ครึ่งวันแรกประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 โดยจะมีการอภิปราย 19-21 มิ.ย.นี้
ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ผู้นำฝ่ายค้าน อภิปรายตอนหนึ่งว่า การจัดสรรงบประมาณฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นปัญหาความไม่ชอบธรรมทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้โจทย์ของรัฐบาลในการจัดสรรงบของรัฐ จึงเป็นคนละกับโจทย์ของประเทศ
เป็นการจัดงบแบบมักง่าย สุ่มเสี่ยง นำทรัพยากรไปแก้วิกฤติการเมืองของตัวเอง โดยเอาโอกาส และอนาคตของคนไทยทุกคน และของประเทศมาวางเดิมพันอย่างไม่รับผิดชอบ มีปัญหาเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือดิจิทัลวอลเล็ต
วิสัยทัศน์ ignite ไทยแลนด์ จึงเป็น ignore ไทยแลนด์ ประเทศเจ๊งไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้
อ่านข่าว กางงบปี 2568 กระทรวงไหนมากสุด-จับตาขุนพลฝ่ายค้านจัดเต็ม
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า งบบระมาณฉบับนี้ ทั้งขี้ห๊ก ทั้งขี้เหร่ เดิมนายกรัฐมนตรี เคยให้สัญญาว่าถัดไปจะทำ 4 เพิ่ม 1 ลด เช่น จะเพิ่มรายได้ให้ประเทศ และจะลดการขาดดุลงบประมาณลงมา แต่พอมาเปิดตัวเลขเป็นละครคนละซีรีส์ เหมือนเห็นสภาเป็นศาลาโกหก
อ่านข่าว กางงบปี 2568 กระทรวงไหนมากสุด-จับตาขุนพลฝ่ายค้านจัดเต็ม
นอกจากนี้นายจุรินทร์ ยังอภิปรายอีกว่า งบประมาณปี 2568 เหมือนงบเป็ดขี้เหร่ เพราะทั้งหลอกสภา ทั้งทำสัดส่วนรายได้สุทธิน้อยกว่าเดิม ทั้งทำงบขาดดุลมากสุดในประวัติศาสตร์ ทั้งจะกู้มากขึ้นตลอดอายุรัฐบาล ทั้งวาดฝัน GDP ฟองสบู่ ทั้งลักไก่งบกู้มาแจก
ขอเงินเป็นแสนล้าน ทั้งที่ยังไม่ถามกฤษฎีกาสักคำว่าทำได้หรือไม่ ที่สำคัญก็คือว่า รัฐบาล 2 ปี และกำลังขอ 3.75 ล้านล้าน รวมแล้ว 6-7 ล้านล้าน ผลงานมันไม่ประทับใจจอร์จเลย ผลสัมฤทธิ์ของงานที่ปรากฏออกมา มันสวนทางกับตัวเลขงบประมาณที่ขอไป ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
ปีก่อนเคยบอกว่านายกรัฐมนตรี เป็นนักกู้รองเท้าสีชมพู ปีนี้น่าจะเป็นนักกู้ ผ้าขาวม้าพันคอ
ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงงบฯ ปี 2568 ในช่วงหนึ่ง ว่า ไทยทำลายสถิติทางการคลังหลายตัว เช่น การกู้ขาดดุลต่อจีดีพีสูงสุดในรอบ 36 ปี โดยปี 2568 กู้อยู่ที่ 4.5% ของจีดีพี และย้อนไปในงบปี 2567 ได้มีการกู้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จึงเป็น 2 ปี ที่กู้เพื่อชดเชยรายจ่ายที่น้อยกว่ารายได้ถึง 4% ต่อจีดีพี ในการวางแผนงบฯ ปีปกติ ที่ไม่ใช่ปีที่มีวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งการกู้จนเกือบเต็มเพดานถึง 99% หากประเทศเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน ภัยพิบัติ น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคระบาด จะไม่เหลืองบฯ ไปรองรับสถานการณ์นั้น
“ปี 2567-2568 มีการกู้ 99% ของเพดานที่ให้กู้ได้ เมื่อใช้จ่ายเงินเกินตัว แต่หาเงินไม่ทันจะทำให้ชีวิตเราเสี่ยง แต่รอบนี้ไม่ได้เสี่ยงแค่คนเดียว รัฐบาลนี้ใช้เงินมือเติบแบบนี้ ท่านกำลังพาประเทศไปเสี่ยงด้วย รัฐบาล NO สน NO แคร์ ให้ประเทศไปอยู่ในภาวะเสี่ยงเพียงเพื่อให้มีเงินมากพอที่จะไปทำโครงการเดียว คือ ดิจิทัลวอลเล็ต”
นอกจากนี้ ยังมีสถิติดอกเบี้ยต่อรายได้สูงสุดในรอบ 14 ปี, หนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูงสุดในรอบ 29 ปี และการชำระเงินต้นคืนต่องบสูงสุดในรอบ 31 ปี
รัฐบาลยังทำลายสถิติสัดส่วนรายจ่ายการลงทุนสูงสุดในรอบ 17 ปี นายกรัฐมนตรีเหมือนจะภูมิใจ แต่ตนเองมองว่าตัวเลขดังกล่าวสูงขึ้น เพราะไปรวมกับ 80% ของงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ต ทั้งที่จริง ๆ แล้วมีจำนวนน้อยมากที่จะนำเงินไปลงทุน อีกทั้งตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลอาจจงใจตัดงบรายจ่ายประจำบางตัวมาเป็นงบลงทุน เช่น งบชำระดอกเบี้ย บำนาญข้าราชการ งบรักษาพยาบาล ทั้งหมดนี้เชื่อว่ารายจ่ายลงทุนจะเหลือเพียง 16.4%
ศิริกัญญา อภิปรายว่า ในปี 2567 เกิดเหตุการณ์เงินชำระดอกเบี้ยได้รับจัดสรรไม่เพียงพอ ต้องชดใช้เงินคงคลังสูงถึง 39,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่านี้ เพราะงบบำนาญข้าราชการ และค่ารักษาพยาบาล ตั้งขาดไว้สูงถึง 60,000 ล้านบาท
อ่านข่าวอื่นๆ
จับ “หมาเรือน้ำมัน” มาดูแลตรวจสุขภาพ ก่อนหา “บ้านใหม่”
“250 สว.” ถ่ายรูปหมู่อำลาตำแหน่ง ส่งไม้ต่อให้ สว. ชุดใหม่
นายกฯ เผย ผลสอบ 2 บิ๊กตำรวจ ออกแล้ว โยน “วิษณุ” แถลง