วันนี้ (22 พ.ย.2567) 6 ข้อกล่าวหาในคำร้องที่นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ร่วมกระทำการกัน โดยเฉพาะ 4 ใน 6 ของข้อกล่าวหา เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน ที่ศาลฯ ชี้ว่า “ยังไม่มีหลักฐานเพียงพอ” ส่วนอีก 2 คือการบริหารจัดการทางการเมือง
เล่าแบบอย่างง่ายนะ ศาลรัฐธรรมนูญ ออกเอกสารชี้แจงผลการพิจารณา คำร้องของนายธีรยุทธ์ สุวรรณเกสร แจ้งว่า “ไม่รับคำร้อง” โดยศาลฯ พิจารณาข้อกล่าวหา เรียงเป็นประเด็นๆ ไป โดยแยกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรก ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 9 ต่อ 0 (เอกฉันท์) ชี้ว่า
ข้อกล่าวหาที่ 1 นายทักษิณ สั่งการรัฐบาลเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง กรณีพักรักษาอาการป่วยระหว่างถูกคุมขัง ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตั้งข้อสังเกตได้ไหมว่าน้ำหนัก-หลักฐานไม่เพียงพอ และหน่วยงานอื่นก็ทำอยู่ด้วย อย่างเช่น กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ของสภาฯ กสม. ผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ทำเรื่องนี้ สิ้นเดือนนี้ ป.ป.ช.ก็เตรียมสรุปอยู่ด้วย
ข้อกล่าวหาที่ 3 นายทักษิณสั่งการพรรคเพื่อไทยร่วมพรรคประชาชน แก้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 กรณีใช้สิทธิหรือเสรีภาพ-ล้มล้างการปกครอง เมื่อการแก้รัฐธรรมนูญ ยังไม่สำเร็จ ตอนนี้ก็เข็นครกขึ้นภูเขากันอยู่ ร่างแก้กฎหมายประชามติ จะทำเอานโยบายนี่จบเห่
ข้อกล่าวหาที่ 4 นายทักษิณสั่งการพรรคเพื่อไทย เจรจาแกนนำพรรคร่วมฯ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนใหม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสภาผู้แทนราษฎร ถ้าไม่มีภาพ ไม่มีคลิปเสียงยืนยันว่านายทักษิณ ครอบงำ-ชี้นำ เลือกเฉพาะใครคนหนึ่ง จึงเป็นไปได้ที่ศาลฯ ไม่รับ
ข้อกล่าวหาที่ 5 นายทักษิณสั่งการพรรคเพื่อไทย มีมติขับพรรคพลังประชารัฐ พ้นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการจัดการทางการเมือง
ข้อกล่าวหาที่ 6 นายทักษิณสั่งการพรรคเพื่อไทย นำวิสัยทัศน์ตัวเอง ไปบรรจุเป็นนโยบายรัฐบาล เป็นการจัดการทางการเมือง
รวม 5 ข้อกล่าวหานี้ ศาลฯ มีคำสั่ง “ไม่รับ” ด้วยเหตุว่า “ไม่มีน้ำหนัก พยานหลักฐานไม่เพียงพอ” และการกระทำ “ไม่ต้องด้วยเกณฑ์-วิธีการและเงื่อนไข” ตามข้อกล่าวหาที่บอกว่าล้มล้างการปกครองจึงไม่รับคำร้อง
ส่วนที่ 2 ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ลงมติ “7 : 2” (เสียงข้างมาก) มีคำสั่ง “ไม่รับ”
ด้วยข้อกล่าวหาที่ 2 กรณีนายทักษิณสั่งการรัฐบาลเอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ให้มีการเจรจาอ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล ข้อสรุปคือ ด้วยเหตุผลเดียวกัน แต่ก็ทำให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูฐเสียงแตก
เกณฑ์วัดคือ ฟ้องตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลฯ พิเคราะห์ตามข้อกล่าวหา ทั้ง 6 พฤติการณ์-พฤติกรรมแล้ว “ไม่เข้าเกณฑ์” ดังนั้นที่จะเข้าข่าย “ล้มล้างการปกครองฯ” ศาลฯ ชี้ว่า
ต้องปรากฏข้อเท็จจริงชัดเจน-เพียงพอ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายและความประสงค์ ระดับที่วิญญูชนคาดเห็นได้ว่าจะทำให้เกิดผล โดยการกระทำนั้น จะต้องดำเนินอยู่และไม่ห่างไกลเกินกว่าเหตุ
ทีนี้คำว่า ไม่ห่างไกลเกินเหตุ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ 2 นี่แหละ เรื่อง “MOU 2544” จึงลงมติออกมาเป็นเสียงข้างมาก “ไม่มีน้ำหนัก พยานหลักฐานที่เพียงพอ” ก็เพราะรัฐบาลยังไม่ได้เริ่ม และเห็นได้ชัดว่า คณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค ไทย-กัมพูชา หรือ JTC ยังไม่ได้ตั้ง และไม่รู้ว่า “เจตนา” รัฐบาลจะชี้ชัดไหม ว่ายังไม่ได้ตั้ง จากที่บอกจะตั้งให้เสร็จ ก่อนวันนัดพิเศษของศาลฯ วันนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานี่แหละ เลื่อนออกไปสิ้นเดือน
ศาลรัฐธรรมนูญ ยกผูกพันกับ เรื่องที่ กกต.สอบอยู่ไหม ? เรื่องนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฝ่ายกฎหมายตอบว่า ก็ขึ้นอยู่กับประเด็นนั้น ๆ ว่าเป็นประเด็นที่ตรงกันกับที่ กกต. พิจารณาอยู่หรือไม่ และมองว่าเพื่อไทยได้รับความยุติธรรม เพราะตนเองอ่านคำร้องหลายครั้งก็เห็นว่าไม่เข้าเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง
อาจเป็นไปได้ว่าข้อกล่าวหาในทำนองเดียวกันนี้ อาจจะมีมุมมองต่อกันอยู่บ้าง ด้วย กกต.ตั้งเรื่องสอบและรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ว่า นายทักษิณ ครอบงำ-ชี้นำ พรรคเพื่อไทย แล้วเรื่องอะไรบ้างละ ที่ กกต.สอบอยู่ แม้ กกต.หรือประธาน กกต.ไม่เคยระบุชัดๆ ว่าเรื่องไหนบ้าง แต่ที่เปรย ๆ และเรียกผู้ร้องเข้าชี้แจงแล้วนั้นคือ
- เรื่องเปิดบ้านจันทร์ส่องหล้า หารือพรรคร่วมฯ
- เรื่องวิสัยทัศน์นายทักษิณ เป็นนโยบายรัฐบาล
- เรื่องพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลเดิมที่มาจับมือกันและจัดตั้งรัฐบาลใหม่
ตามข้อกฎหมาย “ครอบงำ-ชี้นำ” ก็เป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.อยู่ด้วย ที่จะรวบรวมพยานหลักฐานและคำฟ้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่การยกคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ถือเป็นการตีตั๋วยาวให้รัฐบาล ให้พรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกต เพราะวันนี้คำถามหนึ่งที่ถามนายกฯ แพทองธาร ว่านี่คือ ภูมิคุ้มกันทางการเมืองหรือไหม
ซึ่ง น.ส.แพทองธารตอบว่า ทุกคนย่อมมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว สำหรับนายกฯ คนนี้ต้องใช้พลังใจ ใช้หลักธรรมะสูงหน่อย พยายามมีสติตลอดเวลา
ไม่รู้มั่นใจมากหรือเค้าลางมาก่อนว่าศาลฯ จะไม่รับคำร้องนายธีรยุทธ์ เพราะเมื่อวาน (22 พ.ย.) ทั้งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและนายทักษิณ ดูจะพูดมีนัยอยู่
นายทักษิณ บอกว่า 25 ปีที่ผ่านมา มีทั้งนรกและสวรรค์ ตอนนี้ขออยู่บนพื้นดิน ไม่เอาสวรรค์-ไม่เอานรก รัฐบาลผสมมีพรรคร่วมฯ มีข้อตกลงร่วมกันหลายสิ่ง นายกฯ อาจจะเป็นเวอร์ชันที่ 2 ของผม ขณะที่นายกฯ ยืนยันในเสถียรภาพของรัฐบาล มั่นใจรัฐบาลนี้ อยู่ครบเทอม มุ่งสร้างรากฐาน กระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลเปลี่ยน-นายกฯ เปลี่ยน นโยบายคงเดิม
อ่านข่าวอื่น :