‘มนพร เจริญศรี’ โต้ข่าวบิดเบือนปมคิดโค่นคู่แข่งจนได้โบนัสนั่ง รมต. ยืนยันเป็นผู้แทนตลาดล่างใช้ผลงานลงพื้นที่เป็นหลัก แจงได้ตำแหน่งว่าที่ รมช.คมนาคม เหตุ ‘เพื่อไทย’ เห็นความซื่อสัตย์ต่อประชาชน ขานรับนโยบายพรรคต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายดูแลพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ก้าวข้ามความขัดแย้ง
วันที่ 30 ส.ค. 2566 มนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องกรณีมีข่าวพาดพิงตนเองว่า หลังการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา กรณีสู้ศึกเลือกตั้งชนะคู่แข่งทางการเมือง ทำให้พรรคเพื่อไทยให้โบนัสด้วยการวางตำแหน่งทางการเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยนั้น ตนขอออกมายืนยันว่า ในเส้นทางการเมือง ตลอดกว่า 30 ปี ที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่เข้ามาทำงานการเมือง จากตำแหน่ง สมาชิกสภา อบจ.นครพนม ตั้งแต่ปี 2537 ก้าวมาสู่ตำแหน่ง รองนายก อบจ.นครพนม และ นายก อบจ.นครพนม และขึ้นสู่ สส. เมื่อปี 2554 ชนะการเลือกตั้งมาถึง 3 สมัย สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความซื่อสัตย์ต่อพี่น้องประชาชน ในการทำงานดูแลขับเคลื่อนโยบาย ที่จะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ทุกครั้งในการแข่งขันบนสนามการเมือง ไม่เคยคิดช่วงชิงอำนาจทางการเมือง เพื่อหวังโค่นคู่แข่งแล้วได้อำนาจทางการเมือง ทุกอย่างวัดกันที่การยอมรับของประชาชนเป็นหลัก หัวใจสำคัญคือ ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน จะต้องได้รับการแก้ไข เมื่อการแข่งขันทางการเมืองจบ ทุกอย่างจะต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะพรรคไหน ฝ่ายไหนจะต้องร่วมกันพัฒนาโดยก้าวความขัดแย้ง
มนพร กล่าวอีกว่า สำหรับกระแสข่าวที่ออกมาว่า ตนได้รับโบนัสจากพรรคเพื่อไทย เพราะมีการโค่นอำนาจคู่แข่งไม่เป็นความจริง อยากให้ย้อนกลับไปดูผลงานที่ผ่านมา การทำหน้าที่ผู้แทนตลาดล่าง ตนไม่เคยขาดการลงพื้นที่ ไม่ว่าจะการบุญ งานบวช การแต่ง งานศพ ไม่เคยมองข้าม เพราะจะเป็นโอกาสดี ที่จะเข้าไปใกล้ชิดรับทราบปัญหาจากชาวบ้านในพื้นที่ต่างๆ
มนพร กล่าวว่า สำหรับกรณีตนมีชื่อ เป็นว่าที่ รมช.คมนาคม ยันยันไม่ใช่การให้รางวัลหรือโบนัส หลังชนะการเลือกตั้งโค่นคู่แข่ง ข่าวที่ออกมาลักษณะนี้เป็นการบิดเบือน ทำให้เกิดความขัดแย้ง ฝากทุกฝ่ายรวมถึงสื่อมวลชนบางสำนัก เมื่อการเมืองจบเราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง อย่านำประเด็นความขัดแย้ง มาสร้างปัญหาทางการเมือง สำคัญที่สุดหลังการเลือกตั้ง ตนมองว่า พรรคเพื่อไทย จะต้องเป็นรัฐบาล บางจุดอาจจะไม่สมหวังทุกย่าง แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง สิ่งไหนที่จะให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้า จะต้องร่วมกันผลักดันหัวใจสำคัญคือ นโยบายของพรรคเพื่อไทยจะต้องเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และผู้แทน ทุกคนจะต้องทำหน้าที่ทางการเมืองให้ที่สุด และยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง
มนพร กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ตนมีรายชื่อเป็นว่า ที่ รมช.คมนาคม นั้น ไม่ใช่รางวัลสำหรับตนเอง แต่คือ สิ่งที่ตนจะต้องพิสูจน์ให้พี่น้องประชาชน เห็นว่า การทำงานกว่าจะมาถึงวันนี้ สิ่งสำคัญที่สุดประชาชน จะต้องได้รับการดูแลทั่วถึง ประเทศชาติจะต้องขับเคลื่อนการพัฒนา และเชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว ได้อย่างแน่นอน เพราะทุกครั้งที่เป็นรัฐบาล ไม่เคยทำให้ประชาชนผิดหวัง และเป็นที่ยอมรับของประชาชนมาตลอด ไม่เคยทิ้งประชาชน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง