วันนี้ (11 ม.ค.2567) นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวหลังประชุมหารือประเด็นการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร บริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ตามที่นายธเนศ เครือรัตน์ สส.พรรคเพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ ได้ยื่นเรื่องเสนอเข้ามาให้ กมธ.
นายนพดล ระบุว่า หลังจากรับฟังทุกฝ่าย กมธ.ต่างประเทศ มีข้อสรุป 2 ประเด็น คือ 1. เห็นด้วยกับการเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหาร หลังปิดไปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2551 ผ่านมาแล้ว 16 ปี ซึ่งจะต้องไม่กระทบสิทธิด้านเขตแดนของประเทศไทย ส่วนการเจรจากลับไปเขตแดนจะเป็นไปตามกรอบ MOU 2543
และ 2. สนับสนุนนายกรัฐมนตรีพบปะกับ “ฮุน มาเน็ต” ผู้นำกัมพูชา ซึ่งจะเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการตามคำเชิญนายกฯ ในวันที่ 7 ก.พ.นี้ ให้มีการจัดยกประเด็นนี้เจรจา อาจเป็นประเด็นเพิ่มเติมในการหารือทวิภาคีจากพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา
ควรเปิดอีกครั้ง เพราะที่ผ่านมาสถิตินักท่องเที่ยวขึ้นชมปราสาทพระวิหารปีละ 700,000 คน หากเจรจาสำเร็จจะช่วยให้มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เพิ่มการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจใน อ.กันทรลักษณ์
นายนพดล ย้ำว่า ฝ่ายความมั่นคงทั้งในกองทัพบก รองแม่ทัพภาคที่ 2, สภาความมั่นคงแห่งชาติ, ผู้ว่าราชการจังหวัด, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ล้วนสนับสนุนและดูแลด้านความมั่นคง สิทธิด้านเขตแดน จะต้องไม่กระทบสิทธิ์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ JBC พิจารณาดำเนินการ ก่อนไปยืนยันการเปิดจุดผ่อนปรนเขตแดนว่าจะไม่กระทบใดๆ
ส่วนจะเปิดจุดผ่อนปรนได้เมื่อไหร่นั้น อยู่ที่การเจรจาของทั้ง 2 ประเทศ โดยนายนพดลแสดงความมั่นใจว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเปิดภายในปี 2567 นี้ หรือเร็วๆนี้ เพราะได้ประโยชน์ทั้งคู่
ทั้งนี้ กมธ.ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กรมแผนที่ทหาร กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายธเนศ เครือรัตน์ เข้าร่วมประชุม ขณะเดียวกัน กมธ.เตรียมลงพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารเร็วๆ นี้
อ่านข่าวอื่น
นายกฯ สั่งชี้แจงปมสัตว์ในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตาย 13 ตัว
สอศ.ขีดเส้น 7 วันปม “อาชีวะ” เรียกเงินแลกเกรด-ตั้งกก.สอบ
“ทักษิณ” อยู่ต่อ รพ.ตำรวจ อธ.ราชทัณฑ์ เผยภาวะเสี่ยง-แพทย์ต้องเฝ้าระวัง