หน้าแรก Thai PBS ส่องนัยการเมือง “ภูมิธรรม” ชิมข้าว 10 ปี ปูทาง “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย

ส่องนัยการเมือง “ภูมิธรรม” ชิมข้าว 10 ปี ปูทาง “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย

80
0
ส่องนัยการเมือง-“ภูมิธรรม”-ชิมข้าว-10-ปี-ปูทาง-“ยิ่งลักษณ์”-กลับไทย

ปรากฏการณ์นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้าวสารในสต็อกของรัฐบาล ตามโครงการรับจำนำ ที่ จ.สุรินทร์ นำข้าวที่เก็บในโกดังนานกว่า 10 ปี มาหุงโชว์กินต่อหน้ากองทัพสื่อมวลชน พร้อมประกาศเตรียมเปิดประมูลข้าวสารในสต๊อก 2 โกดังสุดท้าย เหลือข้าวหอมมะลิ 15,012 ตัน หรือ 145,590 กระสอบ

รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา วิเคราะห์การชิมข้าวอายุ 10 ปีว่า สะท้อนนัยทางการเมือง 2 มิติ ในแง่ของกระทรวงพาณิชย์ ต้องการบริหารจัดการข้าวในสต็อกให้แล้วเสร็จ อย่างน้อยก็ได้เงินมาใช้บริหารราชการแผ่นดิน

อีกแง่หนึ่งทางการเมือง ต้องการทำเรื่องนี้ให้จบ เพราะทางคดีโครงการรับจำนำข้าวจบแล้ว แต่เมื่อปล่อยข้าวไว้นาน 10 ปี จึงมีผลนัยยะทางการเมืองค่อนข้างมาก เพราะฝ่ายที่ไม่ชื่นชอบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนั้น ใช้ประเด็นนี้ในการโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์ หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องการกลับไทย ก็จะเข้าสู่กระบวนการของคดีอื่น ๆ ที่ยังค้างอยู่ ส่วนคดีจำนำข้าวหากไม่เคลียร์ให้จบ ปล่อยทิ้งข้าวโดยไม่แก้ปัญหา อาจถูกโจมตีได้ว่าใช้สิทธิพิเศษ

รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว

รศ.โอฬาร ถิ่นบางเตียว

คดีและความผิดทางละเมิดจบแล้ว ข้าวก็จำหน่ายหมดแล้ว ต้องการจบเคลียร์ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถ้าต้องการจะกลับมา เรื่องนี้ก็จะไม่เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ แม้ไม่จบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็เจือจางความรู้สึก

ส่วนการเปิดประมูลข้าวเพื่อส่งจำหน่ายให้แอฟริกา หรือจำหน่ายภายในประเทศ มีความเหมาะสมเพียงใด รศ.โอฬาร มองว่า ขณะนี้ยังมีข้อถกเถียงว่าข้าว 10 ปีบริโภคได้หรือไม่ หากนำไปจำหน่ายเพื่อบริโภค หรือบริจาคให้ต่างประเทศ แต่คุณภาพข้าวไม่ผ่านเกณฑ์ จะกระทบภาพลักษณ์ด้านลบต่อรัฐบาล และถูกใช้ประเด็นโจมตีรัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเสนอให้นำไปใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ อย่างน้อยยอมขาดทุน แต่ปิดจบได้ ลบภาพจำคดีนี้ทั้งหมด

ภูมิธรรม เวชยชัย

ภูมิธรรม เวชยชัย

ถ้าขายเพื่อบริโภคแล้วมีปัญหาทีหลัง อาจสร้างภาพจำใหม่ เป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลต่อไปอีกว่าขายแล้วกินไม่ได้ทั้งหมด กลายเป็นคดีข้าวภาค 2

รศ.โอฬาร เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับไทยก็ต่อเมื่อคดีนี้สิ้นสุด ไม่มีข้าวจากโครงการเหลืออยู่ในโกดัง เป็นวิธีการเดียวที่จะนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการลบภาพจำโครงการนี้ อีกทั้งการปรับเปลี่ยน รมว.ต่างประเทศ การตั้ง รมต.ที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายมารอไว้ และเคลียร์คดีรับจำนำข้าวอย่างเบ็ดเสร็จเรียบร้อย อาจเป็นการเตรียมความพร้อมกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับไทย หาช่องให้คดีที่ยังเหลืออยู่ได้รับโทษน้อยที่สุด

เรียกว่าเป็น “การเมืองหลังโครงการจำนำข้าว” ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้ รัฐ บาลต้องให้ความสำคัญกับประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการผลักดันนโยบายเรือธง ท่ามกลางข้อจำกัดต่าง ๆ ถือเป็นจุดเดียวที่จะสร้างสมดุลทางอำนาจ และความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับประชาชน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม เช่น ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ

ภูมิธรรม เป็นคีย์แมนหลักวางแผนบริหาร ประสานทุกฝ่าย การออกมาขับเคลื่อนเรื่องข้าวเป็นยุทธศาสตร์ของรัฐบาล

อ่านข่าว

“ภูมิธรรม” ขนทัพสื่อ-ผู้ส่งออก บุกโกดังข้าว 10 ปี ยันกินได้ 

“สมชัย” แนะตรวจสอบคุณภาพข้าว 10 ปี สร้างความมั่นใจก่อนขาย 

“สารรมควัน” ในเมล็ดข้าวสาร “ไม่เสื่อมสภาพ ตกค้าง ล้างไม่ออก” 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่