‘แพทองธาร’ แจงดราม่าเที่ยวฮ่องกง ขอช่วยใจดีกันบ้าง นอกงานการเมืองยังเป็น ‘ภรรยา-แม่’ ยันทำทุกบทบาทอย่างเต็มที่
วันที่ 19 เม.ย. แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวถึงการที่เทศกาลสงกรานต์ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาว่า ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มีการรายงาน และขอบคุณมาถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของคณะเฟสติวัลที่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ว่า เราจะจัดงานแบบไหน และมีทั้งกระทรวงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่ร่วมมือกัน
แพทองธาร กล่าวอีกว่า ต้องขอชื่นชมในทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกันอย่างมาก ทำให้เรามีเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาชาวโลก และคิดว่าในปีหน้านี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ และให้สมกับที่ชาวต่างชาติรอคอย รวมถึงในวันนี้ได้มีการพูดคุยถึงเทศกาลสงกรานต์ในจังหวัดอื่นๆ ที่ยังคงมีการจัดวันไหลจนถึงสิ้นเดือน ซึ่งทำให้เศรษฐกิจในประเทศเกิดการหมุนเวียนได้เยอะมากขึ้น
สำหรับกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ตนเดินทางไปฮ่องกงในช่วงสงกรานต์นั้น แพทองธาร กล่าวว่า ตนอยู่ร่วมเปิดเทศกาลมหาสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 12 เม.ย. และทางคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ได้ตั้งยุทธศาสตร์ขึ้นมาว่าจะจัดแบบไหน และกระจายไปให้กระทรวงต่างๆ ได้จัดการ ซึ่งเราก็เต็มที่ตั้งแต่ตอนประชุมมาเรื่อยๆ และก่อนหน้านี้คาดว่า ทางคณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ฯ จะได้เป็นแม่งานแต่ติดเรื่องงบประมาณเล็กน้อย
แพทองธาร กล่าวอีกว่า นอกจากการที่ตนเป็นประธานยุทธศาสตร์ เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยแล้วยังเป็นคุณแม่ และยังเป็นภรรยาด้วย ซึ่งตนก็พยายามทำทุกหน้าที่ให้สุดความสามารถ ไม่ว่าการทำงานที่ยุ่งของตน แต่ตนก็เต็มใจ ยิ่งต้องมีการทำความเข้าใจกับคนในครอบครัวเสมอ ประกอบกับเป็นช่วงที่ลูกปิดเทอม ดังนั้นการได้ไปใช้เวลากับครอบครัวตรงนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี และงานก็ออกมายิ่งใหญ่ ตนก็ซัพพอร์ตทุกทางที่สามารถซัพพอร์ตได้
“ในการดราม่าต่างๆ เรื่อง Hate Speech คิดว่า ผู้หญิงทุกคนก็คงทราบดีว่า เราเองผู้หญิงที่ทำงานด้วย บางทีการแบ่งเวลามันไม่ได้แบ่งได้ดีทุกวัน ขอความเข้าใจด้วยว่า ใจดีกันนิดหนึ่ง การทำงานมันต้องเติมพลังไปด้วย พลังคือครอบครัว ดังนั้นจะดราม่าอะไรก็จะรับฟัง และคิดว่า เมื่อถึงหน้าที่ของตนก็จะทำอย่างเต็มที่แน่นอนไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน” แพทองธาร กล่าว
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ฯ ระบุเพิ่มเติมว่า การออกแบบ และวางแผนเทศกาลมหาสงกรานต์นั้น เราได้คุยกันมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปลายปี 2566 และเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ที่จะสามารถปักหมุดให้กรุงเทพมหานคร รวมถึงประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเทศกาลระดับโลกให้ได้ ก่อนที่จะกระจายงานให้แก่กระทรวงต่างๆ แม้ว่าระหว่างทางจะมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณแต่เราพยายามทำออกมาได้ดีที่สุด
ส่วนกรณีที่มีภาพถ่ายพร้อมหน้าของครอบครัวชินวัตรนั้น แพทองธาร กล่าวว่า ในตอนที่นั่งทานข้าวในวันเกิดของตัวเอง ทุกคนในโต๊ะก็นั่งมองหน้ากันแล้วเห็นว่า หัวโต๊ะมีคุณพ่อนั่งอยู่ ซึ่งเป็นความไม่ชิน แต่ก็ดีใจ เพราะทุกครั้งที่ผ่านมาจะมีการเฟสไทม์ หรือถ่ายรูปส่งให้พ่อดู ซึ่ง พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ (พี่สาว) ระบุว่า อย่าส่งให้พ่อดูเลย เพราะพ่อจะเหงา แต่ตนก็แย้งว่า ไม่หรอก พ่อชอบดู แต่ปีในปีหน้าไม่ต้องเป็นแบบนั้นแล้ว ซึ่งถือว่า เป็นโมเมนต์ของครอบครัว เพราะครอบครัวของตนสนิทกันมาก ก็จะเป็นแรงผลักดันซึ่งกันและกัน