ภารกิจเดินทางไปต่างประเทศของ นายกฯนิด “เศรษฐา ทวีสิน” ในการเป็นตัวแทนประเทศ ร่วมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 78 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.2566 เป้าหมายเพื่อเดินหน้าความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำ
การบินไปสหรัฐฯครั้งนี้ก็มีการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมจากนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมาธิการงบประมาณ ปี 2566 และอดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ที่ใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท รวมถึงตั้งคำถามถึงบุคคลที่ร่วมคณะเดินทางไปในเที่ยวบินนี้
ทั้งกรณีของนายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ อดีตรองเลขาธิการ พรรคไทยรักษาชาติ ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี ซึ่ง “คณาพจน์” เป็นรุ่นพี่ของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย
อีกชื่อคือ “นุ้บ” น.ส.ชนัญดา ทวีสิน นักธุรกิจ ลูกสาวของ “นายกฯนิด” ที่มีชื่อร่วมคณะในการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจดังกล่าวด้วย ซึ่ง “น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการ นายกฯ ก็ชี้แจงว่า บุตรสาวของนายกฯ ใช้เงินส่วนตัวชำระค่าบริการทุกอย่างเอง ไม่ได้ใช้เงินของส่วนราชการแม้แต่บาทเดียว และ “น.ส.ชนัญดา” เดินทางไปเพื่อดูแลคุณแม่ พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน สตรีหมายเลข 1 ของไทย ที่ได้รับการเชิญ ให้ไปดูงานการจัดการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และความเป็นอยู่ของชุมชนไทย
หรือเรียกง่าย ๆ ตามคำอธิบายของ เลขาธิการ นายกฯ ก็คือ “มาดูแลคุณแม่ แล้วก็มาช่วยภารกิจของคุณแม่” นั่นเอง
แต่อีกประเด็น ที่ร้อนไม่แพ้กัน เมื่อ “นายกฯนิด” จ้อกับสื่อนอกอย่าง “บลูมเบิร์ก” ที่นครนิวยอร์ก ในประเด็นว่า นายทักษิณ ชินวัตร จะมีบทบาทในรัฐบาลนี้เมื่อเขาได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ ซึ่งเชื่อว่า นายทักษิณมีคุณค่าที่จะเพิ่มให้กับรัฐบาลนี้และประชาชนชาวไทย
“แน่นอนว่าด้วยเหตุผลที่ดีถ้าเขาพ้นโทษแล้ว เป็นเรื่องไม่ฉลาดสำหรับผม ถ้าผมไม่ไปขอคำปรึกษาจากเขา รวมถึงขอคำปรึกษาจากอดีตนายกรัฐมนตรีท่านอื่น”
สอดคล้องกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.พาณิชย์ ที่สนับสนุนแนวคิด การดึงตัวนายทักษิณ อดีตนายกฯ มาเป็นที่ปรึกษา หลังพ้นโทษ เชื่อว่า นายทักษิณมีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ และให้คำแนะนำ ซึ่งเป็นบทบาทที่สามารถทำได้ และยังระบุว่า นายทักษิณ พูดเสมอว่า ถ้ายินดี จากประสบการณ์บริการราชการแผ่นดิน 16 ปี ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องดูกฎหมายว่าติดขัดหรือสามารถทำได้หรือไม่ เพราะท่านก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีความห่วงใยบ้านเมือง
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ก็มองว่า เรื่องนี้ เป็นความรู้สึกของนายกฯ ในส่วนของตนยังไม่มีความเห็น และมองว่า ใครก็ตามในประเทศนี้ที่เป็นคนที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ก็ควรที่จะให้โอกาส เพื่อมารับใช้สังคม ไม่เจาะจงคนใดคนหนึ่ง ไม่เฉพาะนายทักษิณ เท่านั้น
แต่ไม่ทันไร ก็มีการออกมาเบรกทันที โดย “สมชาย แสวงการ” กับการดึงนายทักษิณเป็นที่ปรึกษานั้นส่วนตัว โดยมองว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะมีอดีตนายกฯ หลายคน ที่ควรพบและสามารถขอคำปรึกษาได้ ทั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายชวน หลีกภัย, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ,นายอานันท์ ปันยารชุน แม้กระทั่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ขณะนี้ ควรให้นายทักษิณอยู่นอกตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ในรัฐบาลนี้และควรขอคำปรึกษาอย่างไม่เป็นทางการจะดีกว่า
จากนี้จึงต้องจับตาดูต่อไป หลังนายทักษิณ ถูกตัดสินจำคุก 3 คดี รวม 10 ปี และได้รับพระราชทานลดโทษเหลือ 1 ปี เมื่อพ้นโทษแล้ว จะมาเป็นที่ปรึกษารัฐบาล “เศรษฐา” จริงหรือไม่