คำต่อคำ “บิ๊กบี้” ขอลบคำ “ปฏิวัติรัฐประหาร” ออกจากพจนานุกรมกองทัพ

วันนี้ (11 พ.ค.2566) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เชิญชวนให้กำลังพลไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เพราะเป็นหน้าที่ในการสนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข กองทัพบกโดยผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นได้เน้นย้ำมาตลอด

นอกจากนี้ยังใช้สื่อของกองทัพบกในทุกช่องทาง เพื่อสื่อสารกับกำลังพลและครอบครัวให้ออกไปใช้สิทธิ์ เพราะหน้าที่ของพลเมืองที่ดีคือการไปเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิ์ของตัวเองให้ดีที่สุด

ทั้งนี้กองทัพบกมีแนวทางการปฏิบัติให้กำลังพล ระมัดระวังอย่าทำผิดกฎหมายไม่ว่าจะในด้านใด ซึ่งในวัน 12 พ.ค.นี้ ถือเป็นวันราชการวันสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง ก็จะเน้นย้ำกันอีกครั้ง โดยเฉพาะข้อกฎหมายต่างๆ เช่นการสวมเสื้อ มีชื่อพรรค การเมืองเข้าไปในพื้นที่หน่วยเลือกตั้ง รวมถึงหลังเวลา 18.00 น.ของวันที่ 13 พ.ค.นี้งดการหาเสียง

ยันเกณฑ์ทหาร พร้อมชี้แจง

ส่วนกรณีที่ทหารตกเป็นเป้าเรื่องนโยบายยกเลิกเกณฑ์ทหาร พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเรื่องของฝ่ายบริหาร ใครจะเข้ามาก็มีสิทธิที่จะทำตามนโยบายของเขา ในส่วนของที่เป็นทหาร ก็มีสิทธิทำข้อมูลชี้แจง ถึงความจำเป็นในการมีทหาร หรือความจำเป็นในการเกณฑ์ทหาร ทั้งนี้เป็นเรื่องปกติที่จะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เป็นสิทธิ ที่ทุกคนจะมีแนวคิดหรือมุมมองด้านใดก็ได้

อ่านข่าวที่เพิ่ม เลือกตั้ง 2566: 90 วันหลังเลือกตั้ง “ปชป.” ชูแก้หนี้ ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้

พร้อมย้ำไม่ห่วงสถานการณ์หลังเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่ามีบทเรียนมามากแล้วในอดีต เพราะฉะนั้นทุกคนมาถึงจุดนี้ การเมืองในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องเดินไป แต่ทุกคนก็ต้องมีสติ ว่าอะไรควร ไม่ควร

สำหรับบ้านเมืองเราและบ้านเมืองต้องการอะไร ซึ่งต้องการความสงบเรียบร้อย บ้านเมืองจะได้เจริญเศรษฐกิจจะได้ดี แต่ถ้าเราคิดจะขัดแย้ง ก่อความวุ่นวาย บ้านเมืองและคนส่วนใหญ่ก็จะได้รับความเดือดร้อน จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องร่วมมือกันไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จะต้องกังวล แต่ทุกคนควรมีสติ

ยืนยันไม่ได้ว่า สถานการณ์บ้านเมืองจะเรียบร้อยหรือไม่

ขอลบคำปฏิวัติประหารออกจากพจนานุกรมกองทัพ

ส่วนความเป็นไปได้เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร เคยบอกนักข่าวไปหลายครั้งแล้วว่าไม่ควรพูดไม่ควรถาม และไม่ควรเขียน เพราะจะเป็นการปลุกความคิดที่ขัดแย้งต่อเนื่อง ซึ่งคำพวกนี้ไม่ควรมีแล้ว และขอร้องผู้สื่อข่าวควรลบออกไปจากพจนานุกรมของผู้สื่อข่าว ส่วนในพจนานุกรมของกองทัพ ก็ต้องลบแน่นอน

ยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตติดลบเป็นศูนย์ และคำว่าปฏิวัติขอให้สื่อมวลชนไม่ควรถามและเขียน เพราะจะปลุกความคิดที่ขัดแย้ง และซ่อนเงื่อนไว้ ขอให้ลบคำนี้ออกไปจากพจนุกรมของสื่อมวลชนและของกองทัพ

ทั้งนี้หากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของสถานการณ์ในอนาคต ไม่มีใครตอบได้ จนกว่าจะถึงวันที่ 14 พ.ค.นี้ หรืออะไรก็ว่ากันไป ซึ่งถือเป็นเรื่องของนักการเมืองที่จะไปจับขั้วกันเองว่าจะจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ทหารเป็นเพียงข้าราชการประจำ ไม่ใช่ข้าราชการการเมือง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เลือกตั้ง2566 : กกต.ยืนยันให้ความยุติธรรมทุกฝ่าย ปมสอบ “พิธา” ถือหุ้นสื่อ