วันนี้ (17 เม.ย.2566) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรค ขึ้นรถแห่เดินทางมาเขตบางกะปิ เพื่อช่วยขอเสียงสนับสนุนให้ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 14 วังทองหลาง บางกะปิ นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย เบอร์ 1 พร้อมกับอดีตผู้สมัคร ส.ก. และทีมงานหาเสียงที่ตลาดบางกะปิ โดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเข้ามาทักทายนายจุรินทร์ ด้วยความคุ้นเคย พร้อมกับอวยพรขอให้โชคดี และไม่เคยลืมประชาธิปัตย์ เบอร์ 26
ขณะที่ นายจุรินทร์ พบแม่ค้าขายผักกระถิน นายจุรินทร์จึงหยิบเม็ดกระถิน ขึ้นมาบอกกับทีมงานว่า “บ้านผมเรียก สะตอเบา หรือ มินิสะตอ กลิ่นหอมเขียว พอกัน” นอกจากนี้เมื่อนายจุรินทร์เดินผ่านแผงแม่ค้าผลไม้ สังเกตเห็นผลไม้ลูกสีแดงมีขนาดเล็ก จึงเข้าไปทักถามพร้อมกับบอกว่า “เมื่อกี้เจอมินิสะตอแล้ว ตอนนี้เจอ มินิลิ้นจี่ หวานเจี๊ยบเลย ง่วงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตื่นเลย”
และในระหว่างที่นายจุรินทร์และคณะเดินพบปะทักทายพี่น้องประชาชนอยู่นั้น นายพันธ์พิสุทธิ์ นุราช ผู้สมัครประชาธิปัตย์ เขตคันนายาว บึงกุ่ม เบอร์ 1 ซึ่งปกติประกอบอาชีพเป็นนักบิน แต่วันนี้ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์เพื่อมาหาเสียงร่วมกับนายจุรินทร์ด้วย
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เขตบางกะปิ เป็นพื้นที่เดิมของประชาธิปัตย์ที่เรามีผู้แทนมาหลายคน ล่าสุดคือ ณัฏฐ์ บรรทัดฐาน จึงถือว่าพรรคมีฐานเสียงเดิมอยู่เป็นจำนวนมาก จากการเดินพบปะชาวบ้านวันนี้ มีหลายคนเป็นแฟนพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์ และอีกหลายคนก็บอกว่าจะเลือกประชาธิปัตย์ เบอร์ 26 ในการเลือกตั้งที่จะมาถึง
สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ส่ง นาย ประพฤติ ฉัตรประภาชัย ซึ่งเป็นผู้สมัครที่มีศักยภาพ และมีคุณภาพมาก เป็นนักกฎหมายจบนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ จบปริญญาโท กฎหมายจากมหาวิทยาลัยคอร์แนล และเป็นเนติบัณฑิต เป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัยเอแบค ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญให้พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นตัวแทนของชาวบางกะปิได้
โดยนายจุรินทร์ เชื่อว่ามีพี่น้องประชาชนหลายคนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ประชาธิปัตย์ ยังยืนหยัดอยู่กับพรรค และต้องการจะกลับมาเลือกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา เราได้พิสูจน์แล้วว่าแม้ประชาธิปัตย์จะไม่มี ส.ส. ในกรุงเทพฯ แต่เราก็ไม่เคยทิ้งคนกรุงเทพฯ และทำงานร่วมทุกข์ร่วมสุขมาอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้อยู่ในใจของพี่น้องชาว กทม. ดังนั้นเมื่อถึงเวลามีการเลือกตั้ง ก็เชื่อว่าประชาธิปัตย์จะได้รับเสียงตอบรับดีขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :