วันนี้ (23 ส.ค.2566) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึง กรณีที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวนายทักษิณ ชินวัตร มาที่โรงพยาบาลตำรวจอย่างเร่งด่วน ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ว่า ได้รับการประสานงานจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยระบุอาการของนายทักษิณ แน่นหน้าอกกระทันหัน ค่าออกซิเจนต่ำและค่าความดันโลหิตสูงมาก ทีมแพทย์ราชทัณฑ์พยายามรักษาระดับความดันแล้วแต่ทำได้ไม่มากจึงลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจ
ส่วนแผนการรักษาได้ตั้งคณะแพทย์รักษา ประกอบด้วยแพทย์เชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และ โควิด 19 ขณะนี้แพทย์ให้น้ำเกลือและยังต้องสอดสายออกซิเจนช่วยหายใจ ขณะที่ความดันยังอยู่ในระดับสูง มีอาการเหนื่อยหอบ แต่ยังพอสื่อสารได้ ซึ่งแพทย์ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดและสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี และหากญาติต้องการย้ายตัวไปรักษาต่อในโรงพยาบาลเอกชน
แพทย์ใหญ่สำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์ พร้อมระบุว่า ตลอดการรักษานายทักษิณไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการ เนื่องจากตามกฎหมายกำหนดไว้ว่า ผู้ป่วยต้องโทษที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปีหรือมีอายุมากกว่า 70 ปี ขึ้นไป ไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยาก
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวถึงการวางแผนการรักษาอีกว่า ทีมแพทย์อยู่ในขั้นตอนนำประวัติการรักษาของนายทักษิณ ที่ต่างประเทศมาศึกษา เพื่อวางแนวทางการรักษาให้มีความต่อเนื่อง ส่วนจะต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจนานแค่ไหน ยังบอกไม่ได้ เพราะต้องประเมินอาการตามลำดับ
การรักษาผู้ป่วยสูงอายุไม่มีการเลือกปฏิบัติ ตามที่สังคมตั้งข้อสังเกต เพราะก่อนหน้านี้ราชทัณฑ์ ได้ส่งผู้ป่วยอายุมาก มารักษาที่นี่เช่นกัน
ส่วนประเด็นส่งตัวไปที่ชั้น 14 อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา หรือ อาคาร มภร.
เดิมชั้นที่ 14 ใช้เป็นพื้นที่กักตัวผู้ป่วยโควิด 19 มาก่อน ปัจจุบันเป็นพักผู้ป่วย แต่เครื่องปรับอากาศใช้งานไม่ได้ มีเพียงพัดลมระบายอากาศ และห้องพักของนายทักษิณ ไม่ได้อยู่ฝั่งที่มองเห็นทัศนียภาพ ราชกรีฑาสโมสร เนื่องจากฝั่งดังกล่าวติดกระจก อากาศร้อน
พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ชี้แจงสาเหตุการส่งตัวออกมารักษาที่สถานพยาบาลนอกราชทัณฑ์ ด้วยว่า ทีมแพทย์ราชทัณฑ์มีความสามารถ แต่ด้วยอาการป่วยของนายทักษิณ ต้องการแพทย์เฉพาะทางดูแล ประกอบกับเครื่องมือในโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีจำกัด จึงต้องตัดสินใจส่งต่อสถานพยาบาลที่อยู่ในบันทึกข้อตกลง ซึ่งโรงพยาบาลกับราชทัณฑ์ ทำข้อตกลงร่วมกันมานานกว่า 30 ปีแล้ว
ขณะที่งานดูแลความปลอดภัยในระหว่างการรักษา มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ดูแล 3 นาย ส่วนพื้นที่ชั้นในของโรงพยาบาล มีตำรวจนครบาลปทุมวัน เป็นเจ้าของพื้นที่และเข้าดูแลความปลอดภัยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดคู่มือ! “ผู้ต้องขังป่วย” ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ
จับกระแสการเมือง : วันที่ 23 ส.ค. ยังไม่จบครับนาย “ทักษิณ Ep.2” กำลังเริ่มต้น
รพ.ตำรวจ แจงส่งตัวฉุกเฉิน “ทักษิณ” เหตุขาดผู้เชี่ยวชาญ-อุปกรณ์
