เรียกได้ว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ต มาตามนัด ตามที่นายกฯเศรษฐา ทวีสิน นัดแถลงความชัดเจน บอกให้รอฟังจากปากของตนเองเพียงคนเดียวในวันที่ 10 พ.ย.ทั้งกรองกลุ่มเป้าหมาย
มาตามนัด นี่คือนายกฯ แถลง แต่ที่ยังไม่มาตามนัด คือ เงินหมื่นที่จะเข้ากระเป๋าประชาชน ตอนนี้ขยับเลื่อนคาดเดือนพฤษภาคมปี 67 อีกแล้ว ว่ากันตามจริง โครงการดิจิทัลวอลเล็ต หรือแจกเงินหมื่น เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย ที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง และตอนนี้ถูกจับตาว่าที่สุดแล้วจะเป็น ”เรือรบหรือเรือล่ม”
อ่านข่าว “ดิจิทัลวอลเล็ต” แจก 50 ล้านคน รายได้ไม่เกิน 7 หมื่นฝาก 5 แสน
ทำไมถึงพูดแบบนี้ นั่นเพราะจะเดินหน้าเต็มตัวอายุ 16 ปีได้ทุกคน ก็โดนท้วงติง พอขยับกลุ่มเป้าหมายก็โดนตำหนิว่าไม่ตรงปก และข้อหาสำคัญเป็นคำถามตัวโต ๆ ที่ต้องตอบคือ “กู้มาแจก” อย่าลืมว่าเงินกู้โครงการนี้ 6 แสนล้านบาท แบ่งเป็นแจกเงินหมื่น 5 แสนล้าน กลุ่มเป้าหมาย 50 ล้านคน อีก แสนล้านเป็นโครงการถูกใช้เป็นกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ เงินกู้จำนวนนี้คาดว่า จะเป็นภาระผูกพันไปไม่ต่ำกว่า 10 – 15 ปี แล้ว ใครจะต้องผ่อนชำระหนี้ทั้งต้นทั้งดอก
สรุปแล้วโครงการนี้ รัฐบาลเพื่อไทยได้หรือเสีย ? มอง 2 ประเด็น แยกเป็นที่มาของเงิน ใช้วิธีการเงินนอกเมื่อเป็นกฎหมายการเงิน เอาแค่กฎหมายตัวเดียวมาจับ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 มาตรา 53 ที่นายกฯบอก สบม.ผ่านฉลุย แต่ถ้าถอดเนื้อในดูจริง ๆ ถูกต้องข้อสังเกตการกู้เงินของรัฐบาล ที่ตรากฎหมายขึ้นมาเฉพาะต้องมีความจําเป็นเร่งด่วน และแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ
อ่านข่าว เช็กเลย! กระชากเศรษฐกิจด้วยเงินหมื่น Digital ยังไงบ้าง
ไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจําปีได้ทัน ซึ่งทั้ง 3 เงื่อนไขนี้อาจไม่ตรงจุด ทั้งความจำเป็นเร่งด่วนการเสนอเป็น พ.ร.บ.ต้องใช้เวลากว่า 3 เดือน ใน 3 วาระ ของ สส. และอีก 2 เดือนผ่าน สว.ซึ่งไม่นับรวมถูกยื่นตีความ ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าทอดเวลาถึง พ.ค.67 ถามว่าเร่งด่วนมั้ย ตรงนี้อาจเป็นปัญหา หรือแม้แต่ ใช้ในการแก้วิกฤติถามว่าตอนนี้
ภาพวิกฤติเศรษฐกิจที่รัฐบาลใช้เป็นเหตุผลต้องการให้เกิดพายุหมุน และสุดท้ายกรณีงบไม่ทัน พ.ร.บ.งบปกติ แต่ในขณะนี้พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ยังไม่ออก หากตามหลักการของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ มาตรา 53 เป็นการป้องกันการเพิ่มอานาจฝ่ายบริหารในการออกกฎหมายพิเศษและกำหนดกรอบวินัยเพื่อป้องกัน ไม่ให้ฝ่ายบริหารใช้อํานาจในการออก
กฎหมายพิเศษเพื่อกู้เงินโดยปราศจากความรอบคอบรัดกุม โดยให้มีความเข้มงวดและมีความระมัดระวังในการดาเนินโยบายการคลัง
อ่านข่าว จับกระแสการเมือง 10 พ.ย.2566 “ดิจิทัลวอลเล็ต” เงินกู้อนาคต VS หนี้ระยะยาวคนไทย
ยังไม่นับรวมเรื่องไม่ตรงปก ตามมาตรา 57 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ที่แจ้ง กกต.อีกอย่าง แต่พอทำจริงกลับเป็นอีกอย่าง ตรงนี้เองอาจมีคำถามไปถึง กกต.ว่าจะต้องมีมาตรการอย่างไร เพราะหากปล่อยไว้จะเป็นปัญหาในอนาคต
ยอมถอยปรับแล้ว หากคนก็มองว่า การถอยเพื่อเพื่อรับฟังความเห็น ก็เป็นเรื่องดี ต้องให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย ในมุมของ รศ.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์การเมือง มองว่า แม้จะมีการท้วงติงบ้าง แต่เชื่อว่าเม็ดเงิน 5 แสนล้านนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ GDP ขึ้นถึง 5 % แต่ก็ต้องมีมาตรการอื่นมาควบคู่การสร้างความมั่นใจของนักลงทุน มีงบลงทุนมาจูงใจ ถ้ารัฐบาลทำตามสัญญาที่ให้ไว้ย่อมมีผลในเชิงบวก หรือข้อกล่าวหากู้มาแจก ถ้าออกเป็น พ.ร.บ.ย่อมดีกว่า พ.ร.ก.เพราะสามารถตรวจสอบได้ ทำให้ลดแรงกดดัน
อ่านข่าว
“ศิริกัญญา” ชี้รัฐรู้แก่ใจดิจิทัลวอลเล็ตถึงทางตัน ออก พ.ร.บ.เงินกู้ขัดกฎหมาย
ไม่ตรงปก! แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท-รุมสับไปไม่รอดกู้เงินอนาคต