อัยการรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ระบุว่า อดีตผู้จัดการห้องเก็บศพที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เป็น 1 ใน 5 คนที่ถูกคณะลูกขุนตัดสินในข้อกล่าวหา จากการที่พวกเขาขโมยและขายชิ้นส่วนของร่างกายจากศพ ที่ได้บริจาคให้กับทางมหาวิทยาลัย
สำนักงานอัยการสหรัฐฯ ประจำเขตมิดเดิลดิสทริกต์ของมลรัฐเพนซิลเวเนีย กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (14 มิ.ย.) ว่า เซดริก ลอดจ์ วัย 55 ปี อดีตผู้จัดการห้องเก็บศพที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ซึ่งถูกไล่ออกจากงานเมื่อวันที่ 6 พ.ค. และจำเลยคนอื่นๆ ถูกกล่าวหาว่าดำเนินโครงการขายชิ้นส่วนร่างกายศพในตลาดมืดตั้งแต่ปี 2561 ถึง 2565
อัยการสหรัฐฯ กล่าวว่า ลอดจ์ซึ่งได้รับการว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในเมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ ในปี 2538 เคยอนุญาตให้ผู้ที่ต้องการจะซื้ออวัยวะจากศพ สามารถเข้าไปในห้องเก็บศพของมหาวิทยาลัย เพื่อตรวจสอบศพและเลือกชิ้นส่วนที่ต้องการจะซื้อ โดยอัยการระบุว่าผู้ซื้อส่วนใหญ่จะซื้ออวัยวะเพื่อนำไปขายชิ้นส่วนของร่างกายต่อ
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐฯ ยังเปิดเผยอีกว่าบางครั้ง ลอดจ์ยังนำส่วนต่างๆ ของชิ้นส่วนร่างกายศพ ซึ่งรวมถึงศีรษะ สมอง ผิวหนัง และกระดูก กลับไปที่บ้านของเขา ที่เขาอาศัยอยู่กับเดนิส ภรรยาวัย 63 ปี และชิ้นส่วนบางส่วนยังถูกส่งไปยังผู้ซื้อทางไปรษณีย์
ทั้งนี้ ร่างกายที่บริจาคให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ด้านการศึกษา การสอน หรือการวิจัย โดยเมื่อร่างไม่เป็นที่ต้องการแล้ว ศพมักจะถูกเผาและขี้เถ้าจะถูกส่งกลับไปยังครอบครัวของผู้บริจาคหรือฝังไว้ในสุสาน
ก่อนหน้านี้ ผู้ต้องสงสัยรายที่ 6 ถูกตั้งข้อหาในมลรัฐอาร์คันซอในคดีลักษณะเดียวกันนี้ เนื่องจากต้องสงสัยว่าขโมยชิ้นส่วนร่างกายจากห้องเก็บศพที่เธอทำงานให้ ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ว่าลอดจ์ ซึ่งถูกจับกุมโดย FBI เมื่อวันพุธ ตามรายงานของ ABC News ซึ่งรวมถึงภรรยาของลอดจ์นั้น มีตัวแทนทางกฎหมายในการสู้คดีหรือไม่
คดีฟ้องร้องดังกล่าวมีการตั้งข้อหาลอดจ์ และจำเลยอีก 3 คน อย่าง แคทรีนา แมคคลีน วัย 44 ปี จากเมืองซาเลม มลรัฐแมสซาชูเซตส์ โจชัว เทย์เลอร์ วัย 46 ปี จากเมืองเวสต์ลอว์น มลรัฐเพนซิลเวเนีย และแม็ทธิว แลมปี วัย 52 ปี จากเมืองอีสต์เบเธล มลรัฐมินนิโซตา ฐานสมรู้ร่วมคิดและขนส่งสินค้าที่ถูกขโมยระหว่างมลรัฐ ทั้งนี้ จากคำแถลงของอัยการ จำเลยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายทั่วประเทศของผู้ที่ซื้อและขายซากศพ ที่ถูกขโมยไปจากมหาวิทยาลัย และที่เก็บศพของมลรัฐอาร์คันซอ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า สองสามีภรรยาลอดจ์ถูกกล่าวหาว่าขายซากศพแก่ แมคคลีน, เทย์เลอร์ และคนอื่นๆ ในการจัดการผ่านทางโทรศัพท์และเว็บไซต์โซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งเทย์เลอร์ทำการขนส่งซากศพที่ถูกขโมย กลับไปยังมลรัฐเพนซิลเวเนีย ในขณะที่บางครั้งลอดจ์จะส่งซากศพไปให้เทย์เลอร์และคนอื่นๆ และแมคคลีนกับเทย์เลอร์ได้นำซากศพที่ถูกขโมยไปขายต่อเพื่อหากำไร
สถานีโทรทัศน์ WMUR-TV รายงานว่า เดนิส ลอดจ์ ปรากฏตัวครั้งแรกในศาลเมื่อวันพุธ ที่ศาลรัฐบาลกลางในเมืองคองคอร์ด มลรัฐนิวแฮมป์เชียร์ และได้รับการประกันตัว โดยเธอปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นขณะที่เธอออกจากศาล ในขณะที่ เซดริก ลอดจ์ มีกำหนดจะขึ้นศาลครั้งแรกในวันพุธนี้ โดยก่อนหน้านี้มีจำเลยอีก 2 คนถูกตั้งข้อหาในคดีนี้
“อาชญากรรมบางอย่างยากต่อการทำความเข้าใจ” เจอราร์ด คารัม อัยการสหรัฐฯ กล่าวในการแถลง “การโจรกรรมและการค้าชิ้นส่วนมนุษย์ ยังคงเป็นเรื่องที่ทำร้ายต่อหัวใจสำคัญของสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์” คารัมระบุ
ผู้เสียชีวิตที่ถูกขายชิ้นส่วนร่างกาย ได้ยินยอมให้มีการนำซากของพวกเขาไปใช้ เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ คารัมกล่าวพร้อมระบุเสริมว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ให้ความร่วมมือกับการสอบสวน ทั้งนี้ จอร์จ ดาลีย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด กล่าวในการแถลงต่อหน้าคณะเมื่อวันพุธว่า “เรารู้สึกตกใจเมื่อรู้ว่าอาจมีบางสิ่งที่น่าหวาดผวาเกิดขึ้นในวิทยาเขตของเรา”
ดาลีย์กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ทราบข้อกล่าวหานี้ครั้งแรกในเดือน มี.ค. และกำลังค้นหาบันทึกของคณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบันทึกที่แสดงเวลาที่ผู้บริจาคยังคงถูกส่งไปเผา และเมื่อลอดจ์ทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย เพื่อพยายามระบุว่าส่วนใดของร่างกายของผู้บริจาค ที่อาจเป็นได้ว่าจะถูกค้าศพ
ทั้งนี้ สำนักงานสื่อสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ทางหน่วยงานไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ ด้วยเหตุผลของการสอบสวนทางอาญา
ที่มา: