โซเชียลระอุ หลัง “พิธา” วืดนายกฯ รอบแรก

ความเคลื่อนไหวกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แพ้โหวตนายกรัฐมนตรีรอบแรก เนื่องจากได้รับเสียง 324 เสียงทำให้ยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 

ในโลกออนไลน์กระแสการเมืองยังคงเดือด แฮชแท็กล่าสุด #เลือกนายกตามผลเลือกตั้ง #สวมีไว้ทําไม #ชาดา รวมทั้ง #งดออกเสียง ยังคงติดเทรนด์ทวิตเตอร์ นอกจากนี้ยังมีบุคคลในแวดวงการเมืองที่ออกมาแสดงความคิดเห็นทั้งในไทยและต่างประเทศ

อ่านข่าวเพิ่ม “พิธา” ยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้ ยันเดินหน้าแก้ ม.112

เริ่มจากพรรคก้าวไกล-Move Forward Party ทวีตข้อความ

ขอบคุณ 324 เสียงจากสมาชิกรัฐสภา เรายังสู้ต่อ

ระบุเสียงของประชาชนที่ส่งผ่านสมาชิกรัฐสภา มาโหวตให้กับพรรคก้าวไกล รวมทั้งสิ้น 324 เสียง ยังไม่มากพอที่จะส่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วม 8 พรรคตามที่ประชาชนทั่วประเทศคาดหวังได้

แต่พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากที่สุดในประเทศ ขอยืนยันว่าเราจะสู้ต่อ ยังคงเดินหน้าพยายามรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่ชอบธรรมตามมติมหาชนให้ได้ โดยความหวังว่าสมาชิกรัฐสภาจะตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ยึดมั่นในหลักการ และฟังเสียงของประชาชน เดินต่อไปด้วยกัน จนกว่าจะถึงวันที่เสียงของประชาชนได้กำหนดอนาคตของประเทศไทย

ขณะที่วันนี้ 15.00 น. พรรคก้าวไกล เข้ายื่นร่างกฎหมาย แก้ไข มาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายก

พรรคร่วมยังไม่แตกแถว

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ระบุว่า 
การประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลที่สมควรจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.นี้

พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตยและสมาชิกรัฐสภา ยืนยันหลักการประชาธิปไตย ร่วมกันลงมติเห็นชอบ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี 324 เสียง ไม่เห็นชอบ 182 เสียง และงดออกเสียง 199 เสียง

ผลคะแนน 8 พรรคร่วมฝ่ายประชาธิปไตย ยืนยันความเป็นเอกภาพ ยึดมั่นหลักการประชาธิปไตย ทุกคะแนนของพรรคเพื่อไทย เพื่อพี่น้องประชาชน

เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan โพสต์เฟซบุ๊กว่า อย่าหมดหวัง จับมือกันให้แน่นเดินหน้าต่อ ตั้งรัฐบาลประชาชนให้สำเร็จพรรคไทยสร้างไทย ขอขอบคุณ 8 พรรคร่วมที่ทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ

“ชูวิทย์” แนะยอมถอยแก้ ม.112 

ส่วนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง โพสต์เฟซบุ๊กหลังรู้ผลโหวตของรัฐสภาไม่เห็นชอบให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเสนอแนะให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยอมถอย ในประเด็นที่จะผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 หากไม่เช่นนั้นนายพิธา คงหมดโอกาสที่จะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แม้จะมีการเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาโหวตซ้ำก็ตาม

ส่วน “หมอเหวง โตจิราการ” แกนนำคนเสื้อแดง และอดีต ส.ส.เพื่อไทย หนุนยกเลิกอำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ โพสต์เลิก ม.272 ในรัฐธรรมนูญ เอา ส.ว.ลากตั้งออกไป เอานายกฯ จากประชาชนกลับมา ยกเลิก ม.272 ยกเลิก ม.272
ยกเลิก ม.272″

สื่อต่างชาติเกาะติด-ฮุนเซนโผล่ทวีต

ขณะที่สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเกาะติดเรื่องนี้มาโดยตลอด ขึ้นพาดหัวข่าวว่า “เป็นช่วงเวลาสำคัญของประชาธิปไตยในไทย หลังรัฐสภา ไม่สามารถโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้”

โดยยังระบุว่า จากนี้จะมีการลงมติอีก 2 ครั้ง แต่หลังจากนั้น กลุ่มพรรคร่วมอาจเริ่มแตก ซึ่งการหยุดชะงักทางการเมืองนี้อาจจะทำให้ความสำเร็จในการเลือกตั้ง ของกลุ่มที่มีแนวคิดก้าวหน้า อาจต้องหยุดชะงักไป และอาจจุดชนวนการประท้วงได้

อีกด้านหนึ่ง ก็มีท่าทีจากผู้นำต่างประเทศ อย่างสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ที่มีใจความค่อนข้างดุเดือดว่า

การที่พิธา ไม่ได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของฝ่ายค้านในกัมพูชาด้วย

พร้อมระบุว่า ไม่ได้หมายความว่าตนเองกำลังแทรกแซงกิจการภายในของไทย แต่ประเด็นคือ ในอดีตกลุ่มคนที่คนทรยศเหล่านี้ มักคาดหวังเสมอว่าเมื่อพิธาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย พวกเขาจะใช้ดินแดนไทย รณรงค์ต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา ตอนนี้ความคาดหวังของกลุ่มผู้ต่อต้านได้หายไปแล้ว เหมือนกับเกลือที่อยู่ในน้ำและยังลงท้ายว่า อย่าเล่นการเมืองโดยพึ่งพาคนอื่น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ปิยบุตร” แนะ “ก้าวไกล” แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 “ปิดสวิตช์ ส.ว.”

เปิดรายชื่อ 13 ส.ว. โหวต “เห็นชอบ” พิธานั่งนายกฯ