หน้าแรก Voice TV 'สุทิน​' เผย​ 'กองทัพบก' ขอหนุนงบ 66 เพิ่มหากไม่เพียงพอ​ – ย้ำ​ซื้อยุทโธปกรณ์​เท่าที่จำเป็น

'สุทิน​' เผย​ 'กองทัพบก' ขอหนุนงบ 66 เพิ่มหากไม่เพียงพอ​ – ย้ำ​ซื้อยุทโธปกรณ์​เท่าที่จำเป็น

80
0
'สุทิน​'-เผย​-'กองทัพบก'-ขอหนุนงบ-66-เพิ่มหากไม่เพียงพอ​-–-ย้ำ​ซื้อยุทโธปกรณ์​เท่าที่จำเป็น

‘สุทิน​’ เผย​ ‘กองทัพบก’ ขอหนุนงบ 66 เพิ่มหากไม่เพียงพอ​ – ย้ำ​ซื้อยุทโธปกรณ์​เท่าที่จำเป็น​ – ชี้​ไม่มีหารือรื้อระเบียบทรงผมเหมือนตำรวจ​ ชี้ภารกิจต่างกัน​ – ขอ​ ปชช. กองทัพ​ ไม่สร้างเงื่อนนำไปสู่เหตุการณ์​ในอดีต

วันที่ 12 ต.ค. สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังมอบนโยบายกองทัพบก ว่า​ วันนี้เป็นการมาตรวจเยี่ยมและรับฟังแผนการปฏิบัติการตามธรรมเนียมปฏิบัติ ทำให้เห็นถึงความเข้มแข็งของกองทัพ และที่สำคัญคือการสนองตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งบางส่วนมีการทำล่วงหน้าไปเยอะแล้ว และเชื่อว่าจะทำให้นโยบายของรัฐบาลนั้นราบรื่น ซึ่งวันนี้ก็ได้รับทราบปัญหาของกองทัพหลายอย่าง และพร้อมที่จะนำไปแก้ไขสนับสนุนให้กองทัพ เป็นกองทัพที่ทันสมัย และเป็นที่พึ่งของประชาชน

เมื่อถามถึงการสนองนโยบายของรัฐบาล ด้วยการจัดสรรที่ดินของกองทัพ เป็นที่ดินทำกินให้กับประชาชน สุทิน กล่าวว่า กองทัพได้พยายามไปจัดหาที่ดินทำกิน เพื่อตรวจสอบว่ามีพื้นที่ใดบ้างที่ไม่ถูกใช้งาน คัดออกมาจัดสรรให้กับประชาชน แต่พบว่า หลายพื้นที่เป็นที่ดินของกรมธนารักษ์ บางพื้นที่มีประชาชนอาศัยอยู่ บางพื้นที่ยังอยู่ในข้อพิพาทกับประชาชน จึงเป็นหน้าที่ของกองทัพต้องไปเคลียร์ปัญหา เมื่อคืนพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ อย่างพื้นที่หนองวัวซอ​ จังหวัดอุดรธานี​ ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ ถือเป็นพื้นที่ตัวอย่างกองทัพได้เข้าไปพูดคุยกับชาวบ้าน ชาวบ้านยินยอมที่จะเช่า ซึ่งถือว่าจบ เพราะเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกรมธนารักษ์ ซึ่งขณะนี้หลายค่ายทหารทั่วประเทศก็อยู่ในระหว่างการเจรจากับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่พิพาท เช่นเดียวกับในพื้นที่หนองวัวซอ​ โดยคาดการณ์ว่าในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี จะสามารถส่งมอบสัญญาเช่าให้กับประชาชนได้ ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ และจะกลายเป็นพื้นที่นำร่องให้กับทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ สุทิน​ เปิดเผยว่า ทางกองทัพขอความช่วยเหลือเรื่องการของบประมาณของกองทัพในปี 2566 เพราะเกรงว่าจะบริหารงบประมาณไม่ทัน​ จึงอยากให้รัฐบาลและรัฐมนตรีช่วยเหลือหางบประมาณมาเติมให้จนสามารถดำเนินงานต่อไปได้ ส่วนในปีงบประมาณถัดไป ก็จะเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง​เป็นผูับริหารจัดการ​ ซึ่งจะเป็นการพิจารณาตามเหตุและผล​ ตนจะทำหน้าที่ชี้แจงให้กับกองทัพ รวมถึงงบประมาณในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ โดยมุ่งเน้นซื้อเท่าที่จำเป็น ใช้ให้คุ้มค่า โปร่งใส​ และสามารถตรวจสอบได้

ส่วนงบประมาณการช่วยเหลือด้านการบรรเทาสาธารณภัย นายสุทินกล่าวว่า ในส่วนของกองทัพ ก็มีกองกิจการพลเรือน และกองบรรเทาสาธารณภัย​ ก็สามารถใช้งบประมาณในส่วนดังกล่าวได้ หากไม่พอ ก็สามารถขอเพิ่มเติมจากรัฐบาลได้ เพราะงบกลางของรัฐบาลก็ตั้งมาเพื่อการนี้

เมื่อถามว่า ในวันนี้มีการสะท้อนปัญหาเรื่องแผนพัฒนาศักยภาพกำลังพลของกองทัพบกในเรื่องของการจัดซื้อ​อาวุธยุทโธปกรณ์อย่างรถถังหรือเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งเป็นการจัดซื้อ ที่ต่อเนื่องในทุกๆปี อาจจะสะดุดลงที่ปี 2567​ สุทิน​ กล่าวว่า​ ไม่มีการพูดคุยถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ เป็นเพียงการดูภาพรวมเท่านั้น และตนก็ได้มอบหมายนโยบายให้กองทัพบก โดยมุ่งเน้นเรื่องกำลังพล เพราะเป็นหน่วยใหญ่หน่วยหลักที่ใช้กำลังพลจำนวนมาก​ ดังนั้นการคัดเลือกทหารด้วยวิธีสมัครใจกองทัพบกจึงเป็นกำลังหลัก ที่จะนำเหล่าทัพอื่นไปในทิศทางเดียวกัน

ส่วนที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์​ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายผ่อนปรนส่งผลจะมีการนำมาปรับใช้สำหรับกองทัพหรือไม่นั้น สุทิน​ กล่าวว่า ไม่มีการหารือถึงเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวเห็นว่าไม่จำเป็นต้องดำเนินการเหมือนกันทุกเรื่อง เพราะรูปแบบการทำงานก็แตกต่างกัน

เมื่อถามว่า พอใจหรือไม่กับการที่กองทัพปรับลดบทบาททางการเมืองลง สุทิน กล่าวว่า ไม่ใช่ตนพอใจ แต่เท่าที่สัมผัส ประชาชนพอใจ เพราะตอนนี้นโยบายสำคัญคือต้องทำให้ทันสมัย สู้กับภัยคุกคามรูปแบบใหม่ บางภารกิจที่ประชาชนตำหนิ กองทัพรู้ดีอยู่แล้ว และไม่อยากทำ จึงอยากฝากให้ท่านอดกลั้น  เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีการสร้างเงื่อนไข นำไปสู่ปัญหาเหมือนในอดีตใช่หรือไม่ สุทิน​ กล่าวว่า ฝ่ายประชาชน​ และฝ่ายพวกเราก็ต้องทำแบบนั้น​ ปรบมือข้างเดียวไม่ดัง ต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า เป็นการอดกลั้นทั้งสองฝ่ายใช่หรือไม่ สุทิน​ กล่าวว่า​ เป็นการร่วมมือกันไม่ให้ภารกิจไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น โดยในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวกล่าวแซว สุทิน ว่า วันนี้ทางกองทัพบกได้มอบปีกอะไรให้บ้าง สุทิน​ จึงกล่าวว่า วันนี้กองทัพบกได้มอบเข็มเกียรติยศให้ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า นั่งรถม้าแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง สุทินจึงตอบอย่างอารมณ์ดีว่า รู้สึกตื่นเต้น ตอนเด็กๆเคยนั่งที่บ้าน แต่ไม่ใช่รถม้าเกียรติยศ ผู้สื่อข่าวจึงถามต่ออีกว่า รู้สึกประทับใจ กับการต้อนรับของกองทัพบกหรือไม่ สุทิน ยอมรับว่าประทับใจ ที่ได้รับเกียรติ จึงรู้สึกพอใจ 

ผู้สื่อข่าวจึงแซวต่อว่า กองทัพอากาศจะนำเครื่องบินมารับท่าน​ จนทำให้ สุทิน ถึงกับหัวเราะ ก่อนจะเดินทางกลับเพื่อเข้าร่วมการประชุมกับนายกรัฐมนตรีที่กระทรวงการต่างประเทศเพื่อติดตามการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่