วันนี้ (27 พ.ย.2567) ความคืบหน้าคดี นพ.บุญ วนาสิน หรือ “หมอบุญ” ผู้ก่อตั้ง บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง หลอกระดมทุน ขณะนี้ยังคงหลบหนีอยู่ต่างประเทศ
- เส้นทาง “หมอบุญ” จากบุคลากรวงการแพทย์สู่ข้อกล่าวหาฉ้อโกง
- เปิดพฤติการณ์ “หมอบุญ” ผู้ต้องหาหลอกลงทุน 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน
ล่าสุด นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม กล่าวว่า คดีดังกล่าวในส่วนของผู้เสียหาย หลังจากวันที่ 12 ธ.ค.2567 ซึ่งจะครบกำหนด ในการชำระดอกเบี้ย ร้อยละ 7% จากการที่กู้ยืม จะออกมาแสดงตัวมากขึ้น เนื่องจากหลายคนกังวลใจ และรออยู่ว่าจะได้ดอกเบี้ยหรือไม่ เพราะตั๋วสัญญาใช้เงินมีกำหนดชำระดอกเบี้ย 2 รอบ คือ วันที่ 12 ม.ย. และ วันที่ 12 ธ.ค.หากไม่ได้จะรวมตัวกันแจ้งความ คาดว่าจะมีผู้เสียหาย ไม่น้อยกว่า 500 ราย ซึ่งเป็น 1 เท่าของผู้เสียหายปัจจุบัน
พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้ผู้เสียหายยังแจ้งความไม่หมด ซึ่งเป็นผู้เสียหายล็อตเก่าที่ปล่อยกู้ และออกเช็ค สัญญาต่าง ๆ แต่ปรากฏว่าเช็คเด้ง จึงมีการไปแจ้งความทั้งหมด 247 ราย
ส่วนกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มใหม่จะเป็นผู้สูงอายุ หลักลงทุนสูงสุด 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่ มีอายุมาก ซึ่งตนได้ติดต่อประสานงานไปแต่พบว่าผู้เสียหายดังกล่าวป่วยหนักจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งมูลค่าความเสียหายทั้งหมดของกลุ่มผู้สูงอายุ ประมาณ 25,000 ล้านบาท
ส่วนผู้เสียหายโดยเฉพาะข้อมูลที่มีความเสียหาย 3,000 ล้านบาท พร้อมจะให้ข้อมูลหรือไม่ นายแทนคุณระบุว่า เท่าที่ถามดูไม่ค่อยมีใครอยากให้ข้อมูลเพราะได้รับข้อมูลจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ซึ่งเสียหายจากกรณีดังกล่าวกว่าร้อยล้านบาท โดยถูกขู่ว่า หากใครเปิดเผยข้อมูลและเปิดตัวเชื่อมโยงถึงโบรกเกอร์จะแจ้งให้กรมสรรพากรตรวจสอบภาษีย้อนหลัง ทำให้เกิดปัญหากับบรรดาผู้เสียหาย ซึ่งปัจจุบันเหลือทรัพย์สินน้อยมาก จึงไม่อยากออกสื่อฯ แทบทุกราย
เมื่อถามว่า กลุ่มนักลงทุนมีปัญหาเรื่องภาษี เพราะทำผิดกฎหมายหรือไม่ นายแทนคุณระบุว่า กลุ่มผู้ลงทุนเข้าใจว่าเป็นเรื่องการลงหุ้น มีบริษัทเก่าของโรงพยาบาลมาค้ำ ซึ่งการระดมทุนเหล่านี้ผิด ที่ไม่ผ่านตลาดหลักทรัพย์
แต่บริษัทเข้ามาช่วยวางแผนการลงทุน ออกเอกสารและใช้ลายเซ็นของ นพ.บุญ เป็นผู้ค้ำ และปัญหาคือเมื่อลงทุนแล้วได้กำไรก็นำไปลงทุนเพิ่มอีกเรื่อย ๆ ซึ่งหากผ่านตลาดหลักทรัพย์ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีแต่เมื่อซื้อขายนอกตลาดคล้ายตลาดหลักทรัพย์ จึงกังวล และทำให้เข้าใจผิดและถูกหลอก ก็อาจจะเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือไม่
ส่วนถ้าทุกคนกลัว จะไม่มีใคร มาให้ข้อมูลแล้วทำคดีจบไปเฉย ๆ หรือไม่ นายแทนคุณกล่าวว่า ผู้เสียหายได้ไปแจ้งตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมา ผู้เสียหายไม่อยากให้ข่าวจนกว่าจะนิ่ง เพื่อให้ดำเนินคดี ถ้าจำได้ตนเคยนำข้อมูลนี้มาเปิดเผย พร้อมกับโมเดลตึกโครงสร้างอาคารพร้อมเอกสารโครงการนี้ และบอกว่าจะมีการระดมทุนจากดูไบ ซึ่งวันที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลง 4 โครงการหลัก งบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท และ 1 โครงการประมาณ 100 ล้านบาท
ข้อมูลที่ตนเปิดเผยนั้นสอดคล้องกับที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล แต่เรื่องนี้จะไม่เงียบ โดยจะมีการขยายผลไปเรื่อย ๆ เพราะมีทั้งเซลล์ โบรกเกอร์ และผู้ที่ชักชวนลงทุน ที่ยังมีอยู่อีกจำนวนมาก แต่ตนไม่ได้กล่าวหาว่า บุคคลเหล่านี้เป็นผู้กระทำความผิด แต่ห้ามความรู้สึกของผู้เสียหายไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการสอบสวนและตั้งข้อกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะ 9 คนที่ถูกจับ มีคนที่เป็นโบรกเกอร์ถูกดำเนินคดีด้วย ซึ่งตนรู้จักและเคยมาให้ข้อมูล ว่าเขาเป็นผู้เสียหายลงทุนไปกว่า 60 ล้านบาท และยังชักชวนผู้อื่นมาลงทุนอีกกว่า 600 ล้านบาท แต่ถึงเวลากลับถูกซัดทอด
นายแทนคุณ ยังเปิดเผยว่า ผู้เสียหายมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาทเป็นนักธุรกิจใหญ่ เจ้าของบริษัทชื่อดัง แต่เจ้าตัว ขอร้องไม่ให้เปิดเผย
อ่านข่าว : ผจก.ตลาดหลักทรัพย์ ชี้ “หมอบุญ” ออกใบหุ้นนอกตลาด – ยังไม่เกี่ยว THG
ขอ ตร.สากลออกหมายแดงจับ “หมอบุญ” หนีคดีฉ้อโกงไปจีน
เปิดพฤติการณ์ “หมอบุญ” ผู้ต้องหาหลอกลงทุน 5 โครงการ เสียหาย 7.5 พันล้าน