วันนี้ (21 ต.ค.2567) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงคดีการสลายการชุมนุมที่บริเวณด้านหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ที่ใกล้จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ ในฐานะที่กำกับดูแลด้านความมั่นคง มีความกังวลการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่หรือไม่ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเป็นห่วงและเฝ้าระวังอยู่แล้ว แต่จริง ๆ แล้ว การก่อเหตุในพื้นที่มีมาตลอด ไม่ใช่เพิ่งมามีในช่วงที่มีคดีตากใบ
เป็นไปตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ของผู้ก่อเหตุ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องหน่วยข่าว เพื่อหาข้อมูล ในถิ่นที่อยู่หรือพื้นที่ที่เคยไปของผู้ต้องหา ซึ่งขอให้เข้าไปดูในรายละเอียด และเข้าไปตามหมายศาล หรือหมายจับที่มีอยู่ โดยได้กำชับให้เร่งจับกุมตั้งแต่วันแรกที่มีหมายจับออกมา
จะเห็นได้ว่า ตนได้สั่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ท่านก็ได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง พร้อมสั่งการให้ผู้บัญชาการภาคลงไปในพื้นที่ที่มีปัญหา ตอนนี้ได้เร่งติดตามตัวอยู่ แต่ไม่รู้ว่าผู้ต้องหาอยู่ที่ไหน ซึ่งได้มีการประสานกับทางตำรวจสากลในการติดตามด้วย
นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ว่าเราจะละเลยหรือไม่สนใจ เป็นเรื่องเหมือนคดีทั่วไปที่จับใดบ้าง จับไม่ได้บ้าง ตรงนี้ไม่ใช่ข้อแก้ตัว อย่างไรเราก็ต้องทำอย่างเต็มที่ อีกทั้งคดีนี้มีความต่อเนื่องมากกว่า 20 ปี เพราะทัศนคติในการมองเรื่องนี้ก็ยังมีความเห็นที่แตกต่าง ตนคิดว่าก็จะต้องให้ทุกคนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้วให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน เรามีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างตามกฎหมาย
นายภูมิธรรมยังกล่าวอีกว่า รู้สึกไม่สบายใจ ที่มีการหยิบยกเอาคดีตากใบขึ้นมาโทษรัฐบาลนี้ ว่าเป็นผู้ร้าย แต่เราเข้าใจถึงความเจ็บปวด ความเสียหายของญาติทั้งหมด ไม่ควรที่จะมากล่าวหารัฐบาลหรือกล่าวหานายกรัฐมนตรีว่ารู้เห็นเป็นใจ เพราะเรื่องนี้เกิดเมื่อ 20 ปีก่อน และเมื่อ 20 ปีก่อน
ไม่ได้หมายความว่า ท่านรู้เห็นเป็นใจ ขณะนี้ท่านก็ได้ทำตามหน้าที่ ได้กำชับสั่งการไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงตน ไม่อยากให้มองคดีตากใบในจุดเดียว เพราะข้อมูลที่ออกมามีหลายส่วนหลายจุด ไม่อยากให้ถูกขยายความ อยากให้มองแค่เรื่องผลกระทบของญาติ ซึ่งหากไปขยายความก็อาจจะบานปลาย และไปกระทบกับเรื่องการต่อสู้ของกองกำลังในภาคใต้ และกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกศาลออกหมายจับและยังไม่มารายงานตัวคือ
จำเลยที่ 1 พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 สส.พรรคเพื่อไทย
จำเลยที่ 2 พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพชร อดีต ผบ.พล.ร.5
จำเลยที่ 3 พล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ อดีต ผอ.ศปก.ตร.สน.
จำเลยที่ 4 พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ อดีต ผบช.ภาค 9
จำเลยที่ 5 พล.ต.ต.ศักดิ์สมหมาย พุทธกูล อดีต ผกก.สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส
จำเลยที่ 6 นายศิวะ แสงมณี อดีตรอง ผอ.กอสส.จชต. และอดีตรองปลัดฯมหาดไทย
จำเลยที่ 7 นายวิชม ทองสงค์ อดีต ผวจ.นราธิวาส
อ่านข่าว : 20 ปี “คดีตากใบ” เงื่อนไขไฟใต้ครั้งใหม่
20 ปี ตากใบบาดแผลรอวันเยียวยา บนเส้นทางสันติภาพชายแดนใต้