วันที่ 3 ม.ค.2567 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ชี้แจงในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ในกรณีที่กรมราชทัณฑ์ถูกกล่าวหาว่า เลือกปฏิบัติกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แตกต่างจากผู้ต้องขังคนอื่น ๆ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ฆ่าคน ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ทรมานคน ถ้าใครเจ็บป่วยก็ต้องไปรักษา ซึ่งการไปรักษาไม่ใช่แค่นายทักษิณเพียงคนเดียว แต่มีคนจำนวนมากไปรักษา ส่วนการรักษาของนายทักษิณนั้น เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ผมมองว่าท่านทักษิณ เป็นนักสร้างสันติภาพ แม้ก่อนหน้านั้นท่านอาจจะไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ แต่วันนี้เมื่อต้องการให้บ้านเมืองมีสันติภาพ มีสันติสุข มีความปรองดอง ท่านก็กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม การป่วยเกิดก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า กรณีผู้ต้องขังไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล กฎหมายระบุว่าที่นั่นคือเรือนจำ ซึ่งการอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมไปไหนไม่ได้ คือการเสียเสรีภาพแล้ว ไม่ว่าห้องสี่เหลี่ยมจะมีขนาดใดก็ตาม
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า แม้ตนเองเป็น รมว.ยุติธรรม ก็ไม่เคยได้ไปเยี่ยม แต่ก็ต้องสอบถามกับแพทย์ ซึ่งได้รับคำยืนยันว่า ป่วยจริงและมีอาการมาก
สำหรับการพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน ก็ต้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยมีเหตุผลประกอบความเห็นของแพทย์ในการรักษา ขณะนี้อยู่ในกระบวนการที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะนำเสนอมายังรัฐมนตรีตามลำดับ
นอกจากนี้ กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง อยากให้ยกระดับความเข้มแข็งของหลักนิติธรรมนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้กล่าวยืนยันว่า ตนเองจะไม่ทำอะไรที่นอกเหนือกฎหมาย และจะเข้มแข็ง ถ้าใครก็ตามเป็นผู้ทรงอิทธิพลถ้ามาฝ่าฝืนกฎหมาย หรือกระทำผิด จะถูกดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
สำหรับงบประมาณของกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะกรมราชทัณฑ์ ต้องการนำมาพัฒนาให้เป็นสถานที่สร้างคนเพื่อให้ออกไปสู่สังคม และช่วยกันสร้างชาติ ส่วนตัวเชื่อว่าความยุติธรรมอาจใช้เงินไม่มาก แต่ถ้าบ้านเมืองมีความยุติธรรม ปัญหาต่าง ๆ จะได้รับความแก้ไข