ไต้หวันเกิดกรณีฉาว หลังจากทางการได้เปิดการสืบสวนการใช้ยาเสพติดต่อเด็กก่อนวัยเรียนใน ซึ่งได้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วทั้งประเทศ
จากรายงานระบุว่า ครูของโรงเรียนอนุบาลในนครนิวไทเป ถูกกล่าวหาว่าให้นักเรียนสงบสติอารมณ์ ด้วยการป้อนยาแก้ไอที่มีตัวยาสารเสพติด เช่น ฟีโนบาร์บิทัล และเบนโซไดอะซีปีน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันได้เปิดการสืบสวนมาหลายสัปดาห์แล้ว แต่พวกเขายังไม่ทราบสาเหตุชัดเจนว่า ทำไมเด็กๆ ถึงได้รับน้ำเชื่อมที่ผสมสารเสพติดเอาไว้
อย่างไรก็ดี เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวได้จุดชนวนให้ผู้ปกครองทั่วไต้หวัน ออกมาประท้วงหน้าสถานที่ราชการ โดยประชาชนหลายร้อยคนเข้าร่วมการเดินขบวนในนครนิวไทเปเมื่อวันอาทิตย์ (18 มิ.ย.) เพื่อเรียกร้องให้มีการสืบสวนของตำรวจอย่างโปร่งใสมากขึ้น โดยหลายคนวิจารณ์ว่าทางการไม่เปิดเผยข้อมูลการสืบสวนต่อสาธารณะ
นอกจากนี้ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (19 มิ.ย.) ทางการไต้หวันยังมีพบการกระทำความผิดอีกกรณีหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาทางการแพทย์ในเมืองเกาสงทางตอนใต้ของไต้หวัน ซึ่งตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของเกาะ หลังจากหน่วยงานสาธารณสุขท้องถิ่นพบว่า มีแพทย์ 4 คนมีความผิดฐานประพฤติมิชอบ และใช้ยาฟีโนบาร์บิทัลอย่างไม่เหมาะสม กับเด็กประมาณ 20 คน โดยพวกเขาได้รับคำสั่งให้ระงับการประกอบอาชีพแพทย์เป็นเวลา 6 เดือน และถูกสั่งปรับเป็น 1.4 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1.57 ล้านบาท)
ท่ามกลางความกังวลของสาธารณชนที่เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลในกรุงไทเปได้เริ่มให้บริการตรวจเลือดฟรีสำหรับเด็กก่อนวัยเรียน เพื่อตรวจหาร่องรอยของสารในกลุ่มยาระงับประสาท โดยมาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวครั้งแรกในเดือน พ.ค. เมื่อพ่อแม่ของเด็กในโรงเรียนอนุบาลเอกชนแห่งหนึ่งของนครนิวไทเปกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอนุบาลได้ป้อน “ยาที่ไม่ระบุชื่อ” แก่บุตรหลานของตัวเอง
ไมค์ พ่อของลูกวัย 5 ขวบ ระบุกับ BBC ภาคภาษาจีนว่า พ่อแม่เริ่มสังเกตเห็นอาการของลูกๆ ที่เผยออกมาในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ตรุษจีนในเดือน ก.พ. “พ่อแม่บางคนพบว่าลูกๆ ของพวกเขามีอาการหงุดหงิด กระสับกระส่าย และกรีดร้องตอนนอนหลับในช่วงวันหยุด และถึงกับร้องไห้ด้วยอาการตะคริวที่ขา” ไมค์กล่าว
หลังจากพูดคุยกับเด็กๆ ผู้ปกครองได้พบว่าครูของพวกเขาได้ป้อน “ยาที่ไม่ระบุชื่อ” ให้กับพวกเขา ทั้งนี้ มีการแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจในเดือน เม.ย. และ พ.ค. โดยหลังจากผู้ปกครองเริ่มทำการร้องเรียนมากขึ้นในเดือน มิ.ย. ทางการท้องถิ่นจึงได้เริ่มการสอบสวน และพบเด็กอย่างน้อย 8 คน ที่มีปริมาณสารฟีโนบาร์บิทัลและเบนโซไดอะซีปีน ซึ่งเป็นกลุ่มของยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทในระบบร่างกายของเด็กๆ
โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางของที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นแฟรนไชส์ของ Kid Castle Educational Institute ได้รับคำสั่งจากทางการให้ปิดตัวลงในวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ กรรมการของโรงเรียนยังถูกปรับเป็นเงิน 150,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 168,000 บาท) และครูใหญ่และครู 5 คนถูกตำรวจจับกุมและสอบปากคำ ก่อนจะได้รับการประกันตัว ทั้งนี้ การสืบสวนคดีอาชญากรรมกำลังดำเนินการอยู่
สื่อท้องถิ่นไต้หวันรายงานว่า เจ้าหน้าที่กล่าวว่าผู้ปกครองต่างยินยอม ให้มีการใช้รายการยาที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้ แต่ผู้ปกครองบางคนกำลังตั้งคำถามถึงยาบางตัว ที่โรงเรียนเลือกมาใช้กับบุตรหลานของตัวเอง
เภสัชกรคนหนึ่งในไต้หวันระบุกับสื่อท้องถิ่นว่า แม้กรณีนี้จะเป็นกรณีที่หาได้ยาก แต่ยาแก้ไอและยาทางเดินอาหารบางชนิดมีตัวสารยาฟีโนบาร์บิทัล ทั้งนี้ ยาที่มีฟีโนบาร์บิทัลส่วนใหญ่จะถูกใช้ในการรักษาโรคลมบ้าหมู และหรือใช้เป็นยาสลบจากการผ่าตัด และมันเป็นยาที่หาซื้อได้ยากในท้องตลาดทั่วไป ในอีกทางหนึ่ง เบนโซไดอะซีปีนเป็นกลุ่มยาซึมเศร้าที่ใช้กันมากที่สุด เพื่อรักษาความวิตกกังวลอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ตัวยาทั้งสองเป็นยาเสพติดทำให้ผู้ใช้เสพติดมันได้ง่าย และการใช้ยาเกินขนาดอาจทำให้เกิดอาการง่วงนอนและหายใจถี่
ที่มา: