การสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม ทำให้คนไทย มีกิน มีใช้มีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพื่อนำพาความภาคภูมิใจกลับมาสู่คนไทย และประเทศไทย เพื่อสร้างความหวังและอนาคตที่ดีกว่าให้ประเทศไทย จากวันนี้ไปถึงอนาคต
มอสโตหลักนโยบายเด่นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ในการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา นับจากวันที่ก้าวมาคุมบังเหียนรับไม่ต่อจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย
อ่านข่าว รอฟัง “แพทองธาร” แถลงผลงาน 90 วันประกาศนโยบายปี’68
90 วันสำหรับคนที่เข้างานใหม่ ช่วงนี้อาจถือเป็นช่วงการทดลองงานว่าจะผ่านโปรหรือไม่ผ่าน แต่สำหรับรัฐบาลแพทองธาร เลือกที่จะแถลงผลงานชิ้นโบว์แดง พร้อมกับประกาศของขวัญปีใหม่ 2568
ตามโปรแกรมภายใต้คอนเซ็ป “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” ในวันพรุ่งนี้ ( 12 ธ.ค.) จะมีคณะรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการจากกระทรวงต่างๆ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผบ.เหล่าทัพ ผบ.ตร.และผู้เกี่ยวข้องและสื่อมวลชนราว 500 คนที่จะเข้าร่วมงานที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT โดยจะมีการถ่ายทอดสดที่ช่อง NBT2HD และเฟซบุ๊กไลฟ์ : Live NBT2HD
นโยบายเรือธง “แจกเงินหมื่น” ฝ่าฝันไม่ถึงครึ่ง
ไทยพีบีเอสออนไลน์ เช็กลิสต์ผลงานช่วงทดลองงานของรัฐบาลแพทองธาร พบผลงานโดดเด่นโดนใจประชาชน ที่โพลหลายสำนักโหวตให้เป็นผลงานที่ติดอันอันดับแรก คงหนีไม่พ้นนโยบายเรือธง “แจกเงินดิจิทัลหมื่นบาท” ที่เคยหาเสียงไว้
แม้จะต้องปรับจากตัวเลข 55 ล้านคนที่อาจมีโอกาสได้รับสิทธิแจกเงินหมื่นแต่ติดล็อก ด้วยเรื่องของเงินที่จะนำมาใช้ทำให้ตัวเลขการแจกเงินต้องปรับเปลี่ยนจากดิจิทัล มาเป็นการจ่ายเงินสดผ่านธนาคาร 10,000 บาท
เฟสแรกประชาชนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการได้เงิน 10,000 บาท จ่ายเงินสำเร็จ 14,407,375รวมเม็ดเงิน 144,073.57 ล้านบาท
ส่วนเฟสที่ 2 ที่เริ่มแย้มกลุ่มเป้าหมายออกมาคือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีประมาณ 3-4 ล้านคน วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้รับเงินจะได้รับก่อนวันตรุษจีนปี 2568 หรือวันที่ 29 ม.ค.2568 ส่วนคนที่เหลือจะดูความพร้อมของระบบ คาดว่าจะได้ช่วงประมาณปีหน้าเดือน เม.ย.-มิ.ย.2568
อ่านข่าว เคาะแจกเงิน 10,000 เฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป รับก่อนตรุษจีน 2568
คลอดกม.สมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับ 22 ม.ค.68
มีผลใช้บังคับ 22 ม.ค.68 สำหรับ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ.2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม
สาระสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ เพื่อให้บุคคล 2 คนไม่ว่าจะเพศใดสามารถทำการหมั้นและสมรสได้ จากกม.สมรสปัจจุบันที่การหมั้น ใช้คำว่า “ฝ่ายชาย ฝ่ายหญิง” แก้ไขเป็น “ผู้หมั้นและผู้รับหมั้น” หรือ “เพศ” ที่ใช้คำว่า “ชาย-หญิง” แก้ไขเป็น “บุคคลทั้ง 2 ฝ่าย”
และสถานะหลังจดทะเบียนสมรส จาก “สามีภริยา/คู่สมรส” แก้เป็น “คู่สมรส/คู่สมรส” รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติอื่น ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีสิทธิ หน้าที่สถานะทางครอบครัว เท่าเทียมกับคู่สมรสที่เป็นชายและหญิง
สำหรับ กม.นี้ จะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 120 นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทำความเข้าใจ ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะรายละเอียดกฎหมายที่ผูกพัน ทั้งอาญา และแพ่ง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจถึงสิทธิต่าง ๆ ทั้งสิทธิการจัดการทรัพย์สินของคู่สมรส สิทธิรับบุตรบุญธรรม สิทธิการลงนามยินยอมให้รักษาพยาบาลอีกฝ่าย
แจกเงินชาวนา 1,000 บาท-พักหนี้เกษตรกร
เรียกว่าเป็นนโยบายที่เข้าถึงกลุ่มเกษตรกร ภายใต้โครงการสนับสนุนบริหารจัดการและเพิ่มคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวการผลิตปีการผลิต 2567 / 2568 เพื่อลดต้นทุนการผลิตการเกษตรให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นหรือไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ครัวเรือนละไม่เกิน 10,000 บาท
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะเริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนา 4.3 ล้านคน วงเงินกว่า 35,000 ล้านบาท คาดว่าจะใช้เวลา 5 วัน เริ่มโอนเงินเป็นรอบๆ ดังนี้ วันแรก 16 ธ.ค. ภาคเหนือ วันที่ 17 ธ.ค.ภาคกลางและภาคตะวันออกวันที่ 18 ธ.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วันที่ 19 ธ.ค. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง วันที่ 20 ธ.ค.เกษตรกรภาคตะวันตกและภาคใต้
นอกจากนี้ ยังอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ มาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาล ในระยะ 2-3 ฟื้นฟูและการพัฒนาศักยภาพฟื้นฟูลูกหนี้ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) เพื่อให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ในระยะที่ 2 จะเริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.2567-30 ก.ย.2568 ส่วนระยะ 3 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568 -30 ก.ย.2569
ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-รถไฟฟ้า 20 บาท
ปัญหาค่าครองชีพเป็นหนึ่งในสิ่งที่ชาวบ้านอยากเห็นมากที่สุด น่าจะเป็นเรื่องของการลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่ารถไฟฟ้า โดยอนุมัติงบกลาง วงเงิน 1,790 ล้านบาท ให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เป็นค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้า บ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเป็นเวลา 4 เดือน (พฤษภาคม – สิงหาคม 2567) จำนวน 19.05 สตางค์ต่อหน่วย
นอกจากนี้กระทรวงพลังงาน ลดค่าไฟฟ้างวดม.ค.-เม.ย.2568 จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.2567) ซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาทหน่วย ลงอีก 3 สตางค์ต่อหน่วย หรือค่าไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค-เม.ย.2568 ทั้งนี้เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ
ส่วนค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2567. ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม ต่ออายุมาตรการอัตราค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย คือ โครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ – ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์-รังสิต) ส่วนสายอื่นๆ รอใช้ตั๋วร่วม
กระตุ้นท่องเที่ยวฟรีวีซา-แอ่วเหนือ 400 บาท
Amazing Thailand Grand Tourism Year 2025” ตั้งเป้าปี 68 รายได้การท่องเที่ยวโต 7.5% และตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 3.4 ล้านล้านบาท พร้อมคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 40 ล้านคน และเกิดการเดินทางภายในประเทศมากกว่า 205 ล้านครั้งทั่วประเทศไทย
นอกจากนี้ยังการให้สิทธิยกเว้นการตรวจลงตรา สามารถพำนักในประเทศไทยไม่เกิน 60 วัน เพื่อการท่องเที่ยว การติดต่อธุรกิจและการทำงานระยะสั้น จำนวน 93 ประเทศ
เพิ่มเงินดือนข้าราชการ
เพิ่มเงินเดือนพนักงานราชการ ให้สอดคล้องกับนโยบายการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ แรกบรรจุ 18,000 บาท โดย ครม.เห็นชอบการปรับอัตราค่าตอบแทนแรกบรรจุ และการปรับค่าตอบแทนแทนชดเชยผู้ได้รับผลกระทบของพนักงานราชการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 รวมทั้งการปรับเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของพนักงานราชการด้วย
อ่านข่าว เปิดอัตราเงินเดือนข้าราชการใหม่ ปี 2567 หลัง ครม.เคาะปรับขึ้น 10%
ตรึงแวตภาษี 7% อีก 1 ปี-บัตรประชาชนรักษาทุกที่
นอกจากนี้ยังห็นชอบการขยายระยะเวลาการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภาษีแวต) ให้จัดเก็บในอัตรา 7% ต่อไปอีก 1 ปี และยังอนุมติงบกลาง ให้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 5,924 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล ยกระดับ 30 บาท รักษาทุกโรค “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่” ประจำปีงบประมาณ 2567
แห้วขึ้นค่าแรง 400 บาท-กก.ไตรภาคี
แม้จะเป็นนโยบายเรอธงตั้งแต่การหาเสียง แต่ผ่านมาจนเกือบสิ้นปี ขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ก็ยังติดหล่มทั้งเสียงจากภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และบอร์ดคณะกรรมการค่าจ้างที่เกิดปัญหาทางเทคนิค
อ่านข่าว ปรับค่าแรง 400 บาท กกร.ชี้ 90% ไม่เห็นด้วยขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ
ล่าสุดวันนี้ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ได้รับทราบการรายงานเบื้องต้นจากนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน โดยจะต้องรอการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างที่นัดประชุมในวันที่ 12 ธ.ค.นี้