หากย้อนไทม์ไลน์อาการป่วยของ “ทักษิณ” ตั้งแต่วันที่ถูกควบคุมตัวไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และถูกแยกขังในแดน 7 สถานพยาบาลของเรือนจำ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ให้เหตุผลว่า แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ตรวจสุขภาพพบว่าเป็นกลุ่มเปราะบาง และมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังและรักษาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งต้องตรวจติดตามโดยแพทย์เฉพาะทาง จึงต้องแยกคุมขังไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องขังอื่น
เมื่อวันที่ 23 ส.ค.2566 นพ.วัฒน์ชัย มิ่งบรรเจิดสุข ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แถลงอาการป่วยของนายทักษิณหลังแพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ตรวจสุขภาพ โดยพบว่านายทักษิณเป็นกลุ่มเปราะบางและมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวัง คือ โรคหัวใจ ปอดอักเสบ ความดันโลหิตสูงและมีภาวะกระดูกสันหลังเสื่อม
แต่แล้ว กลางดึกคืนแรกในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายทักษิณถูกส่งตัวออกไปรักษานอกเรือนจำ เพราะมีอาการแน่นหน้าอก ความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ ประกอบกับมีโรคต้องเฝ้าระวังพิเศษคือโรคหัวใจ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิต แพทย์จึงพิจารณาส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ที่มีความพร้อมมากกว่า
วันที่ 19 ก.ย.2566 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า นายทักษิณได้เข้ารับการผ่าตัดและอยู่ในช่วงพักฟื้น ขณะที่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ออกมายืนยันข้อเท็จจริงกรณีนี้ พร้อมระบุสาเหตุว่ามาจากหลายอาการ
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย
วันที่ 13 ต.ค.2566 ปรากฏภาพนายทักษิณ นอนบนเตียงที่เจ้าหน้าที่กำลังเข็นอยู่ใน รพ.ตำรวจ ซึ่งนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ยืนยันในเวลาต่อมาว่าเป็นภาพจริง ขณะนายทักษิณถูกนำตัวไปทำซีทีสแกนและเอ็มอาร์ไอ
วันที่ 23 ต.ค.2566 กรมราชทัณฑ์ยืนยันว่า นายทักษิณ ถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดออร์โธปิดิกส์ และหลังการผ่าตัดได้พักที่ห้องไอซียู ศัลยกรรมประสาท
ตลอดระยเวลาที่ “ทักษิณ” รักษาตัวอยู่บนชั้น 14 รพ.ตำรวจ เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเกิดความเคลื่อนไหวจากหลายฝ่าย ทั้งนักการเมืองฝ่ายค้าน อดีตนักการเมืองและประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่เคลือบแคลงสงสัยและตั้งข้อสังเกตว่า “นายทักษิณป่วยจริงหรือไม่” หลังออกมารักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 180 วัน
กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมสังเกตการณ์ที่ รพ.ตำรวจ
อาทิ นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามถึงความเท่าเทียม โดยระบุว่านายทักษิณมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ จนนำไปสู่การตั้งกระทู้ถามในสภาผู้แทนราษฎร ของ สส.พรรคก้าวไกล เกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ และสิทธิรับการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขังที่มองว่าไม่เท่าเทียมกัน
รวมถึงนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้สภาฯ ตั้งคณะแพทย์มาพิสูจน์ว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่ เพื่อตรวจสอบและลดความเคลือบแคลงของสังคม
ขณะที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ก็มีปฏิกิริยากับเรื่องนี้มาโดยตลอด เรียกร้องให้ รพ.ตำรวจ ชี้แจงข้อสงสัยเรื่องการรักษาและขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ พร้อมเฝ้าสังเกตการณ์มาอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งวันที่ 18 ก.พ.2567 นายทักษิณได้รับการพักโทษและเดินทางออกจาก รพ.ตำรวจ กลับบ้านจันทร์ส่องหล้าในช่วงเช้า พร้อมด้วย น.ส.แพทองธาร โดยนายทักษิณสวมหน้ากากอนามัยและใส่เฝือกพยุงแขนและคอ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 180 วันที่นายทักษิณปรากฏตัวต่อสาธารณะชน
ทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกจาก รพ.ตำรวจ หลังได้รับพักโทษ
จนล่าสุดวันที่ 19 ก.พ.2567 นายทักษิณ นั่งวีลแชร์เข้ารายงานตัวต่อนายปรีชา สุดสงวน อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา และรับทราบคำสั่งในคดีมาตรา 112 ซึ่งอธิบดีอัยการออกมาระบุในภายหลังว่า นายทักษิณมีสภาพป่วยขั้นวิกฤต เสียงแห้งและเดินไม่ไหว
ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ก็ออกมายืนยันกรณีนายทักษิณใส่ที่พยุงแขน ว่า เป็นเพราะเส้นเอ็นหัวไหล่ขาด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดกับคนอายุ 70 ปี จึงขออย่ามองว่าสร้างภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ทักษิณ” ออกจาก รพ.ตำรวจ แขน-คอสวมเฝือก กลับบ้านจันทร์ส่องหล้า
เปิดภาพแรก “ทักษิณ” ในบ้านจันทร์ส่องหล้า นั่งรับแดดริมสระน้ำ
“อัยการ” ชี้ “ทักษิณ” ป่วยขั้นวิกฤต “ภูมิธรรม” ยันเอ็นหัวไหล่ขาด
