‘รองนายกฯ ประเสริฐ’ เห็นชอบแนวทางแก้ไขความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่นิคมลำน้ำน่าน ที่ยืดเยื้อกว่า 55 ปี พร้อม One Map อีก 13 จังหวัด เตรียมเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณา
วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ครั้งที่ 2/2567 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเข้าร่วมประชุมฯโดยประธาน คทช.ได้มอบนโยบายให้แก่ส่วนราชการ ดังนี้
1) นโยบายการจัดที่ดินทำกินโดยให้มุ่งเน้นการพัฒนาอาชีพและรายได้ ให้มีความต่อเนื่องและเพียงพอ
2) ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงแผนที่ One Map
3) สร้างความสมดุลการใช้ประโยชน์ที่ดินกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
4) บูรณาการการทำงานและข้อมูลด้านที่ดิน
5) นำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน
โดยที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของราษฎร โดยมุ่งเน้นให้ราษฎรมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิตสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ เช่น การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ราษฎรสละที่ดินเพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ทำให้ต้องย้ายไปอยู่ในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน ตั้งแต่ พ.ศ. 2511 แต่ได้รับผลกระทบจากแนวเขตที่ดินที่ไม่ชัดเจนกว่า 1,000 ราย ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของภาครัฐเป็นการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ และได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง และให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด โดยที่ประชุมมีการเห็นชอบเรื่องที่สำคัญ 4 เรื่องดังนี้
1. แนวทางการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของราษฎร กรณีพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยอาศัยการตัดสินใจเชิงนโยบายประกอบกับสภาพการใช้ประโยชน์ในพื้นที่มาตรการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ และแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ(One Map)
2. การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการมาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) และแก้ไขปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐของพื้นที่กลุ่มที่ 5 กลุ่มจังหวัดภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด และพื้นที่เร่งด่วนกลุ่มที่ 6 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคตะวันตก จำนวน 2 จังหวัด (จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน)
3. แนวทางปฏิบัติเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) โดยขอยกเว้นการปฏิบัติตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2555 (เรื่อง การเสนอร่าง พ.รฎ. กําหนดแนวเขตให้เป็นพื้นที่ดําเนินการตามกฎหมาย) และมติ ครม. เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 2565 (เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีการตราร่างกฎหมายหรือร่างอนุบัญญัติที่ต้องจัดให้มีแผนที่ท้าย) เฉพาะกรณีการดําเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) เท่านั้น เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ เกิดประสิทธิภาพจากความซ้ำซ้อนและระยะเวลาดำเนินการ เพื่อให้ เกิดประโยชน์ในการบริหารจัดการที่ดินแก่ประชาชนและหน่วยงานของรัฐ และมีการแต่งตั้งคณะทำงาน CEO One Map เพื่อช่วยสนับสนุนการดำเนินการแก้ไขปรับปรุงแผนที่ One Map ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น
4. การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิในที่ดิน พื้นที่นำร่องจังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน ให้สามารถเข้าถึงประปาและไฟฟ้า โดยรัฐบาลได้สั่งการให้คทช. มาดำเนินการ โดยผ่านคณะทำงาน ซึ่งได้มีการสำรวจข้อเท็จจริงในพื้นที่ พร้อมวางแผนการดำเนินงาน โดยคาดว่าจะแก้ไขปัญหาแล้วเสร็จภายใน 10 เดือน