‘วันชัย’ ลั่น สว. ไม่ใช่อุปสรรคของการเลือกนายกฯ ส่วนใหญ่หากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว ย้ำหลักเดิมหนุนฝ่ายรวมเสียงข้างมากได้ บุคคล-พรรคใด ไม่มีผลต่อการตัดสินใจ รับปากพร้อมยกมือเห็นชอบ ‘เศรษฐา’ เชื่อโหวตครั้งหน้าได้นายกฯ
วันที่ 8 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา วันชัย สอนศิริ สว. ให้ความเห็นกรณีพรรคเพื่อไทยจับมือพรรคภูมิใจไทยเป็นสารตั้งต้นจัดตั้งรัฐบาลขั้วใหม่ ประเมินเสียงเห็นชอบจาก สว. ว่าจะมากขึ้นหรือไม่ โดยระบุว่า นับแต่ที่ไม่มีเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาล สว. ได้คุยหารือกันในหลายกลุ่ม และเห็นพ้องกันเป็นส่วนใหญ่ว่า จะเห็นชอบให้ใครก็ตามที่สามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้เกินกึ่งหนึ่ง
“ขณะนี้ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคแกนนำ รวมเสียงกันได้เกินกึ่งหนึ่ง เชื่อว่า สว. จะโหวตให้ เพราะประเด็นที่เป็นเงื่อนไขในคราวที่แล้ว หมดไปแล้ว และ สว. กิอยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว เพราะเรื่องนี้คาราคาซัง มีผลกระทบมาถึง สว. ด้วย ทำให้ประชาชนทั่วไปมองว่า สว. มีส่วนทำให้การจัดตั้งรัฐบาลนั้นช้า”
วันชัย ยังฝากถึงพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำด้วยว่า ในช่วงหาเสียงจะปราศรัยโจมตีใครก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ตอนนี้เป็นวาระจัดตั้งรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชน ในเมื่อไม่สามารถชนะขาดได้เพียงพรรคเดียว ก็จำเป็นต้องประนอมอำนาจกับพรรคอื่น ตกลงกันให้ได้ ได้กันบ้าง เสียกันบ้าง อย่าตั้งแง่กันจนเกินไปทำให้ประเทศสะดุดหยุดชะงัก หวังให้นำวาระแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชนเป็นหลัก
“ผมย้ำไปหลายครั้งแล้วว่า อย่ามัวแบ่งซีกแบ่งฝ่าย ว่าฝ่ายนั้นเป็นเผด็จการ เป็นพวกสืบทอดอำนาจ มันจบแล้วตั้งแต่ทุกคนได้ผลจากการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะพรรคไหน ล้วนมีเกียรติมีศักดิ์ศรี มาจากพี่น้องประชาชนเหมือนกัน ดังนั้น ก็ลดละเลิกในเรื่องจะกล่าวหากัน ผมยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า สว. ไม่เป็นอุปสรรคต่อเรื่องนี้ พร้อมจะสนับสนุนคนที่ได้เสียงข้างมาก”
ส่วนกรณี เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เคยปราศรัยจะแก้ไขมาตรา 112 รวมถึงถูกกล่าวหาเรื่องเลี่ยงภาษีที่ดินนั้น วันชัย มองว่า กรณีดังกล่าวก็เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ และมองว่า เมื่อปราศรัยหาเสียงอาจจะพูดเลยเถิดไป แต่ภายหลังพรรคเพื่อไทยแถลงชัดเจน ก็เป็นอันตกไป ส่วนตัวขอยืนยันในหลักการ ใครรวมเสียงข้างมากได้ สว. พร้อมจะสนับสนุน ไม่ได้ยึดเอาตัวบุคคลเป็นสำคัญ
ขณะที่หากมีพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วม วันชัย มองว่า จากที่ได้พูดคุยกับกลุ่ม สว. เห็นว่าจะไม่เอาตัวบุคคลหรือพรรคการเมืองมาเป็นสำคัญ แต่จะยืนอยู่ในหลักการว่าเห็นชอบกับฝ่ายที่รวมเสียงข้างมากได้ ขณะที่มีข้อวิเคราะห์ว่า สว. อาจปัดตกชื่อ เศรษฐา ให้แคนดิเดตตกไปอยู่พรรคอันดับต่อไป เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มองว่าเป็นเพียงข้อวิเคราะห์ ทำให้ สว. กลายเป็นตำบลกระสุนตก พร้อมย้ำ สว. ต้องการให้มีการโหวตโดยเร็ว เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาลเดินหน้าต่อไป
วันชัย ยังเชื่อว่า การโหวตนายกฯ รอบหน้าจะผ่านไปด้วยดี ยกเว้นมีเหตุขัดข้องอื่นๆ ที่ยังไม่สามารถรู้ล่วงหน้า หากฝ่ายเสียงส่วนใหญ่ไม่สะดุดขาตัวเองเสียแล้ว การโหวตก็จะเป็นไปโดยเรียบร้อย และหากพรรคก้าวไกลช่วยโหวตให้แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ก็มองว่าเป็นเอกสิทธิ์ของพรรคก้าวไกล และแสดงออกถึงความเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องที่ สว. จะตั้งแง่ว่าพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลจะสมรู้ร่วมคิดกันภายหลัง