หน้าแรก Thai PBS กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ ตรวจผลกระทบ “ยางพารานำผ่าน”

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ ตรวจผลกระทบ “ยางพารานำผ่าน”

92
0
กมธ.ความมั่นคงฯ-ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์-ตรวจผลกระทบ-“ยางพารานำผ่าน”

เมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค.2566 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามข้อร้องเรียนของประชาชน นำโดย นายรังสิมันต์ โรม ประธาน กมธ., นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย

นายยูนัยดี วาบา สส.พรรคประชาธิปัตย์, นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล และ นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการ ร่วมเดินทางไปด้วย

อ่านข่าว : “โรม” ชี้ “นายก ” พูด ปม สส.ขอแต่งตั้ง ผู้กำกับ เข้าข่ายผิดกม. 3 ฉบับ 

ในวันที่ 17 ธ.ค. กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นด่านผ่อนปรนชั่วคราว ที่เดิมเคยเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามไปมาได้ระหว่างไทย-เมียนมา แต่ในช่วง 2 ปี หลังการรัฐประหารในเมียนมา ด่านพรมแดนนี้ถูกปิดไปแต่ยังสามารถนำเข้า-ส่งออกสินค้าสำคัญสำหรับการอุปโภคบริโภคที่เป็นข้อตกลงระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียนโดยไม่เสียภาษี

ทั้งนี้ประชาชนร้องเรียนว่า มีการลำเลียงยางพาราผ่านแดน โดยไม่เป็นการนำเข้า เรียกว่า “การนำผ่าน“ หมายความว่าไม่ใช่การนำเพื่อเข้ามาใช้ในประเทศไทยแต่เป็นการนำเข้ามาผ่านไทยและไปออกอีกด่านหนึ่งของไทยเพื่อไปยังประเทศที่ 3 โดยประเทศไทยไม่ได้นำมาใช้โดยมีการนำผ่านยางพาราส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

อ่านข่าว : “โรม” เห็นพ้อง “ผบ.ตร.” ไม่เห็นด้วยไอเดียส่ง ตร.จีนมาทำงานในไทย 

นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษก กมธ.ความมั่นคงฯ เผยว่า การนำผ่านลักษณะนี้ ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลยนอกจากค่าธรรมเนียม 650 บาทต่อรถบรรทุก 1 คัน ถนนพังเสียหายอีกเรื่องหนึ่งเพราะเป็นข้อตกลงภายในอาเซียน

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

นอกจากนี้ ประชาชนได้ร้องเรียนมาว่า มีการลักลอบสำแดงปริมาณยางพาราเท็จ ทำให้เกิดยางพาราเถื่อนที่ราคาถูกกว่าเข้ามาในประเทศไทย กระทบต่อตลาดยางในประเทศไทยโดยเฉพาะ จ.กาญจนบุรี มีปัญหา แต่ยังมีผลกระทบมากกว่านั้นคือเรื่องกลิ่นของน้ำยางสด ที่มีกลิ่นรุนแรงมาก

จากการเห็นสภาพหน้างานจริง เห็นว่าตรงลานจอดรถนักท่องเที่ยวเดิมที่ด่านฯ ถูกแปลงเป็นลานจอดรถเทรลเลอร์ รถบรรทุกสิบล้อ จำนวนนับสิบ ๆ คันต่อวัน เพื่อที่จะมาถ่ายน้ำยางจากรถบรรทุกฝั่งเมียนมาให้รถบรรทุกฝั่งไทย เป็นการ transit ยาง แล้วขับไปส่งที่ประเทศมาเลเซีย

นายปิยรัฐ กล่าวว่า การขนส่งดังกล่าวทำให้เกิดความแออัดของด่านซึ่งเต็มไปด้วยรถบรรทุกและเกิดกลิ่นน้ำยางสด จนภายหลังไม่อนุญาตให้ส่งน้ำยางสด เปลี่ยนเป็นยางแผ่นรมควัน และกระทบต่อช่องทางเดินรถของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปสังขละบุรี เพราะเป็นทางขึ้นเขาลงเขาที่มีเพียง 2 ช่องจราจร รถติด นักท่องเที่ยวไม่อยากมา จึงเป็นปัญหาสะสมของชาวสังขละบุรีที่เดิมมีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว

อ่านข่าว : “โรม” นำ กมธ.ความมั่นคงฯ ถาม “ผบ.ตร.” ปมส่วยสติกเกอร์

นายปิยรัฐ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.หลังลงพื้นที่ กมธ.ได้เรียกประชุมหน่วยงานท้องที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ ประกอบด้วย นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าฯ กาญจนบุรี, พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า, อิศเรศ รุ่งเรืองชนบท นายด่านศุลกากรสังขละบุรี, ตัวแทนกรมวิชาการเกษตร จ.กาญจนบุรี ร่วมประชุมเพื่อพูดคุยหาทางออก ซึ่งในที่ประชุมมีการถกเถียงกันในประเด็นการนำผ่านยางพารา 

ผู้แทนกรมวิชาการเกษตร จ.กาญจนบุรี ยืนยันว่าอนุญาตให้นำเข้าเพียงยางแผ่นรมควันเท่านั้น ไม่สามารถนำน้ำยางสดเข้ามาได้ แต่ในขณะเดียวกัน นายด่านศุลกากรก็ยืนยันว่า ไม่ว่ายางประเภทอะไรก็สามารถนำเข้ามาได้เพราะเป็นเพียงแค่การผ่านแดนไม่ได้เป็นการนำเข้า มีการถกเถียงเรื่องข้อกฎหมายว่าด้วย พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ.2507

อ่านข่าว :“โรม” นำทีม กมธ.คุย “บิ๊กทิน” แจงจัดซื้ออาวุธ-เรือดำน้ำ 

กมธ.มีความเห็นว่า ศุลกากรมีอำนาจในการตรวจสินค้าทุกชนิดที่มีการผ่านแดนเข้ามาในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้าหรือนำผ่าน ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 จะละเว้นเพราะเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไม่ได้ และไม่สามารถอ้างหลักความบริสุทธิ์ใจได้ เพราะกรมศุลกากรมีหน้าที่ตรวจตราแทนพี่น้องประชาชน

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นที่ กมธ.ยังคาใจ จะมีการเรียกสอบถามไปยังอธิบดีกรมศุลกากรอีกครั้ง ว่ามีอำนาจบังคับใช้ พ.ร.บ.ศุลกากร ในกรณีนี้ได้หรือไม่ รวมถึงสอบถามไปยังกรมวิชาการเกษตรว่า สามารถนำผ่านน้ำยางพาราได้หรือไม่ ตาม พ.ร.บ.กักพืช คาดว่าจะมีการประชุมกับระดับอธิบดีในวันที่ 21 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ปัญหาเบื้องต้นจากทางนายอำเภอสังขละบุรีว่า ได้มีการระงับการนำเข้าหรือผ่านแดนยางสดแล้วเนื่องจากส่งกลิ่นเหม็นกระทบต่อประชาชน ซึ่ง กมธ. ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอีกครั้งก็พบว่าไม่มีการขนย้ายยางสดแล้ว

อ่านข่าว : “โรม” ชี้ปฏิรูปตำรวจ สร้างความโปร่งใส กระบวนการเลือก ผบ.ตร. 

ส่วนเรื่องปริมาณรถบรรทุก ที่จากเดิมสามารถขนส่งได้ไม่จำกัดจำนวนต่อวันเป็นการจำกัดที่ 30 คันต่อวัน และไม่อนุญาตให้เดินรถในช่วงเวลาเร่งด่วน โดยอนาคตอาจจะมีการพิจารณาให้ขนส่งรถบรรทุกได้เฉพาะเวลากลางคืนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงการพิจารณาจุดผ่อนปรนผ่านแดนจุดอื่น ซึ่งจะมีการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

กมธ.ความมั่นคงฯ ลงพื้นที่ด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี แก้ปัญหายางพารานำผ่าน ส่งผลกระทบต่อการจราจรในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

นอกจากนั้น ปิยรัฐ ยังเล่าให้ฟังอีกด้วยว่า ลักษณะชายแดนบริเวณใกล้กับด่านเจดีย์สามองค์นั้น มีความเสี่ยงต่อการขนสิ่งของผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ เพราะมีบ้านเรือนประชาชนจำนวนหลายหลังที่มีทะเบียนบ้านของไทย

แต่เมื่อเข้าทางหน้าบ้านแล้วทะลุออกหลังบ้านเป็นเขตแดนของประเทศเมียนมา แม้ลักษณะบ้านจำพวกนี้จะไม่หรูหรา แต่มีราคาสูงหลักสิบล้านบาท กมธ.ได้ลงพื้นที่ไปดูมาแล้วและได้ถามไปในที่ประชุมแต่ยังไม่ได้รับคำตอบ มีการยอมรับว่ามีบ้านลักษณะนี้จริง ยากต่อการจัดการของเจ้าหน้าที่เพราะเป็นบ้านที่มีโฉนดที่ดิน มีบ้านเลขที่ถูกต้องตามกฎหมายไทย

อ่านข่าว 

“โรม” ชี้ “นายก ” พูด ปม สส.ขอแต่งตั้ง ผู้กำกับ เข้าข่ายผิดกม. 3 ฉบับ 

“โรม” เห็นพ้อง “ผบ.ตร.” ไม่เห็นด้วยไอเดียส่ง ตร.จีนมาทำงานในไทย 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่