หน้าแรก Thai PBS จับกระแสการเมือง : วันที่ 6 พ.ย.2567 ขอ กกต.คืนเลือกตั้ง อบจ.วันอาทิตย์ “พระแม่พาติว” ดันยอดสมาชิก ปชป.พุ่ง

จับกระแสการเมือง : วันที่ 6 พ.ย.2567 ขอ กกต.คืนเลือกตั้ง อบจ.วันอาทิตย์ “พระแม่พาติว” ดันยอดสมาชิก ปชป.พุ่ง

15
0
จับกระแสการเมือง-:-วันที่-6-พย2567-ขอ-กกตคืนเลือกตั้ง-อบจวันอาทิตย์-“พระแม่พาติว”-ดันยอดสมาชิก-ปชป.พุ่ง
จับกระแสการเมือง : วันที่ 6 พ.ย.2567 ขอ กกต.คืนเลือกตั้ง อบจ.วันอาทิตย์ “พระแม่พาติว” ดันยอดสมาชิก ปชป.พุ่ง

บินลัดฟ้า ไปประชุม Mekong Summit ที่เมืองคุนหมิงแล้ว “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ควงคู่ไปกับ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย พร้อม “มาริษ เสงี่ยมพงศ์” รมว.ต่างประเทศ และ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.คลัง เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion Economic Cooperation Program Summit : GMS Summit) ครั้งที่ 8 และการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy: ACMECS) ครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 6-7 พ.ย.นี้ หลังลงนาม “งดรับ-ให้” ของขวัญทุกชนิดหลังปีใหม่ที่ทำเนียบรัฐบาล

ขณะที่ฝ่ายค้าน พรรคประชาชน หลังพ่ายเลือกตั้งสนามเล็ก นายก อบจ.ในหลายจังหวัดมาอย่างต่อเนื่อง “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน ให้ความเห็น หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เห็นชอบร่างแผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ให้วันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.2568 

น่ากังวล เหตุเพราะคนส่วนมากทำงานวันเสาร์และวันอาทิตย์ ลางานไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สำหรับผู้ที่ทำงานวันจันทร์ถึงวันศุกร์ แต่ไม่ได้อยู่ในภูมิลำเนา หากวันเลือกตั้งเป็นวันเสาร์ เวลาเดินทางก็จะถูกบีบให้แคบลง

“จากสถิติของทุกการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นวันอาทิตย์ทั้งหมด จึงอยากให้ กกต. ทบทวน และเปลี่ยนวันเลือกตั้งเป็นวันอาทิตย์ เพื่อความสะดวกให้กับประชาชนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง …เรามีนัดเข้าพบกับ กกต. และจะนำทุกประเด็นเข้าหารือ แต่เรื่องนี้มีความจำเป็นเร่งด่วน จึงหวังว่า กกต. จะทบทวนการตัดสินใจ ก่อนวันที่ 28 พ.ย.นี้” พริษฐ์ กล่าว

ต่อลมหายใจ มีสิทธิได้ไปต่อ ในตำแหน่งประธานบอร์ดแบงค์ชาติ หรือไม่ น่าจับตา เมื่อ “ไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ” อัยการสูงสุด ลงนามไม่อุทธรณ์คำสั่ง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องในคดีที่อัยการสูงสุดยื่นฟ้อง “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” สมัยเป็นรมว.พาณิชย์ ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ไม่สั่งตรวจสอบการระบายข้าวเอื้อประโยชน์ให้เอกชนรายเดียว หรือคดีข้าวบูล็อค

คดีนี้อัยการสูงสุดขณะนั้นฟ้องว่า นายกิตติรัตน์ ขณะดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ทราบเรื่องการเอื้อประโยชน์ ให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ส่งมอบข้าวให้แก่ BULOG แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่จัดให้มีการแข่งขันราคากับผู้เสนอราคารายอื่น และไม่มีการประกาศหรือมีหนังสือเชิญชวนผู้ที่สนใจเป็นการทั่วไป ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ขัดต่อกฎหมายและระเบียบขององค์การคลังสินค้าว่าด้วยการจัดซื้อสินค้าเพื่อการค้าปกติ พ.ศ. 2541

แต่เมื่อนายกิตติรัตน์ทราบเรื่องกลับไม่ตรวจสอบและไม่ทำหน้าที่ควบคุมดูแล ไม่สั่งการใดหรือเรียกให้มีการชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ทำรายงานแสดงความคิดเห็น อีกทั้งต่อมาบริษัทดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามสัญญา เป็นผลให้อินโดนีเซียไม่ทำการค้าขายข้าวกับองค์การคลังสินค้าอีก และเสียหายต่อความสัมพันธ์ในการค้าขายข้าวระหว่างประเทศไทยกับประเทศอินโดนีเซีย

โดยองค์คณะวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากข้อมูลการซื้อขายข้าว ส่งมอบข้าวและข้อมูลที่เกี่ยวข้อง นายภูมิ ซึ่งเป็น รมช.พาณิชย์ (ในสมัยนั้น) ทราบเป็นอย่างดี และจำเลยรับทราบข้อมูลต่าง ๆ ผ่านนายภูมิ ส่วนข้อหาสร้างความเสียหายต่อประเทศชาติอย่างร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องพิจารณา เนื่องจากไม่มีผลต่อคดี

สำหรับการพิจารณาอุทธรณ์คดีของศาลฎีกาเเผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ร.ป.ปปช.พ.ศ.2561 มาตรา 79 บัญญัติว่า ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาแล้ว ถ้าอัยการสูงสุดเห็นควรอุทธรณ์ต่อที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาต่อไป ให้ดำเนินการได้

กรณีที่อัยการสูงสุดเห็นควรไม่อุทธรณ์ตามวรรคหนึ่ง ให้แจ้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทราบและรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ประกอบการพิจารณาด้วย

รายงานข่าวระบุว่า หลังอัยการสูงสุดเห็นควรไม่อุทธรณ์เเละ เเจ้งให้คณะกรรม การ ป.ป.ช. ทราบ ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีความเห็นแจ้งกลับมายังอัยการสูงสุดขอให้อุทธรณ์คดีต่อ แต่ทางอัยการสูงพิจารณายืนยันไม่อุทธรณ์คดี

ร้อง พม. ยังไม่ได้เงิน 10,000 บาทอื้อ “รมว.ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เผยผลการดำเนินงานของศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) เดือน ต.ค. 2567 ว่า มีประชาชนโทรเข้ามาที่สายด่วน 1300 ศรส. เพื่อขอรับบริการทั้งหมด 18,909 กรณี เฉลี่ยแล้วประมาณวันละ 610 กรณี ส่วนใหญ่ที่โทรเข้ามา เป็นหญิงวัยทำงาน รองลงมาเป็นกลุ่มคนเปราะบาง คือ คนพิการ ผู้สูงอายุ เด็ก และเยาวชน

ที่น่าสนใจ คือ การให้คำปรึกษาทั้งหมด 8,805 กรณี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 แจกเงิน 10,000 บาท ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และคนพิการ ซึ่งคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเป็นมาตรการที่รัฐบาลออกมา โดยคนพิการยังสามารถยืนยันสิทธิไว้ได้ ถึงวันที่ 3 ธ.ค.นี้ 

พระแม่พาติว ช่วยค่ายสีฟ้าคุยฟุ้ง “เจนจิรา รัตนเพียร” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า ต.ค.เดือนเดียว มีผู้สนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ตลอดชีพยอดพุ่ง 4,057 คน หลังจัดกิจกรรม “พระแม่พาติว” ซึ่งนำติวเตอร์ชั้นนำระดับประเทศ ติวสอบให้กับนักเรียนทุกภาค, เสวนาเดโมแครต ฟอรั่ม (Democrat Forum) และการจัดเวทีลานพระแม่ทอล์ค ที่นำปัญหาสังคมขึ้นมาพูดคุยหาทางออก รวมทั้งลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนและช่วยเหลือให้คำปรึกษาในเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยมีประชาชนหลั่งไหลให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

อ่านข่าว : ปาฏิหาริย์ สว. “หมอเกศ” กกต.ยื้อฟันปมวุฒิการศึกษา

วงการบันเทิงสูญเสียนักแสดงอาวุโส “คุณยายบรรเจิดศรี” อายุ 100 ปี

“โดนัลด์ ทรัมป์” หวนคืนทำเนียบขาวคว้าชัยเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่