ใบมรณบัตรที่แจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” นักกิจกรรม วัย 29 ปี ผู้ต้องหาในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่อดอาหาร เรียกร้องให้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และยุติการคุมขังผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมือง โดย รพ.ธรรมศาสตร์ ระบุว่า เกิดจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ภาวะสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ และอาการหัวใจโต
ภาพ : ทะลุวัง – ThaluWang
ท่ามกลางข้อกังขาของสังคมว่า การอดอาหารจะเป็นชนวนที่ทำให้ “บุ้ง” ต้องจบชีวิตจริงหรือไม่ เนื่องจากการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่าหลังกลับมารักษาตัวต่อที่ รพ.ราชทัณฑ์ “บุ้ง” ได้เริ่มกลับมารับประทานอาหารได้บ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอรอผลชันสูตรจากแล็บคือชิ้นเนื้อ เนื้อเยื่อและสารคัดหลั่ง เพื่อตอบข้อสงสัยต่อสังคมอีก 60 วัน นับจากนี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเสียชีวิตของ “บุ้ง ทะลุวัง” ได้นำมาสู่การเคลื่อนไหวเพื่อให้มีการแก้กฎหมาย โดยเฉพาะมาตรา 112 ล่าสุดวันนี้ กลุ่มทะลุฟ้า นำโดย “มายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล และ “ไผ่ ดาวดิน” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และเครือข่าย เข้ายื่นหนังสือต่อนายก พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบ 4 ประเด็น
คือ สอบสาเหตุการเสียชีวิตของ “บุ้ง” คืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง ชะลอการดำเนินคดีการจับคุมขังบุคคลในคดีการเมืองจนกว่าจะผ่านกฎหมายนิรโทษกรรม และเร่งรัดกันออกกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนทุกฝ่าย ทุกข้อหา ที่มีมูลเหตุมาจากคดีทางการเมือง
อ่านข่าว : “รุ้ง-มายด์” บุกทำเนียบจี้รัฐบาลสอบ “บุ้ง ทะลุวัง” เสียชีวิต
ยุติธรรม 2 มาตรฐานถูกนำวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการเปรียบเทียบว่า มีการเลือกปฏิบัติ
เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช บอกว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรตระหนักและนำไปพิจารณาทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมไทย
โดยยกตัวอย่างเปรียบเทียบ 10 ข้อที่แตกต่างระหว่างกรณีของ “บุ้ง ทะลุวัง” กับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่สะท้อนถึงกระบวนการยุติธรรมแบบ 2 มาตรฐานของแท้
เทพไท เสนพงศ์
1.ทั้งคุณทักษิณ และบุ้ง เนติพร เป็นกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ฝ่ายก้าวหน้าหรือเสรีประชาธิปไตย เหมือนกัน
2.คุณทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด แต่คุณบุ้ง เนติพร เป็นผู้ต้องหาถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
3.เมื่อคุณทักษิณมีอาการป่วย รีบนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจทันที ไม่ต้องเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์เลย
4.แต่กรณีของบุ้ง เนติพร มีอาการป่วยจากการอดอาหาร ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ก่อน เมื่อมีอาการป่วยหนัก ก็นำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ไม่ได้นำส่งโรงพยาบาลตำรวจ อย่างเร่งด่วนเหมือนกรณีคุณทักษิณ
5.คุณทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด มีโทษจำคุกรวมจากเดิม 10 ปี ได้รับการอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
6.กรณีของบุ้ง เนติพร ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาจำคุก แต่อยู่ระหว่างการต่อสู้คดี แต่ไม่ได้รับการประกันตัว ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ระหว่างต่อสู้คดี
7.ตอนนี้คุณทักษิณ ถูกดำเนินคดีข้อหาความผิดตามมาตรา 112 แต่ได้รับการประกันตัวในชั้นของอัยการ
8.บุ้ง เนติพร ถูกดำเนินคดีความผิดประมวลมาตราอาญา มาตรา 112 เช่นเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการประกันตัว
9.เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในยุครัฐบาล ของพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ถ้าหากเป็นเกิดในรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ก็จะถูกนำไปขยายผลทางการเมืองอย่างแน่นอน
10.รัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางแก้ไขปัญหา ต่อผู้กระทำผิดมาตรา 112 เหมือนกับตอนที่เป็นฝ่ายค้าน
อ่านข่าว : “บุ้ง” ตายก่อนถึง รพ.ธรรมศาสตร์ ใบมรณบัตรชี้ “หัวใจล้มเหลว”
แสวง บุญมี เลขา กกต.
ส่วนการเมืองระดับประเทศและท้องถิ่นก็เริ่มนับถอยหลัง เตรียมตีระฆังแล้ว 4 วัน กับการเริ่มรับสมัคร สว.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 พ.ค.ยังมีเสียงยืนยันหนักแน่นจาก “แสวง บุญมี” เลขาฯกกต. ว่า “200 สว.” ต้องได้ตามโรดแมปเดือนกรกฎาคม และไม่มีกระบวนการใดที่จะมาหยุดยั้ง การได้มาซึ่ง สว. 200 คน
เลขาฯแสวง ยังออกโรงเตือนผู้สมัคร สว. ที่มีการจัดตั้งกลุ่มฮั้วกัน หากมีข้อมูลในการกระทำผิดจริง จะดำเนินการได้ทันที พร้อมยกตัวอย่างกรณี “โทรศัพท์ไปขอคะแนน” ศาลฎีกาได้ตัดสินโทษมีถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งตลอดชีวิต เพราะถือว่าเป็นการฮั้วกัน
สำหรับตัวเลขผู้ขอรับใบสมัครในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ยอดรวมอยู่ที่กว่า 17,000 คน ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงจำนวนผู้สมัครได้ ต้องรอถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร คือวันที่ 24 พ.ค. แต่หากกรณีที่สมัครน้อย หรือไม่ครบ 20 กลุ่มตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 19 กำหนดไว้ กกต.ก็สามารถดำเนินการเลือกได้
“อาจจะทำให้เราทำงานง่ายขึ้นด้วยซ้ำไป ก็ไม่ได้หนักใจอะไรในการทำงานครั้งนี้ เพียงแต่มีคนหนักใจแทน กกต.” เลขา กกต. กล่าว
อ่านข่าว : กกต.ยันได้ สว.ตามไทม์ไลน์ ขู่พบผู้สมัครฮั้วกัน อาจโดนตัดสิทธิ์
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
บินลัดฟ้าเดินสายเยือนเมืองน้ำหอม “ฝรั่งเศส” เสร็จแล้ว ไปต่อ “อิตาลี” สบายๆ สไตล์นายกฯนิด ใส่สูท พร้อมผ้าพันคอ จาก จ.เพชรบุรี เป็นผ้าผืนลาย “เพ็ชรราชวัตร” ที่ถอดลายมาจากผ้า ลายอย่างของอินเดียที่ใช้ห่อคัมภีร์ที่วัดลาด ที่กว่าจะมาเป็นลายนี้ได้ ศูนย์วิจัยสิงขร-มะริดศึกษาได้วิจัย สืบค้นประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยอยุธยา พร้อมทั้งวางลายผ้า หาคู่สีใหม่จนออกมาเป็นลายอย่างที่นอกจากจะสวยทั้งสีและลาย ยังสะท้อนถึงความเป็นมาของเมืองพริบพรีได้เป็นอย่างดี
โดยร้านผ้าบ้านชะอาน ได้มอบผ้าพันคอผืนนี้ให้กับนายกฯนิด ครั้งเข้าประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.เพชรบุรี และเป็นความตั้งใจของนายกฯ จะพกผ้าผืนนี้มาต่างแดนเพื่ออวดความสวย ความประณีตของงานผ้าไทย พร้อมกับถ่ายทอดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ให้ต่างชาติเห็นถึงศิลปะไทย
พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง
ยังเป็นประเด็นที่อยู่การจับจ้องของสื่อ เมื่อ “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่นัดหารือเป็นการส่วนตัวกับ “ดร.นก” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้การธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหวังสยบรอยร้าว ประสานแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และปรับจูนนโยบายการเงินการคลัง หลังจากที่มีการวิพากษ์ในการทำงานเชิงนโยบายที่ไม่ลงรอยกัน มาอย่างต่อเนื่อง
แม้ช่วงเข้าจะหลบสื่อกันให้วุ่น แต่ท้ายที่สุดหลังผ่านไป 2 ชั่วโมง ขุนคลังคนใหม่ก็ต้องออกมาเผชิญกับกองทัพสื่อที่รออยู่กันจำนวนมาก โดยบอกว่าไม่ได้ผิดความคาดหมาย การพูดคุยกับผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ ครั้งแรกเป็นไปด้วยดี และเข้าใจวิธีการทำงานของ ธปท. แต่ไม่ได้มีการพูดคุยถึงปมดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด
พร้อมเปิดอิสระตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ย และสิ่งที่เห็นพ้องคือเร่งช่วยผู้ประกอบการ ประชาชน เข้าถึงสินเชื่อ และแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
ต่อไปการหารือกับแบงก์ชาติคงบ่อยขึ้น โดยวันนี้คุยกันเกือบ 2 ชั่วโมง คงทำงานกันก่อน ยังไม่ได้ระบุว่าจะนัดกันเมื่อไหร่ แต่ทั้งสองฝ่ายต้องกลับไปทำการบ้าน ท่านก็ต้องไปดูให้สภาพคล่องกลับมาให้ได้
อ่านข่าว : ชื่นมื่น “คลัง -ธปท.”ถกช่วยรายย่อย ไร้หารือประเด็นดิจิทัลวอลเล็ต
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภา
สงครามยังไม่จบ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หวนคืนวงการเปิดปฏิบัติการอีกครั้ง เพื่อรวบรวมรายชื่อประชาชน 20,000 รายชื่อ ยื่นถึงประธานรัฐสภา ถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 1 คน ที่ยังไร้กระแสเล็ดลอดออกมาว่าเป็นบุคคลใด ซึ่งสงสัยว่ามีพฤติกรรมร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ครั้งนี้ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้เหตุผลว่าแสดงถึงพลังของประชาชน นับตั้งแต่มีการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งครั้งแรกที่มีการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการยื่นถอดถอนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ องค์กรอิสระ ถือเป็นเป็นมิติใหม่ของประเทศไทย
สาเหตุที่มาเพราะประชาชนส่งข้อมูลมามากสำหรับคณะกรรมการ ป.ป.ช.คนนี้ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ เชื่อว่าสังคมทราบอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ส่งข้อมูลมาให้ตนด้วย
มีลุ้นอีกยาว มหากาพย์คดีเจ้าของฉายา “แมว 9 ชีวิต”
อ่านข่าว :
จับกระแสการเมือง 15 พ.ค.2567 “บุ้ง ทะลุวัง” สะเทือนเพื่อไทย ขยับแก้ ม.112 ปล่อยตัวนักโทษคดีการเมือง
