หน้าแรก Voice TV 'นลินี ทวีสิน' เผยฮ่องกงสนใจตั้งฐานการผลิต-ขนส่งสินค้าในไทย

'นลินี ทวีสิน' เผยฮ่องกงสนใจตั้งฐานการผลิต-ขนส่งสินค้าในไทย

97
0
'นลินี-ทวีสิน'-เผยฮ่องกงสนใจตั้งฐานการผลิต-ขนส่งสินค้าในไทย

‘นลินี ทวีสิน’ เผยฮ่องกงสนใจตั้งฐานการผลิต-ขนส่งสินค้าในไทย เล็งเชิญนายกฯ ร่วมประชุม AFF 2023

นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ไทยและฮ่องกงเป็นพันธมิตรทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญ และต่างยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกันและกันอีกด้วย โดยล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้พบหารือกับนายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนได้มีโอกาสพบกับนายโรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง และคณะ ที่กรุงเทพฯ

เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้า เพราะหน่วยงานนี้เป็นองค์การกึ่งภาครัฐของฮ่องกงและมีกองทุนเป็นของตนเองทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัว มีสำนักงานกว่า 50 สาขาทั่วโลก และหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ฮ่องกงสนใจจะขยายตลาดมายังภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย โดยมี 30 บริษัทต้องการพื้นที่ลงทุนตั้งฐานการผลิตและการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าในไทย ซึ่งการร่วมมือกับองค์การนี้จะช่วยให้นักธุรกิจไทยโดยเฉพาะ SMEs และสตาร์ทอัพ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าและพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ เพราะเขามีความเชี่ยวชาญด้านการโปรโมทสินค้าทางอีคอมเมิร์ซ การสัมมนาผ่านเว็บ การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง งานแสดงสินค้า การจับคู่ทางธุรกิจออนไลน์ และจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมด้วย

นอกจากนี้ ตนยังได้พบกับนายเควิน หยาง ประธานสมาคมนักออกแบบแฟชั่นฮ่องกง โดยได้พูดคุยถึงแนวทางการส่งเสริมผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมได้ให้ความร่วมมือกับโครงการ Thai Silk Road to the World ของสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่อง นายเควินฯ ได้เสนอให้ประเทศไทยนำเสนอเรื่องราว (Story) ของผ้าไหมไทยให้ชาวโลกได้รู้จักผ่านวิธีการต่าง ๆ เพราะผ้าไหมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายไม่ใช่เพียงการตัดเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังนำไปเป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน หรือของใช้ได้ โดยอาจจัดเป็นนิทรรศการควบคู่กับการแสดงชุดผ้าไหมไทยในโอกาสต่าง ๆ ขณะเดียวกันควรสร้างสรรค์งานผ้าไหมให้วัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่เข้าถึงสัมผัสได้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เหมือนกับเสื้อผ้ายีนส์หรือผ้าชนิดอื่น สร้างภาพลักษณ์ใหม่ และลดความเป็นทางการลง

“ฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่น ๆของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ โดยในปี 2565 ไทยและฮ่องกงมีมูลค่าการค้ารวม 11,897.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย คือคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องระดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งการหารือครั้งนี้นายโรนัลด์ โฮ ยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไปร่วมการประชุม Asian Financial Forum (AFF 2023) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ม.ค. 2567 ที่ฮ่องกงอีกด้วย” นลินี กล่าว

นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ไทยและฮ่องกงเป็นพันธมิตรทางการค้าและการลงทุนที่สำคัญ และต่างยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกันและกันอีกด้วย โดยล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้พบหารือกับนายจอห์น ลี คา-ชิว ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เมื่อต้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนได้มีโอกาสพบกับนายโรนัลด์ โฮ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง และคณะ ที่กรุงเทพฯ

เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเชื่อมความสัมพันธ์ทางการค้า เพราะหน่วยงานนี้เป็นองค์การกึ่งภาครัฐของฮ่องกงและมีกองทุนเป็นของตนเองทำให้การบริหารงานมีความคล่องตัว มีสำนักงานกว่า 50 สาขาทั่วโลก และหลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ฮ่องกงสนใจจะขยายตลาดมายังภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทย โดยมี 30 บริษัทต้องการพื้นที่ลงทุนตั้งฐานการผลิตและการพัฒนาระบบขนส่งสินค้าในไทย ซึ่งการร่วมมือกับองค์การนี้จะช่วยให้นักธุรกิจไทยโดยเฉพาะ SMEs และสตาร์ทอัพ มีช่องทางจำหน่ายสินค้าและพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ เพราะเขามีความเชี่ยวชาญด้านการโปรโมทสินค้าทางอีคอมเมิร์ซ การสัมมนาผ่านเว็บ การจัดงานแสดงสินค้าเสมือนจริง งานแสดงสินค้า การจับคู่ทางธุรกิจออนไลน์ และจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมด้วย

นอกจากนี้ ตนยังได้พบกับนายเควิน หยาง ประธานสมาคมนักออกแบบแฟชั่นฮ่องกง โดยได้พูดคุยถึงแนวทางการส่งเสริมผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลก ซึ่งที่ผ่านมาทางสมาคมได้ให้ความร่วมมือกับโครงการ Thai Silk Road to the World ของสมาคมส่งเสริมผ้าไหมและวัฒนธรรมไทยอย่างต่อเนื่อง นายเควินฯ ได้เสนอให้ประเทศไทยนำเสนอเรื่องราว (Story) ของผ้าไหมไทยให้ชาวโลกได้รู้จักผ่านวิธีการต่าง ๆ เพราะผ้าไหมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายไม่ใช่เพียงการตัดเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังนำไปเป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน หรือของใช้ได้ โดยอาจจัดเป็นนิทรรศการควบคู่กับการแสดงชุดผ้าไหมไทยในโอกาสต่าง ๆ ขณะเดียวกันควรสร้างสรรค์งานผ้าไหมให้วัยรุ่นหรือคนรุ่นใหม่เข้าถึงสัมผัสได้ และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน เหมือนกับเสื้อผ้ายีนส์หรือผ้าชนิดอื่น สร้างภาพลักษณ์ใหม่ และลดความเป็นทางการลง

“ฮ่องกงเป็นสะพานเชื่อมระหว่างประเทศจีนและส่วนอื่น ๆของโลก โดยมีบทบาทในฐานะแพลตฟอร์มสำหรับเงินทุน สินค้า ข้อมูล และผู้คน เป็นศูนย์กลางทางการเงินระดับนานาชาติ โดยในปี 2565 ไทยและฮ่องกงมีมูลค่าการค้ารวม 11,897.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย คือคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องระดับ แผงวงจรไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งการหารือครั้งนี้นายโรนัลด์ โฮ ยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ไปร่วมการประชุม Asian Financial Forum (AFF 2023) ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือน ม.ค. 2567 ที่ฮ่องกงอีกด้วย” นลินี กล่าว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่