หน้าแรก Thai PBS อุตสาหกรรม “กาสิโน” ธุรกิจการพนัน โลกสีเทาใต้เงาอาเซียน

อุตสาหกรรม “กาสิโน” ธุรกิจการพนัน โลกสีเทาใต้เงาอาเซียน

21
0
อุตสาหกรรม-“กาสิโน”-ธุรกิจการพนัน-โลกสีเทาใต้เงาอาเซียน
อุตสาหกรรม “กาสิโน” ธุรกิจการพนัน โลกสีเทาใต้เงาอาเซียน

แม้ตลาดใหญ่สุด “กาสิโน” ปี 2024 ยังอยู่ในสหรัฐอเมริกา จากข้อมูลทั่วโลกมีกาสิโนและออนไลน์ อยู่ที่ 5,098 ธุรกิจ หรือเพิ่มขึ้นจากปี 2023ที่ 5.2% ตลาดกาสิโน ในปีนี้มีรายได้ (Gross Gaming Revenue) อยู่ที่ 150,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่า ในปี 2029 จะมีรายได้อยู่ที่ 191,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือโตขึ้น ปีละประมาณ 4.95%

อัตราการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ไม่ต่างจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น มาเก๊า สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะที่มาเก๊า ถูกกล่าวขานว่า เป็นลาสเวกัสแห่งโลกตะวันออก นับตั้งแต่ปี 2007 ถึงปัจจุบัน เพียงแค่ 11 ปี มาเก๊าได้ก้าวขึ้นสู่การเป็นประเทศผู้นำอันดับต้น ๆ ของโลก และรายได้ส่วนใหญ่มาจากการเปิดบ่อนกาสิโน

ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งเคยนำรายได้เข้าประเทศลำดับต้น ๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว หลายประเทศจึงได้ลดเงื่อนไข ข้อกำหนด มาตรการและกฎเกณฑ์เข้มงวด ในการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งไทย ได้ออกเป็น ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ….

พ.ร.บ.ฉบับนี้ กำหนดแนวทางให้ ธุรกิจกาสิโน เข้ามาอยู่ในระบบการบริหารจัดการที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษี รวมทั้งกระตุ้นให้เกิดการลงทุนและท่องเที่ยว

สำหรับขั้นตอนการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายของไทย หลังจาก กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) สภาผู้แทนราษฎรเสนอร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ..ให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบเมื่อไม่นานนี้ จากนั้นต้องส่งเรื่องให้ ครม.พิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ทั้งในแง่รูปแบบธุรกิจ หลักเกณฑ์ การจำกัดพื้นที่ และอื่น ๆ ถือเป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ในการพัฒนาผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรฯให้มีความเหมาะสมกับประเทศ

เปิดร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิง “กาสิโน” วาระใดซ่อนเร้น ?

นับแต่ปลายเดือน ส.ค.2567 จากรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ถึงรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” ยังไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวใด ๆ ทั้งที่ก่อนหน้ามีกลุ่มนักธุรกิจชาวไทยที่มีสายสัมพันธ์กับนักการเมือง และชาวต่างประเทศ ต่างแสดงความสนใจ โดย กลุ่มราชตฤณมัยสมาคมฯ ประกาศแผนงาน The Royal Siam Heaven ด้วยเม็ดเงินลงทุนกว่า 200,000 ล้าน, กลุ่มสวนสยาม ของ “ ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ” ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท สยามพาร์คซิตี้ สนใจร่วมทุน เสนอที่ดินย่านมีนบุรี 500 ไร่ ในการทำสถานบันเทิงครบวงจร และอื่น ๆ

แต่จนถึงขณะนี้ โครงการระดับเมกะโปรเจค ซึ่งเป็นการร่วมทุนครั้งใหญ่ระหว่างภาครัฐและเอกชน ของประเทศ ถูกจับมองอย่างใกล้ชิดว่า จะเป็นในทิศทางใด และมีวาระซ่อนเร้นอื่นใดซุกอยู่หรือไม่

โดยเฉพาะผลประโยชน์ทางการธุรกิจ-การเมือง ที่การเจรจาบางอย่างยังไม่ลงตัว และอาจจะมีเกมงัดข้อทางการเมืองระหว่าง นายทุนและผู้ให้การสนับสนุน “พรรคเพื่อไทย-ภูมิใจไทย” รวมทั้งกลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ และ “แพทองธาร” ในฐานะประธานบอร์ดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรจะตัดสินใจอย่างไร

หากพิจารณาสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.กาสิโน… มาตรา 3 คำนิยาม “สถานบันเทิงครบวงจร” จะหมายถึง การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชี แนบท้าย พ.ร.บ.หลายประเภทรวมกัน ร่วมกับกาสิโน โดย “กาสิโน” หมายความว่า การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนันในสถานที่ ที่กำหนดเป็นการเฉพาะ และ “ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร

ส่วน “ผู้รับใบอนุญาต” คือ ผู้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบ วงจร…” ซึ่งจะมีบอร์ดและคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร โดยตำแหน่ง 9 คน เป็นผู้พิจารณากำหนดจำนวนใบอนุญาต และพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และเสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี รวมทั้งหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข การให้สินเชื่อแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนัน และอื่น ๆ ตามกฎหมายกำหนด

แต่ประเด็นสำคัญกลับอยู่ที่ หมวด 6 การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยเฉพาะร่างมาตรา 41 ที่ระบุว่า ผู้รับใบอนุญาตฯจะต้องจดทะเบียนในไทย-ทุน 1 หมื่นล้านบาท กล่าวคือ ให้สถานบันเทิงครบวงจรตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาเท่านั้น โดยจะต้องประกอบไปด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้าย พร.บ.นี้อย่างน้อย 4 ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

และสถานบันเทิงครบวงจรจะกระทำได้เฉพาะบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ที่มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท โดยได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้ จำนวนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา

ขณะที่ร่างมาตรา 49 เรื่องใบอนุญาตมีอายุสามสิบ (30) ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรม เนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้ ทุก 5 ปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ให้สำนักงานประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรของผู้รับใบอนุญาต และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่ออาจพิจารณาทบทวนรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร

และเมื่อใบอนุญาตครบอายุ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจให้การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้คราวละไม่เกินสิบ (10) ปี โดย การขอต่ออายุใบอนุญาตและอัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด

โดยมีการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการขอใบอนุญาต ค่าใบอนุญาตและการต่ออายุใบอนุญาต คือ การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท,ใบอนุญาต ครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท,ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท และใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท

สาระสำคัญคร่าว ๆ ในร่างดังกล่าว คือ เรื่องผลประโยชน์ของการลงทุน และเม็ดเงินที่คาดว่ารัฐจะได้รับ จากใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งตกทอดมาจากยุครัฐบาลเศรษฐา และตองจับตาดูว่าแพทองธาร ในฐานะนายกฯที่ต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่ง จะพิจารณาต่อหรือไม่ 

กาสิโน-ตลาดพนันออนไลน์ “ทุนสีเทา” ในเงาอาเซียน

หากส่องไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ กัมพูชา ลาว พบว่า มีการเปิด Entertainment Complex ครบวงจร ในหลายแห่งเช่น สิงคโปร์ มีศูนย์กลางของการพนัน “มารีนา เบย์” ส่วนฟิลิปปินส์ มี Solaire Resort & Casino and Genting’s Resorts World Bayshore เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ

ข้ามฝากมาชายแดนเพื่อน ลาว พบว่ามีกาสิโน 3 แห่ง คือ คิง โรมัน กาสิโน (the King Romans Casino) ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว เป็นหนึ่งในโครงการระยะยาว ตามข้อตกลงความร่วมมือของลาวและจีนในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เริ่มดำเนินการพัฒนาตั้งแต่ปี 2000

โดยธุรกิจทั้งหมดเป็นของนักลงทุนจีนที่ได้สิทธิ์สัญญาเช่าถึง 99 ปี โดยไม่ต้องจ่ายภาษี และเมื่อสัญญาหมดลงทรัพย์สินทั้งหมดในเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้จะตกเป็นการถือครองของรัฐบาลลาว, แดนสะหวัน น้ำงึม รีสอร์ท กาสิโน (The Dansavanh Nam Ngum Resort Casino) ตั้งบริเวณเทือกเขาบัฟฟาโล ทะเลสาบแดนสะหวัน ห่างจากตอนเหนือของเวียงจันทน์ราว 60 กิโลเมตร และสะหวัน เวกัส โฮเทล แอนด์ กาสิโน ตั้งอยู่ที่แขวงสะหวันนะเขต ใกล้ชายแดนไทย

กัมพูชามีกาสิโนทั้งหมด 150 แห่ง และมีหลายขนาด หลายแห่งตั้งอยู่ใกล้เขตชายแดนไทย-กัมพูชา รวมถึงชายแดนเวียดนาม เช่น ปอยเปต บาเวต และย่านสีหนุวิลล์ แม้เมืองกาสิโนเล็ก ๆ แต่ยอดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล แม้ภายหลังจะซบเซา เนื่องจากพบว่ามีกลุ่มทุนจีนสีเทาเข้ามาลงทุน และพยายามย้ายฐานการลงทุนไปยังพื้นที่อื่นก็ตาม

ส่วนเมียนมา พบว่ามีกาสิโน ถึง 15 แห่งกระจายอยู่ตามเมืองต่าง ๆ เช่น ร่างกุ้ง กาสิโน, เมเมียว กาสิโน, มัณฑะเลย์ กาสิโน , พุกาม กาสิโน, พะอัน ฯลฯ ,รวมทั้ง บ่อนกาสิโนเมืองชเวโก๊กโก๋ หรือ “ฉ่วยก๊กโก” จ.เมียวดี, โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีนเฮ็งเซ็ง อ.เมียวดีฯ, โครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษจีนไคต่า อ.เมียวดี

พบกลุ่มทุนจีนสีเทา ที่หลบหนีคดีจากจีนเข้ามาทำธุรกิจผิด กฎหมาย ทั้ง กลุ่มคอลเซ็นเตอร์ และแก๊งพนันออนไลน์ ที่ถูกทางการเมียนมา เข้าไปกวาดล้าง หลังได้รับการประสานจากรัฐบาลจีน เมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา

ขณะที่ เวียดนาม เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลได้ยกเลิกคำพิพากษาที่ว่า การเล่นเกมการพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายสำหรับประชาชนในประเทศ และได้บรรจุกาสิโน ให้อยู่ในโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ Phu Quoc และ Van Don และคาดการณ์ว่าจะมีโครงการ Ho Tram Strip มีมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทำให้การลงทุนกาสิโนและรีสอร์ทแบบครบวงจร จากนโยบาย “เส้นทางสายไหมใหม่” (One belt one road) ของจีน โดยเน้นนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก

ปัจจุบันเวียดนามมีกาสิโนที่ได้รับใบอนุญาตทั้งหมด 7 แห่ง เช่น Ho Tram Resort Casino ในจังหวัดบ่าเหรี่ยะ – หวุงเต่า, Phoenix International Club จังหวัดบั๊กนิญ และคลับเกมอิเล็กทรอนิกส์ 23 แห่ง โดยอนุญาตให้เฉพาะผู้ถือพาสฟอร์ตจากต่างประเทศให้เข้าไป ทำให้คนเวียดนามไม่มีแหล่งเล่นการพนันภายในประเทศ ต้องเดินทางไปเล่นประเทศอื่นแทน

แม้ในไทย แหล่งกาสิโนครบวงจร จะยังไม่เกิดขึ้น แต่การพนันกลับรุมล้อมอยู่รอบตัว โดยเฉพาะพนันออนไลน์ ข้อมูลปี 2566 จากศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) พบว่า พนันออนไลน์กำลังสร้างความเสียหายให้กับคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง และธุรกิจพนันกระจายตัวแทรกซึมในโลกออนไลน์และมีแนวโน้มจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้เร็วมากขึ้น

โดยคนรุ่นใหม่เกือบ 3 ล้านคนเล่นการพนันออนไลน์ในรอบปี 2566 วงเงินหมุนเวียนต่อปีเกือบ 6 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบ เงินหมุนเวียนจากการเล่นพนันออนไลน์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในปี 2566 มีมากถึง 58,675 ล้านบาท และการพนัน Slot Machine หรือตู้พนันมีวงเงินหมุนเวียนมากที่สุดกว่า 20,728 ล้านบาท ก้าวกระโดดจากการพนันประเภทอื่น ๆ ที่ตามมา เช่น หวยใต้ดินที่ 913 ล้านบาท ไพ่พนัน 6,536 ล้านบาท พนันทายผลฟุตบอล 5,194 ล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 4,676 ล้านบาท

เกิดจากคนรุ่นใหม่ใช้เงินเล่น Slot Machine ค่อนข้างสูงเฉลี่ยเดือนละ 1,529 บาทมีบางคนใช้เล่นมากถึงเดือนละ 30,000 บาท โดยเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้การพนันออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเข้าถึงสมาร์ทโฟน 

ตลาดใหญ่โลก “กาสิโน” อุตสาหกรรมพนัน ได้ไม่คุ้มเสีย

ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า เหตุผลสำคัญ ที่ทำให้การพนันออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเข้าถึงสมาร์ทโฟน แม้ในหลายประเทศจะถือเป็นความท้าทายด้านกฎระเบียบ และเขตอำนาจศาล สวนทางกับต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมด้านการกำกับดูแล (Regulatory Landscape)

ส่งผลให้เกมกาสิโนและแพลตฟอร์มออนไลน์กลายเป็นกลุ่มที่โดดเด่น ข้อมูลจากการวิจัยตลาด Cognitive พบว่า ขนาดตลาดการพนันทั่วโลกอยู่ที่ 452,615.20 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 14,915,933.92 ล้านบาท (1 USD = 32.96 THB) ในปี 2023 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 23% ของรายได้ทั่วโลก โดยมีขนาดตลาดอยู่ที่ 104,101.50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 3,430,664.93 ล้านบาท

ในปี 2033 นักวิจัยทางการตลาดคาดการณ์ว่า ตลาดการพนันกาสิโนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกสามารถสร้างรายได้ 2.74 พันล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยอัตราการเติบโตแบบทบต้นต่อปี (CAGR) 6.29% ในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงอัตราที่วัดการเติบโตของการลงทุนที่มั่นคง และร่วมทุนแบบบูรณาการครบวงจร มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ประกอบด้วย โรงแรม กาสิโน ศูนย์จัดงานประชุม ศูนย์การค้า การแสดงบันเทิง สวนสนุก โรงละคร โรงภาพยนตร์ ครบถ้วนในตัวเอง

มีการคาดการณ์การขนาดตลาดการพนันในปี 2024 ตลาดใหญ่ในจีนมีมูลค่า 46,845.67 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 5.5% ส่วนญี่ปุ่นคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 4.5% และจะไปถึงขนาดตลาด 14,366.01 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในอินเดียมีส่วนแบ่งการตลาด 12,492.18 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2024 และคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 7.8% ส่วนเกาหลีใต้คาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 5.1% และจะถึงขนาดตลาด 10,410.15 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนออสเตรเลียคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 5.7% และจะไปถึงขนาดตลาด 5,413.28 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 7.0% และขนาดตลาดอยู่ที่ 7,183.00 ล้านเหรียญสหรัฐ สุดท้ายคือ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าจะเติบโตที่อัตรา CAGR 5.8% และจะไปถึงขนาดตลาด 7,391.21 ล้านเหรียญสหรัฐ

จากข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มของธุรกิจกาสิโนจะมีการแข่งขันสูง สวนทางกับเศรษฐกิจโลก และรายได้ของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่คาดว่าลดลง จึงไม่แน่ว่า ธุรกิจกาสิโนที่กลุ่มทุนกำลังเจรจาผลประโยชน์ จะเอาชนะบ่อนออนไลน์ได้หรือไม่

และการหวังสร้างรายได้ให้เป็นอุตสาหกรรมในระยะยาว โดยเฉพาะไทย จะส่งผลกระทบอย่างไรตามมาในอนาคตหรือไม่ คงคาดเดาได้ไม่ยาก

อ่านข่าว : “ทวี” แนะดีเอสไอเชิญโฆษก พปชร.ให้ข้อมูลนักการเมืองโยงดิไอคอน

ผอ.ตั้งกรรมการสอบ ขรก.หญิง หลับในที่ทำงาน

อัยการสูงสุดสั่งสอบปม “อัยการ” ถูกพาดพิงเป็นแม่ทีม “ดิไอคอน”

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่