‘อนุทิน’ Kick off มอบธงแห่งความรักทั่วไทย ภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality: Love Wins in 878 Districts)” พร้อมย้ำ “ความรักไม่มีพรมแดน” และ “ความเท่าเทียม” คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาค
วันนี้ (13 ม.ค. 68) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีไทยและ รมว.มหาดไทย เป็นประธาน Kick off แสดงความพร้อมเชิงสัญลักษณ์ “มอบธงแห่งความรักทั่วไทย” ตามโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียม ภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality : Love Wins in 878 Districts)” จัดโดยกรมการปกครองร่วมกับสหประประชาชาติในประเทศไทย (United Nations Country Team in Thailand) โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณมิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ (H.E. Ms. Michaela Friberg-Storey) ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจำประเทศไทย (United Nations Resident Coordinator in Thailand) เอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ผู้แทนภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และภาคีเครือข่าย ร่วมในกิจกรรม
กิจกรรมครั้งนี้ เป็นส่วนสำคัญของโครงการขับเคลื่อนการปฏิบัติงานด้านการบริการประชาชนบนหลักการความเสมอภาคและเท่าเทียมภายใต้แนวคิด “สมรสเท่าเทียม ยินดีกับทุกความรัก 878 อำเภอ ทั่วไทย (Embracing Equality: Love Wins in 878 Districts)” โดยนายอนุทิน ได้กล่าวแสดงความพร้อมของกระทรวงมหาดไทยในการให้บริการประชาชนตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม คุณมิเกลล่า และคุณมิเรียม อ๊อตโต อัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย (Ms. Miriam Otto, Deputy Ambassador of the Netherlands to Thailand) กล่าวแสดงความยินดี จากนั้น นายอนุทิน มอบธงสัญลักษณ์ให้กับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และร่วมรับฟังการแลกเปลี่ยนมุมมองจากผู้แทนหน่วยงานต่าง ๆ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเท่าเทียมในมิติต่าง ๆ ผ่านกิจกรรม Symposium Session : 5-Minute Talk “เสียงจากหลากมุมมอง 5 นาที แห่งความเท่าเทียม”
นายอนุทิน กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรระหว่างกระทรวงมหาดไทยและสหประชาชาติประเทศไทยเป็นพลังที่สำคัญซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เข้มแข็งระหว่างสหประชาชาติและรัฐบาลไทยในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและความเท่าเทียมทางเพศ และย้ำว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญในการส่งเสริมความเท่าเทียมและสิทธิมนุษยชนในการให้บริการสาธารณะให้กับประชาชน โดยเฉพาะในการดำเนินการตาม พรบ.แก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือที่เรียกว่า กฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งรับรองสิทธิในการสมรสสำหรับทุกคู่รัก ซึ่งวันนี้ เราทุกคนมารวมตัวกันเพื่อโอบรับความเท่าเทียมและยอมรับความรักในรูปแบบที่หลากหลาย
“กระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครองภูมิใจที่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการนี้ในฐานะนายทะเบียนกลาง สำหรับการทำหน้าที่นายทะเบียนให้กับทุกความรักทั่วประเทศ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ในการให้บริการจดทะเบียนที่ยึดถือหลักการของความเสมอภาคและความเท่าเทียม และเราขอยืนยันความมุ่งมั่นของเราในการให้บริการจดทะเบียนสมรสอย่างราบรื่นและถูกต้องตามกฎหมายสำหรับทุกคู่รัก เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในระเบียบและระบบที่ให้คุณค่าแก่ความหลากหลายและเคารพศักดิ์ศรีของประชาชน ด้วยการตระหนักถึงพันธกรณีของไทยในฐานะประเทศใหม่ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม สอดคล้องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 5 ว่าด้วยความเท่าเทียมทางเพศ และเป้าหมายที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ”
นายอนุทิน กล่าวในช่วงท้ายว่า กิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงแค่ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับโลก แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในระบบการบริการที่มีความโปร่งใส เท่าเทียม และยุติธรรมอีกด้วย ซึ่งตนต้องขอขอบคุณสหประชาชาติประเทศไทย และทุกภาคส่วนที่ร่วมจัดกิจกรรม พร้อมทั้งให้คำมั่นว่า เราก้าวไปข้างหน้าร่วมกันด้วยความเชื่อมั่นว่า “ความรักไม่มีพรมแดน” และ “ความเท่าเทียม” คือสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรได้รับอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน
ด้านนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองในฐานะนายทะเบียนกลางได้เตรียมความพร้อมให้กับสำนักทะเบียนอำเภอ 878 แห่ง สำนักทะเบียนเขต กทม. 50 เขต และสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยในต่างประเทศ 94 แห่ง เพื่อสอดคล้องกับ พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 24) พ.ศ. 2567 หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ที่จะมีผลใช้บังคับในวันที่ 23 มกราคม 2568 รวม 4 ด้าน คือ
1) ด้านระเบียบ โดยได้ร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจดทะเบียนครอบครัว (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2568 เพื่อรองรับการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวระหว่างบุคคลเพศหลากหลาย ทำให้คู่รักสามารถหมั้นและสมรสกันได้ ซึ่งจะทำให้มีสิทธิ หน้าที่ และสถานะทางครอบครัวเท่าเทียมกัน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นระหว่างบุคคลทั้งสองฝ่าย
2) ด้านระบบ โดยได้มีการแก้ไขระบบทะเบียนสมรสและทะเบียนหย่า และมีการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจัดเตรียมผลิตแบบพิมพ์ ใบสำคัญการสมรส (คร.3) และใบสำคัญการหย่า (คร.7) เพื่อรองรับการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น
3) ด้านบุคลากร โดยได้จัดทำชุดความรู้และอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทะเบียนใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ความรู้ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด การปรับกรอบความคิดในการให้บริการประชาชน และการบริการที่เป็นสากลบนหลักความเสมอภาคและเท่าเทียม คำนึงถึงมารยาทสากลและหลักสิทธิมนุษยชน
4) ด้านการจัดกิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม Kick Off ในวันนี้ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ที่จะจัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ณ ที่ว่าการอำเภอ ทั้ง 878 แห่ง ในวันที่ 23 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้ เพื่อเฉลิมฉลองให้กับทุกความรักตามแนวคิด “กรมการปกครองยินดีเป็นนายทะเบียนให้กับทุกความรัก”
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง โทร. 1548 หรือที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต ทุกแห่งทั่วประเทศ