โฆษกรวมไทยสร้างชาติ ซัด ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ถ้าไม่ตาบอดก็ใจบอดมีอคติว่า ‘พีระพันธุ์’ แก้ปัญหาพลังงานแบบไฟไหม้ฟาง อัดยับไม่ชมก็อย่ามาด่าทั้งที่ชาวบ้านชมกันทั้งเมืองถึงมาตรการลดราคาน้ำมัน
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาประเมินการทำงานของรัฐมนตรี 3 คนของพรรครวมไทยสร้างชาติมีผลงาน เราไม่ปฏิเสธ แต่การมาบอกว่า การแก้ไขราคาน้ำมันของนายพีระพันธุ์ สาลีรีฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงงาน เป็นเหมือนไฟไหม้ฟาง ถือเป็นคำประเมินของคนที่ไม่รู้จริงมีอคติ ไม่รู้ว่า กระทรวงพลังงานทำอะไรไปบ้าง ถ้าไม่ตาบอดก็ใจบอด
ทั้งนี้ การแก้ปัญหาพลังงานของประเทศนายพีระพันธุ์ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า แบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือระยะสั้น เร่งด่วนเป็นการแก้ปัญหาด้านค่าครองชีพให้กับประชาชนก่อน โดยใช้กลไกที่มีอยู่คือ กองทุนพลังงาน และภาษีสรรพสามิต ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาว คือ การแก้กฎหมาย และปรับโครงสร้างราคาน้ำมันราคาพลังงานให้เป็นธรรมซึ่งต้องใช้ระยะเวลา นายชัยชนะเป็นสส.รู้ว่าการแก้ไขกฎหมายมีขั้นตอนในสภาฯ ไม่ใช่ใช้เวลาแค่ 1-2 เดือนจะแก้กฎหมายได้
“ชัยชนะเป็น สส.น่าจะรู้ขั้นตอนของการแก้ไขกฎหมายว่ามีระยะเวลาและขั้นตอนอีกมาก การออกมาพูดแบบนี้แสดงว่าไม่รู้จริง ถ้าไม่ตาบอด ก็ใจบอด หรือมีอคติทางการเมือง ตาบอดคือไม่รับรู้ข่าวสารใจบอดคือ รู้ว่านายพีระพันธุ์ทำงาน แต่มีใจอคติ ถ้าไม่ชมไม่เป็นไรในฐานะทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่ขอร้องอย่ามาด่าในสิ่งที่ฝืนกับความรู้สึกของประชาชนที่เขาชมกันทั้งเมือง แต่นายชัยชนะด่าอยู่คนเดียวอย่างมีอคติ”โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว
อัครเดช กล่าวด้วยว่า อยากให้ชัยชนะกลับไปดูการพูดของนายพีระพันธุ์ว่า กระทรวงพลังงานทำอะไรไปแล้วบ้าง ชาวบ้านชื่นชมแบบไหน อย่าเอาความรู้สึกของตนเองมาชี้วัดผลงานของคนอื่น อยากให้เอาความจริงมาชี้วัด การประเมินผลงานถ้าประเมินด้วยความจริงใจก็จะรู้ข้อเท็จจริง ตนไม่ต้องการให้ชัยชนะมาชม เพราะเป็นฝ่ายค้านแต่ไม่ใช่มาด่ากันเช่นนี้ การบอกว่า แก้ปัญหาราคาน้ำมันแบบไฟไหม้ฟางไม่ถูกต้อง