่งผลให้การออกใบอนุญาตและการดำเนินกิจการยังไม่เป็นไปตามกฎหมาย ผู้ประกอบการจำนวนมากยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดที่ทำให้ธุรกิจไม่สามารถขยายตัวได้ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการต่างวิพากษ์วิจารณ์และร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่องว่าบัญญัตติในกฎหมายอาจเข้าข่ายผูกขาดเฉพาะบางกลุ่มที่สามารถปรับตัวให้เข้ากับอุปสรรคทางกฎหมายได้ง่ายหรือไม่ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการรายย่อยยังคงประสบปัญหาในการขออนุญาตและปรับปรุงธุรกิจของตน การขาดการดูแลที่เป็นธรรมในด้านนี้ อาจก่อให้เกิดการผูกขาดในตลาดรังนก ซึ่งทำให้การกระจายรายได้ไม่เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ปัญหาด้านสุขอนามัย และการรบกวนชุมชนก็เป็นอีกประเด็นที่สกุณาเน้นย้ำ ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลจากปัญหาความล้าช้าในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง กฎหมายสาธารณสุข และกฎหมายควบคุมอาคาร ทำให้การจัดการปัญหาความสะอาดและการรบกวนชุมชนจากธุรกิจรังนกไม่ได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด จนเกิดการกระทบกระทั่งและมีข้อพิพาทเป็นปัญหาคาราคาซังระหว่างผู้ประกอบการและชาวบ้าน จึงเรียกร้องให้ภาครัฐเร่งดำเนินการออกกฎหมายให้ครบถ้วนและทันสมัย เพื่อให้ธุรกิจรังนกสามารถเติบโตไปพร้อมกับการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชุมชนได้อย่างยั่งยืน

นางสาวสกุณา กล่าวว่า ตนจึงได้เสนอญัตติ ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการดำเนินกิจการรังนกแอ่น เข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการดำเนินการจัดทำร่างระเบียบข้อบังคับให้สอดคล้องกับการยกระดับศักยภาพธุรกิจรังนกไทย และหาทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งเมื่อมีการพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว ก็หวังว่าจะมีการผลักดันไปสู่การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชน ได้มีอาชีพเพื่อรายได้ต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่