นับถอยหลังอีก 14 วัน หากไร้ปัจจัยแทรกซ้อนคนรัก “ทักษิณ” อาจได้เห็นการปรากฏตัวอีกครั้งในรอบ 6 เดือน นับจาก 22 ส.ค.2566 ที่นายทักษิณ ชินวัตร กลับสู่อ้อมกอดประเทศไทย และชีวิตลิขิตเข้าไปอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เพราะป่วยมาราธอน
22 ก.พ.นี้ อาจไม่เกินความคาดหมาย เมื่อนักตรวจสอบที่กัดไม่ปล่อย วัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาโต้ทันควัน หลังคำตอบจากสำนักงานอัยการสูงสุด และเจ้ากระทรวงยุติธรรม เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.) ยังอึมครึมว่า ทักษิณ จะได้สิทธิพิเศษรับการพักโทษกลับไปพักผ่อนต่อที่บ้าน หรือหากถูกอายัดตัวในคดี ม.112 จะมีขั้นตอนอย่างไร
คอการเมืองหลายคนนับวันรอ แต่ส่วนใหญ่จะเทใจคล้อยตามกับ “วัชระ” ที่เชื่อว่า 22 ก.พ.นี้ ทักษิณ ได้กลับบ้านแน่ พร้อมปูดว่า ตอนนี้ ทักษิณ ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ แต่มี 3 แห่ง คือบ้านจันทร์ส่องหล้า คอนโดริมน้ำใกล้ไอคอนสยาม และโรงแรมแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท
แถมบอกอีกว่า ตราบใดที่ ทักษิณ ยังมีอำนาจไม่เชื่อว่าระบบยุติธรรม จะมีจริง และตัวทักษิณ ก็ไม่น่าจะปฏิบัติตามกฎหมาย งานนี้ต้องจับตารู้คดีที่ค้ำคออยู่จะออกหัวออกก้อย
ร้อนฉ่าไม่หยุด กลุ่มรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว เมื่อ “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ บุกกองปราบให้ข้อมูล “บิ๊กเต่า” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดโปงถูก “เอก” รีดทรัพย์-กรรโชกทรัพย์มาแล้วถึง 6 ครั้ง
ทั้งที่รั้งตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรียุค “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ไม่เว้นถูกกระทำ จนน้ำตาตกใน เจ็บปวดมาก ทนไม่ไหว แจ้งความไว้ตามท้องที่ต่างๆ 6 ครั้ง รวมเงินหลายแสนบาท อ้างมีหลักฐานต่าง ๆ รวมทั้งคลิปเสียงด้วย งานนี้ไม่รู้ร้อนตัว เพราะกลัวถูกแฉก่อนหรือไม่ ไม่นานคงมีคำตอบ
จาก “นักร้อง” กลายเป็นคนถูกร้องอีกราย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบประมาณรายจ่ายหลายสมัยตั้งแต่ปี 2563 2565 2566 และ 2567 ถูกวัชระ ยื่นหนังสือถึง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ขอให้สอบสวนจริยธรรมร้ายแรง เพื่อให้ตรวจสอบการครอบครองรถเบนซ์ 1 คัน ที่โพสต์ผ่าน Facebook อ้างว่าผู้ใหญ่ใจดีให้มา
และอีกกรณีแคชเชียร์เช็ค 25 ล้านบาท สั่งจ่ายให้นายเรืองไกรเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2565 ซึ่งนายเรืองไกรโพสต์ เช่นกัน จึงตั้งคำถามว่านายเรืองไกร ได้รับเช็คดังกล่าวเป็นค่าอะไร จากใคร
นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมมาเกือบ 4 เดือน “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องรัก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องเร่งสร้างผลงานรัวๆ หลังจากสื่อให้ฉายาเสือยิ้มยาก เพราะออกงานทีไรนักข่าวแทบไม่ต้องถือไมค์ แต่ไหงเวลาเจอนกกระเรียน เจอสัตว์ป่า กลับยิ้มแฉ่ง
เรียกว่าตั้งแต่เข้า “ฤดูฝุ่น” มาสักระยะ เดินสายถี่ยิบ Kick Off หยุดปัญหาไฟป่า โดยรัฐบาลตั้ง KPI ตั้งแต่ระดับกระทรวง ระดับกรม ยันระดับท้องถิ่น ผู้ว่า 17 จังหวัด หวังสกัดฝุ่น PM2.5 ที่รัฐบาลประกาศเป็นนโยบายสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม
อ่านข่าว ขู่วัด KPI ผู้ว่าฯภาคเหนือต้องคุมไฟป่า-PM 2.5 ลด 40%
หากกางแผนฤดูฝุ่น คุมเข้มลดการเผาป่าให้ได้ 50% โดยเฉพาะในพื้นที่เป้าหมายอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ โดยเฉพาะภาคเหนือจะต้องมีค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM 2.5 ลดลง 40% กทม.ลดลง 20% ภาคอีสานต้องลดลง 10% และภาคกลางอีก 20%
จากข้อมูลเดือนม.ค.ปี 2566 แล้วกับปีนี้ พบว่าจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มขึ้นเป็น 49,983 จุด หรือเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 93 ส่วน จุดความร้อนในไทย ทั้งภาคกลาง และภาคตะวันออก ปีนี้มี 3,252 จุด ลดลง 46%
ส่วนปัจจัยฝุ่นข้ามแดน ล่าสุดการมาเยือนของพล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีข้อตกลงจัดตั้งคณะทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูล และสายด่วนเตือนจุดที่มีการเผาร่วมกัน เพื่อตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉิน สร้างขีดความสามารถ และแบ่งปันแนวปฏิบัติในการจัดการกับการเผาในเกษตรกรรม-ไทย จึงเป็นสัญญาณบวกที่ฝุ่นข้ามแดนจากกัมพูชาอาจจะดีขึ้น
ปิดท้ายกับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล หลังจากเลื่อนมาหลายครั้ง ทั้งเรื่องที่มาของวงเงิน 500,000 ล้านบาท ล่าสุด ป.ป.ช.ชง 8 ข้อเสนอแนะป้องกันทุจริตเกี่ยวกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ป้องกันเอื้อประโยชน์กับคนบางกลุ่มจนอาจเข้าข่ายทุจริตเชิงนโยบาย
สอดคล้องกับข้อห่วงใยของ สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ทันควัน #กู้มาแจก 5 แสนล้าน #เสี่ยงคุก งานนี้รัฐบาลจะเดินหน้าต่อหรือพอแค่นี้
อ่านข่าวอื่นๆ
“แรมโบ้อีสาน” พบ “บิ๊กเต่า” เผยเจ็บปวดมาก ถูก “อ.” รีดทรัพย์ 6 ครั้ง
อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งย้าย “ไพทูรย์” หัวหน้าเขตฯสลักพระ เซ่นปม “ไฟป่า”