หน้าแรก Thai PBS “พิธา” เผยยังไม่พิจารณาโหวตนายก จาก “เพื่อไทย” ขอคิดรอบคอบ

“พิธา” เผยยังไม่พิจารณาโหวตนายก จาก “เพื่อไทย” ขอคิดรอบคอบ

78
0
“พิธา”-เผยยังไม่พิจารณาโหวตนายก-จาก-“เพื่อไทย”-ขอคิดรอบคอบ

วันนี้ (10 ส.ค.66) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาสภาฯและกลางถึง กรณีที่พรรคเพื่อไทยมาหารือร่วมกับพรรคก้าวไกลที่ตึกไทยซัมมิท เมื่อวานนี้ว่า เป็นการสื่อสาร และรับฟังกันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าไปกว่านั้น

หากทั้ง 2 ฝั่งมีคำถาม ก็จะนัดเจอกันเรื่อย ๆ ส่วนจะโหวตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น นายพิธา กล่าวว่าต้องรอรับฟังกันก่อนรอดูว่ามีคำถามใดเพิ่มเติม ซึ่งต้องมีการสอบถามกัน ถ้าเป็นสาระสำคัญจริง ๆ ก็ต้องรับฟังกัน และคิดให้รอบคอบ

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยอยากตั้งรัฐบาลแบบสลายขั้วและให้พรรคก้าวไกลโหวตเลือกแคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย นายพิธา ระบุว่า รอฟังในสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอและตั้งใจฟัง ถ้าฟังแล้วยังมีคำถามก็จะถามกลับไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยต่อไป 

สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ฟังมากกว่า ลองดูสถานการณ์ว่า จะทำอะไรให้คลี่คลายได้บ้าง ต้องรับฟังความคิดเห็น เพราะมีปัจจัยต้องคิดให้รอบคอบ ยึดหลักการเป็นสำคัญและยึดในคำสัญญาที่หาเสียงไว้ ซึ่งจะอธิบายได้ว่ามีหลักประกอบการพิจารณาอย่างไร

นายพิธา ยังกล่าวว่า รวมทั้งรับฟังประชาชนด้วยยอมรับว่า ไม่ใช่เพียงเฉพาะความเห็นจากสื่อสังคมออนไลน์เท่านั้นที่ไม่ให้พรรคก้าวไกลโหวตให้แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทย และจากการลงพื้นที่ซึ่งตนได้ย้ำไปเเล้วว่า อย่าฟังเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ด้วยความเป็นผู้แทนราษฎร ซึ่งผู้ที่มีอำนาจจริง ๆ คือ ราษฎร

รวมถึงได้ให้ สส.ลงไปถามคนในพื้นที่ด้วยว่า มีความคิดเห็นเป็นอย่างไร เพราะสิ่งใด ถ้าตัดสินใจเองก็ยาก และคนเป็นเจ้าของเสียงพูดว่าอย่างไร อาจเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบที่มีน้ำหนักในการตัดสินใจ

ขณะนี้ไม่ได้อยู่ในกระบวนการตัดสินใจแต่อยู่ในกระบวนการรับฟัง ด้วยความรอบคอบ วินิจฉัย และเอามาพิจารณา ซึ่งพรรคยังไม่มีกำหนดการจะหารือ และยังไม่ถึงเวลาคิดว่าจะให้ฟรีโหวต

เมื่อถามว่า ถ้าไม่มีการโหวตให้ อาจจะมีผลกระทบต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและหากโหวตจะมองว่าพรรคก้าวไกลถอยถึงที่สุดแล้ว นายพิธา กล่าวว่า เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่จะต้องรับฟังและพิจารณาเพราะ 4 ปีที่ผ่านมามีความพยายามที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และมีการโหวตไว้ซึ่งมีบางคนที่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเราเอาองค์ประกอบของคนที่ขัดขวางรัฐธรรมนูญแต่จะมาแก้รัฐธรรมนูญในขณะนี้ก็ยังมีความขัดแย้งพอสมควร ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะต้องมีการซักถาม และพูดคุยกัน เพื่อหาความชัดเจน

พร้อมย้ำอีกครั้งว่า ขณะนี้น้ำหนักการพิจารณาโหวตนายกฯนั้นเป็นเรื่องของการรับฟังอย่างรอบคอบ ถ้าข้อมูลยังไม่ครบก็ต้องถาม ซึ่งตอนคิดว่า ก่อนตัดสินใจยังมีเวลา ไม่ได้รีบถึงขนาดนั้น

ส่วนกรณีคดีถือหุ้น itv ขณะนี้นายพิธา กล่าวว่า ทั้งศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ยังไม่มีการติดต่อมา ทำให้ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจง หรือทำเป็นหนังสือ ซึ่งยังรอชี้เเจงอยู่

ส่วนกรณีคดี แก้ไข ม.112 ที่เป็นการล้มล้างการปกครองและศาลรับเรื่องดังกล่าว ไว้แล้วนั้น นายพิธา ระบุ ได้มีการขยายเวลาเพื่อไปชี้แจง โดยให้ฝ่ายกฎหมายของพรรครับผิดชอบและได้ให้นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูแลรับผิดชอบเรื่องนี้

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยทำให้ถูกยุบพรรค นายพิธา ระบุว่า ขอรอให้มีการไปชี้แจง และหลักฐานจริง ๆ ยังไม่ขอพูด ขอให้ฝ่ายกฎหมายไปดำเนินการ ไปศึกษาอย่างชัดเจน

ขณะนี้ได้เห็นคำอ้างจากฝ่ายที่กล่าวหาว่า มีน้ำหนักมากน้อยแค่ไหน ซึ่งตนคิดว่าสามารถที่จะคัดค้านได้ทุกเรื่อง

ทั้งนี้ นายพิธา ยืนยันว่า ไม่ได้ฝ่าฝืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แต่ได้เข้ามาในสภาฯ เพราะวันนี้ในช่วงเช้าตนเองได้นำบัตรประชาชนไปแลก ไม่ได้ใช้สิทธิ สส. ซึ่งวันนี้มารับประทานข้าวตามปกติ เพื่อให้ สส.พรรคก้าวไกล อุ่นใจว่าหัวหน้าไม่ได้ทิ้ง ยังฟังคำอภิปรายของพวกเขาอยู่ และเป็นกำลังใจในการทำงานให้กับพวกเขา พร้อมกับโชว์บัตรให้ผู้สื่อข่าวเพื่อยืนยัน

อยากจะส่ง Soft Power ไปให้พวกเขา ว่าหัวหน้ากำลังติดตามอยู่ ชื่นชมในการอภิปรายครั้งแรก แล้วยังหวังว่าจะได้รีบกลับมาในสภาโดยเร็ว เพราะมีหลายเรื่องที่พรรคเตรียมไว้

นายพิธา ยอมรับว่าวันนี้กำลังใจยังดี มีเยอะพอที่จะมาแบ่งคนอื่น เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วพรรคก้าวไกลได้เป็นฝ่ายค้าน การตรวจสอบจะเข้มข้นอย่างไร นายพิธาระบุว่า “แน่นอนหน้าที่ใครหน้าที่มัน แต่อยากจะบอกว่าถ้าเป็นฝ่ายบริหาร จะทำงานได้เข้มข้นกว่า ต้องการที่จะเป็นฝ่ายบริหารที่ทำงานด้วยข้อมูลและรวดเร็ว ให้ได้ผลลัพธ์มากที่สุด และเปลืองภาษีประชาชนให้ได้น้อยที่สุด ใช้งบประมาณไม่ตรงกับความท้าทายของยุคสมัย

ฉะนั้นใครที่เคยประทับใจการทำงานเมื่อครั้งที่เป็นฝ่ายค้าน ซึ่งขณะนี้ก็ต้องทำตามมารยาททางการเมืองให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลไปก่อน สักวันหนึ่งหากเปลี่ยนใจ อยากให้คนรุ่นใหม่ ได้ลองทำงานลองดูซิ ว่าจะเป็นอย่างไร ตนก็พร้อมที่จะทำงานอย่างเต็มที่ เพราะคิดมาอย่างถี่ถ้วนพอสมควร ได้ศึกษาวิธีการแก้ไขปัญหาของแต่ละประเทศมา อยากจะทำงานให้เห็นว่าประเทศไทยไปไกลได้มากกว่านี้ ฉะนั้นหากประทับใจ ความเข้มข้นของฝ่ายค้าน ถ้าเป็นรัฐบาลเข้มข้นกว่าแน่นอน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

“เพื่อไทย” เดินหน้าคุยทุกฝ่าย หาเสียงเพิ่ม มั่นใจโหวตนายกฯ ม้วนเดียวจบ 

เพื่อไทย จับมือ 6 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล  

เป็นธรรม ย้ำจุดยืนไม่โหวตนายกฯเพื่อไทย หากมีพรรค 2 ลุง 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่