’เศรษฐา‘ เตรียมคุย ’นายกฯมาเลเซีย‘ เรื่องความไม่สงบชายแดนใต้ – เผยเตรียมพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ อีกครั้ง 3 ม.ค.67 ลั่น มี.ค.ขึ้นอีกรอบ – เผย ครม.ไฟเขียว ร่าง พรบ.งบฯ 67 ส่งต่อให้กับสภาฯแล้ว
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า รัฐบาลและหน่วยงานมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนรวม 255 โครงการ ซึ่งรายละเอียดจะมีการแถลงต่อไป ทั้งนี้ยังฝากเตือนประชาชน ในช่วงอากาศแปรปรวนในภาคใต้ แม้อากาศ จะกลับสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ดูแลเรื่องจำนวนคนบนเรือ เรื่องชูชีพ และ เรื่องความปลอดภัยพื้นฐานอย่าประมาท
ขณะที่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีการพูดกันมากว่ากำลังการผลิตข้าวต่อไร่ของประเทศไทยต่ำลง จึงสั่งการให้กระทรวงเกษตรเตรียมเมล็ดข้าวพันธุ์ใหม่คุณภาพดี เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรก่อนฤดูกาลปลูกข้าวนาปีในปีหน้า ต้องยอมรับว่ากระทรวงเกษตรทำงานเยอะแต่ไม่ได้มีการชี้แจง ซึ่งปีหน้าจะมีการประกาศข้าวพันธุ์ใหม่อีกหลายสายพันธุ์และจะนำเกษตรแม่นยำมาใช้กับปุ๋ยให้ตรงสูตรเพื่อผลผลิตในระยะสั้น
ซึ่งได้บอกให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรไปว่าจะมีหน้าต้องมีการแถลงรายละเอียดให้มากกว่านี้เกษตรกรจะได้มีความมั่นใจ ว่าข้าวของไทยผลผลิตก็ไม่ได้ตกต่ำมากนัก และให้กระทรวงการคลังขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษี สำหรับการบริจาคเงินให้กับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางด้านการศึกษา ช่วยเด็กที่อยู่นอกระบบเข้าสู่ระบบการศึกษาให้ได้
และอีกเรื่องที่น่ายินดีที่คณะรัฐมนตรี อนุมัติตามที่สภาพัฒน์เสนอให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนา หรือ OECD ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอีก3-4 ปีจะได้เข้าเป็นสมาชิก ซึ่งในช่วงที่ตนเองเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น ทางญี่ปุ่นได้มีการเชิญให้ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นผู้สังเกตการณ์ในการเข้าร่วมประชุมในปีหน้าด้วย
อย่างไรก็ตามที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่าง พรบ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ที่กฤษฎีกาตรวจสอบแล้วเพื่อส่งต่อให้กับสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ขณะที่เรื่องค่าแรงตามมติของคณะกรรมการไตรภาคีจะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 3 มกราคม เพื่อปรับขึ้นค่าแรงให้สูงขึ้น ยืนยันพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ประกาศใช้ให้ได้ในเดือนมีนาคมใหม่อีกรอบนึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องประกาศปรับขึ้นปีละหน สามารถนำมาพิจารณาได้ ซึ่งอาจจะไปดูในรายภูมิภาคหรือรายอำเภอเพื่อให้ประชาชนได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีระบุด้วยว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะร่วมประชุมเรื่องยาเสพติด ก่อนเดินทางลงพื้นที่อำเภอจะแนะจังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งพื้นที่3-4 จังหวัดมีหลายครอบครัว ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายเพราะสามารถระบายน้ำได้แล้ว แต่ยังมีความเสียหายอยู่ จึงจะลงพื้นที่ พูดคุยกับประชาชนและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือประชาชน
จากนั้นเวลาประมาณ 18:00 น. จะเดินทางต่อไปยังจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้การต้อนรับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของมาเลเซียซึ่งเดินทางมาเป็นการส่วนตัวเพราะมีความสนิทสนมกัน และจะมีการหารือวงเล็ก ในเรื่องการตั้งคณะกรรมการชายแดนไทย-มาเลเซีย 4 ด้าน ทั้งการค้าชายแดน การเกษตรการท่องเที่ยวและความมั่นคง และการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโกลก
เรื่องการท่องเที่ยว True country one destination ซึ่งหลังจากมีการปรับการเข้าเมืองจากมาเลเซียมีนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียเข้ามาไทยในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ จากเดิม 10,000 คนเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 30,000 คน และจะมีการพูดคุยถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยมีนายฉัตรชัย บางชวดเป็นประธาน
ด้าน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้แจ้งให้ที่ประชุม ครม.ทราบว่าคณะกรรมการไตรภาคีจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 มกราคม 2567 โดยมีการตั้งคณะกรรมการอนุไตรภาคีขึ้นมาศึกษารายละเอียดการขึ้นค่าแรงรายวิชาชีพ และในระดับอำเภอ ตำบล และเทศบาล เพราะแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจแตกต่างกัน
รวมถึงขอข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยจะมีการนำเข้าคณะกรรมการไตรภาคีชุดใหญ่อีกครั้งในเดือนมีนาคม 2567 เพื่อประกาศขึ้นค่าแรงเป็นของขวัญปีใหม่ไทยให้กับประชาชนในช่วงวันสงกรานต์
ขณะเดียวกัน พิพัฒน์ ระบุว่า จะไม่นำข้อมูลปี 2563-2564 มาคำนวณแต่จะใช้ฐานค่าแรงขั้นต่ำในปี 2565 มาคำนวณ พร้อมยกตัวอย่างในแต่ละจังหวัดค่าแรงอาจจะไม่เท่ากัน เช่นจังหวัดสงขลา จะมีการเว้นอำเภอหาดใหญ่ เป็นเมืองท่องเที่ยว เมืองเศรษฐกิจ มีรายได้ ค่าแรงจึงต้องสูงกว่าอำเภออื่น รวมไปถึงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เป็นพื้นที่เสี่ยงก็ต้องมีค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ยืนยันว่าสามารถทำได้ไม่ขัดข้อกฎหมาย