วันนี้ (30 ธ.ค. 66) นายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความนิยมของพรรคก้าวไกลได้ชนะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ก็พลิกผันจนไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มองการรักษาความนิยมในปีหน้าและต่อไปอย่างไรนั้น ว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดของพรรคก้าวไกล ภายในพรรคมีการพูดคุยกันหลายครั้ง
นายชัยธวัช มองว่าในอนาคตข้างหน้า คู่แข่งหรือความท้าทายที่สำคัญสำหรับพรรคก้าวไกล ไม่ใช่พรรคการเมืองคู่แข่ง แต่เป็นตัวเราเอง หมายความว่า อนาคตความสำเร็จในทางการเมืองของพรรคก้าวไกล ขึ้นอยู่กับเราจะชนะตัวเองได้หรือไม่ จะทำงานให้เป็นพรรคการเมืองในแบบที่เราพูดได้หรือไม่ สามารถทำงานให้เป็นอย่างที่ประชาชนคาดหวังได้หรือไม่ เป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุด คือ แข่งกับตัวเอง หากสามารถบรรลุได้ เชื่อว่าความสำเร็จทางการเมือง และการยอมรับจากประชาชนจะมีมากขึ้น
บอกลูกพรรคว่าอย่าเสียเวลาไปทะเลาะกับพรรคการเมืองคู่แข่ง ให้ทำงานให้หนัก แล้วสร้างผลงานตัวเอง พิสูจน์ตัวเองว่า พรรคก้าวไกล สส.ของพรรค ทีมงานของพรรคก้าวไกล มีความพร้อม มีความเหมาะสมบริหารประเทศจริง ๆ นี่เป็นเป้าหมาย
อ่านข่าว : “วันนอร์” แต่งตั้ง “ปกรณ์วุฒิ” นั่ง ปธ.วิปฝ่ายค้าน พร้อมกรรมการรวม 28 คน
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงกรณีเกิดแผ่นดินไหวทางการเมือง มีการดึงตัว สส.ที่ส่วนมากเป็นหน้าใหม่ย้ายไปซบพรรคอื่น ว่า ไม่กังวลสำหรับงูเห่าได้พิสูจน์ไปแล้วว่างูเห่าทุกตัวจากพรรคก้าวไกล สอบตกหมด แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญสำหรับ สส.ใหม่ และสส.สมัยที่ 2 คือ การพัฒนาศักยภาพตัวเองให้มากกว่านี้เพื่อให้พร้อมกับการทำงาน เพราะต้องยอมรับว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงตั้งไข่ของหลายคนหลายคนอาจเพิ่งเรียนรู้ว่าการทำงาน สส. เขตที่ดีควรเป็นอย่างไร
นอกจากนี้ ได้เจอโจทย์ของจริงการทำงานในกลไกต่าง ๆ ของสภาเป็นอย่างไร การทำงานในกรรมาธิการอย่างมีประสิทธิภาพให้บรรลุเป้าหมายซึ่งในช่วงที่ผ่านมายังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ของ สส. ใหม่หลายคน แต่สำหรับปีหน้าคงหมดเวลาฮันนีมูนแล้วไม่ใช่เฉพาะฝ่ายรัฐบาลแต่ฝ่ายค้านก็หมดเวลาฮันนีมูนแล้วเหมือนกันเพราะฉะนั้นทุกคนต้องพิสูจน์ผลงาน
“พิธา” อาจคัมแบ็ก นั่ง หน.ก้าวไกล
นายชัยธวัช กล่าวว่า ในวันที่ 24 ม.ค.2567 ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีคุณสมบัติ สส.ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้วหากนายพิธาสามารถกลับมาทำหน้าที่ได้ต่อจะวางบทบาทไว้ตรงไหน นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอนตามที่ตนได้เคยแถลงครั้งประชุมสมัยวิสามัญ พรรคก้าวไกล ที่มีการเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค ตนได้แถลงอย่างชัดเจนแล้วว่า เป็นการปรับคณะกรรมการบริหารพรรคชั่วคราวเท่านั้น เพื่อรอการประชุมใหญ่สามัญของพรรคจริง ๆ ในเดือน เม.ย.2567
ดังนั้นหากนายพิธา ได้กลับมาทำหน้าที่ สส.อีกครั้ง ตนเชื่อว่าสมาชิกพรรคจะสนับสนุนให้นายพิธา มาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่อีกครั้ง
อ่านข่าว : นายกฯ มอบคําขวัญวันเด็ก ปี 2567 มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ สร้างประชาธิปไตย
นายชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า ตนมีความสุขกับการทำงานทุกวัน ทุกบทบาท เพราะสิ่งที่อยากเห็นสำหรับประเทศนี้ยังไปไม่ถึง ตนยังมีความหวัง ยังมีความฝัน มีเป้าหมายที่อยากจะทำ และคิดว่าสังคมแบบที่เราอยากเห็นไม่ได้ใช้เวลาเพียงช่วงข้ามคืน แต่ต้องสะสมการเปลี่ยนแปลงทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ แต่การผลักดันด้วยการทำงานของเรา เชื่อว่าจะเร่งการเปลี่ยนแปลงได้
และบทบาทของพรรคอนาคตใหม่มาถึงพรรคก้าวไกล คือ เป็นตัวเร่งในการเปลี่ยนแปลง เช่น การที่สภาฯรับหลักการ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม เรามีความภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการทำงานผลักดันทางความคิดแก่คนในสังคมมาไม่ต่ำกว่า 4 ปี จนกระทั่งทุกภาคส่วน หลายพรรคการเมือง พร้อมสนับสนุนสิ่งนี้ ซึ่งหากนึกภาพการเมืองในสภาก่อนมีพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล คงนึกไม่ถึงว่าเราจะมีการพิจารณาเรื่องแบบนี้ในรัฐสภาไทย วันนี้ถือเป็นความสำเร็จของสังคมไทยร่วมกัน
อ่านข่าวอื่น ๆ
“สุวัจน์” แนะ นายกฯ ใช้ประสบการณ์ธุรกิจ ผลักดันบริหารงาน
รัสเซียถล่มยูเครนครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่สงครามปะทุ เสียชีวิตแล้ว 30 คน