วันนี้ (3 ต.ค.2566) นายอัครเดช วงพิทักษ์โรจน์ สส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในฐานะวิปรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาล ได้พิจารณาถึงจำนวนประธานคณะกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลที่มี สส.ลดลง 1 คน ที่ประชุมฯ เห็นว่าการคำนวนตามสัดส่วนพรรคก้าวไกลมี สส.ลดลง ทำให้จำนวนคณะกรรมาธิการจาก 11 เหลือ 10 คณะ
โดยพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะได้เพิ่มจาก 2 คณะเป็น 3 คณะ รวมถึงสัดส่วนของกรรมาธิการธรรมดา พรรคก้าวไกลจาก 159 คน เหลือ 158 คน เนื่องจากพรรคก้าวไกล ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลก ออกจากพรรค และไปเพิ่มให้กับพรรคประชาชาติ จาก 9 เป็น 10 คน
เมื่อถามว่าได้มีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกลบ้างหรือยัง นายอัครเดช กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีการพูดคุยกัน เพราะได้พูดคุยกันไปแล้ว หากพรรคก้าวไกลไม่ยินยอม ก็จะไปโหวตกันในที่ประชุมสภาฯ
ไม่อยากให้ถึงขั้นโหวตอยากให้ตกลงกันได้ด้วยดี ส่วนประธานกรรมาธิการ ก็จะไปโหวตในที่ประชุมกรรมาธิการของแต่ละคณะ ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 5 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ในที่ประชุมวิปรัฐบาล ยังได้มีการพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ข้อบังคับสภาฯ เนื่องจากทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขอเสนอเปลี่ยนชื่อ คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ เป็นคณะกรรมาธิการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างรายได้ และ คณะกรรมาธิการ การแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตเกษตรกรรม เป็นคณะกรรมาธิการจัดการน้ำ
ในส่วนของพรรคก้าวไกลที่เสนอขอเปลี่ยนชื่อจาก คณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิจัยและนวัตกรรม เป็นคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเพื่อสอดคล้องกับ กระทรวงอุดมศึกษา โดยคณะกรรมการที่จะต้องพิจารณาเปลี่ยนชื่อนั้นมีกรรมาธิการ 20 คนโดยมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน ซึ่งจะต้องพิจารณาแล้วเสร็จภายใน 7 วัน
นายอัครเดช กล่าวว่า สำหรับวาระการประชุมสภาฯ ในวันที่ 4 ต.ค.นี้ นอกจากจะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญทั้ง 35 คณะแล้ว สส.รัฐบาล จะยื่นญัตติด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแล้ว ส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รอลุ้น! 35 รายชื่อศึกษาประชามติแก้รัฐธรรมนูญพรุ่งนี้
“นฤมล” ลาออกเหรัญญิก-สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
รู้ผล 27 ต.ค. “แม่เหล็กเพื่อไทย” อุ๊งอิ๊งนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค