วันนี้ (21 ต.ค.2567) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยหัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แถลงภายหลังร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดีและถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้รับประทานอาหารร่วมกัน ได้พูดคุยกันอย่างสบาย ๆ มีเรื่องอยากจะหารือก็ได้หารือกัน ซึ่งได้ตกลงร่วมกันว่าจะมีดินเนอร์ร่วมกันในลักษณะนี้ต่อไปและพรรคภูมิใจไทยจะเป็นเจ้าภาพในครั้งหน้า
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า วันนี้มีการพูดคุยหลายเรื่อง ทั้งเรื่องที่จะทำงานร่วมกันและตนเองได้ย้ำอีกครั้งว่าอยากคุยกับทุกคนเรื่องการทำงานอย่างใกล้ชิด โดยหลังจากร่วมการประชุมเอเปคในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้ จะเชิญหัวหน้าพรรคและแต่ละกระทรวงเข้ามาพูดคุย เพราะอยากทราบปัญหาและแนวทางที่จะทำงานร่วมกัน ซึ่งได้แจ้งทุกคนไปแล้วว่าจะขอนัดแยก
อ่านข่าว : “แพทองธาร” ดินเนอร์พรรคร่วม รบ. จับตาถกนิรโทษกรรม-ยุบพรรค
เมื่อถามถึงเรื่องร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ได้มีการหารือกันหรือไม่ว่าจะเดินหน้าต่ออย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ทุกเรื่องมีทั้งเรื่องที่เห็นตรงกันและไม่ตรงกัน เพราะเป็นประชาธิปไตย แต่สามารถตกลงและแลกเปลี่ยนกันได้ และต่อไปขอให้เป็นเรื่องในสภาฯ ที่จะดำเนินการต่อ
เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องอ่อนไหว มีทั้งเห็นตรงและเห็นต่าง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ขอชี้แจงในรายละเอียด
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เมื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรแล้ว จะเป็นมติของพรรคร่วมรัฐบาลหรือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่มีการพูดคุยกันแล้วหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเว้นหมวด 1 และหมวด 2 ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดมาโดยตลอดและเป็นข้อตกลงที่เราร่วมรัฐบาลกันได้ เป็นเรื่องที่เห็นพร้อมต้องกันและย้ำว่าไม่แตะเรื่องมาตรา 112 ส่วนเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญขณะนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะเดินหน้าอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องของสภาฯ
นายกฯ เปิดเผยอีกว่า ได้ขอความร่วมมือกับพรรคร่วมรัฐบาลหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการทำงาน ตนเองเพิ่งรับตำแหน่งได้ไม่นานจึงอยากให้มีการพูดคุยกัน เพราะการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญและอยากให้การสื่อสารช่วยลดกำแพงลง นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยถึงปัญหา เรื่องเซนซิทีฟ รวมถึงเรื่องที่คิดว่าจะต้องพูดคุยกันด้วย
นายกฯ มั่นใจข้อกล่าวหายุบ “เพื่อไทย-พรรคร่วม” ไม่ตรงข้อเท็จจริง
น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยและ 6 พรรคการเมือง ว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหาใด ๆ จึงไม่มีใครกังวล ส่วนแนวทางการเตรียมแก้ข้อกล่าวหา โดยเฉพาะกรณี 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น ย้ำว่าทุกอย่างไม่ตรงกับข้อกล่าวหา แต่ในทางกฎหมายก็ต้องให้ความร่วมมือ ซึ่งไม่มีอะไรที่ต้องห่วง
อ่านข่าว : กกต.สั่งตั้งคณะทำงานสอบ “ยุบพรรคเพื่อไทย”
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า หลังจากกรณีนี้พรรคร่วมรัฐบาลต้องออกห่างจากนายทักษิณ ชินวัตร เพื่อที่จะไม่ให้ถูกมองว่าครอบงำหรือไม่ นายกฯ ระบุว่า การไปทานข้าวร่วมกันจะเรียกว่าครอบงำเลยหรือ พร้อมยกตัวอย่างว่า หากตนทานข้าวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นการครอบงำหรือไม่ โดยมองว่าความสัมพันธ์ที่ดี ย่อมเป็นเรื่องดี ไม่ใช่การครอบงำ
“เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านในที่นี้รักเคารพคุณทักษิณ บางทีอาจไม่ใช่การคุยการเมืองด้วยซ้ำ หรืออาจจะเป็นการคุยการเมืองแต่เป็นการเมืองเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สมัยนั้นใครเป็นรัฐมนตรีสมัยแรก มันเป็นการคุยของคนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน มันเป็นเรื่องนั้นเป็นส่วนใหญ่” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ส่วนจะมีความมั่นใจในทีมกฎหมายและแนวทางการต่อสู้มากแค่ไหนนั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคอื่น ๆ ก็ตาม หากโดนเรื่องใด ๆ พรรคต้องมีกรรมการบริหารพรรค ต้องได้รับคำปรึกษาก่อน หากไม่เห็นด้วยก็ครอบงำอะไรไม่ได้ ในพรรคต้องคุยกันเองและตกลงกันเอง
ฉะนั้นถ้าจะพูดว่าการติดต่อคุณทักษิณ ซึ่งวันนี้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว เป็นการครอบงำก็ต้องครอบงำไปทุกอย่างแล้ว ถ้าพูดถึงคุณทักษิณแล้วเป็นการครอบงำ มันก็ไม่ได้
อ่านข่าว
“คำร้อง” คายพิษส่อยุบสภาเร็ว สกัดแคนดิเดตนายกฯ หายเกลี้ยง