หน้าแรก Thai PBS มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ

มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ

87
0
มติ-กตร.-12-ต่อ-0-เห็นชอบคำสั่งให้-“บิ๊กโจ๊ก”-ออกจากราชการ
มติ ก.ตร. 12 ต่อ 0 เห็นชอบคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ

วันนี้ (26 มิ.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในฐานะประธาน ก.ตร. โดยมีกรรมการเข้าร่วมประชุม อาทิ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. รวมถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.

ขณะที่วาระการประชุมกำหนดไว้ 4 วาระ ซึ่งวาระสำคัญที่ต้องจับตาคือ วาระเรื่องการขอให้พิจารณาการปฏิบัติการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ในกรณีคำสั่งลงวันที่ 18 เม.ย.2567 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยข้าราชการตำรวจ และกรณีคำสั่งลงวันที่เดียวกันให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน

พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้ (26 มิ.ย.) คาดว่าจะได้ผลการพิจารณาตามวาระ ส่วนการลงคะแนนของกรรมการ แม้จะมีบางคนติดเงื่อนไขลงคะแนนไม่ได้ แต่ก็อยู่ในจำนวนที่ดำเนินการต่อได้

สำหรับวาระสำคัญ มีกรรมการ 6 คนที่ไม่มีสิทธิลงคะแนนเสียง เนื่องจากเป็นผู้ที่มีกรณีพิพาท ไปจนถึงผู้รับผิดชอบคดีความของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ประกอบด้วย พล.ต.อ.วินัย ทองสอง และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ, พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร, พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รักษาราชการแทนรอง ผบ.ตร.

อ่านข่าว : “บิ๊กโจ๊ก” ยันไม่มีดีลกลับ ตร. บอก “ใครไม่เป็นผมไม่เข้าใจ”

ต่อมาเวลาประมาณ 18.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายกฯ ได้ออกจากห้องประชุมและเดินทางกลับ หลังจากใช้เวลาประชุม ก.ตร.นาน 3 ชั่วโมง ซึ่งก่อนกลับ นายกฯ ระบุว่ามอบหมายให้ พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ เลขา ก.ตร. เป็นผู้แถลงผลการประชุมในวันนี้ ขณะที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ซึ่งลงมาส่งนายกฯ ก็ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ โดยระบุเพียงว่าขณะนี้การประชุมยังไม่แล้วเสร็จ

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ประชุม ก.ตร. มีการพิจารณาวาระเรื่องการขอให้พิจารณาการปฏิบัติการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นวาระที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

ล่าสุดมีรายงานว่า ที่ประชุม ก.ตร.มีมติเอกฉันท์ 12 ต่อ 0 ชี้ว่าคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่ให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อน ชอบด้วยกฎหมาย 

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 18.40 น. พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร.ในฐานะเลขานุการ ก.ตร.ได้รับมอบหมายให้แถลงข่าว ภายหลังการประชุม ก.ตร.นานกว่า 3 ชม.โดยระบุว่า กรณีที่มีผู้ร้องขอให้ ก.ตร.พิจารณาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์และตามกฎหมายหรือไม่ใน 2 คำสั่ง ได้แก่

1.คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 177 /2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 เรื่องแต่งตั้ง คณะกรรมการสอบสวน และ 2.คำสั่ง ตร.ที่ 178/2567 ลงวันที่ 18 เม.ย.2567 คำสั่งให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน 

ทั้ง 2 กรณีที่ประชุม ก.ตร.มีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการวินัย เสนอว่า การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ของ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 กำหนดแล้ว

สำหรับกรณีการพิจารณาหรือเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวนั้น ไม่อยู่ในอำนาจของ ก.ตร. แต่เป็นหน้าที่ขององค์กรที่มีอำนาจวินิจฉัย ซึ่งก็คือ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และผู้ร้องได้ใช้สิทธิต่อองค์กรดังกล่าวแล้ว และให้รอคำพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร.ต่อไป 

“พล.ต.อ.วินัย” ไม่หนักใจถูก “บิ๊กโจ๊ก” ฟ้องหมิ่น

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยก่อนเข้าประชุม ก.ตร. ว่า ไม่หนักใจกรณีถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องหมิ่นประมาท และมองว่าเป็นเรื่องที่ตนเองจะสามารถนำหลักฐานต่างๆ เข้าสู้ขบวนการยุติธรรมได้

ตนเองถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากนายกฯ ตรวจสอบเรื่องหนังสือร้องเรียนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ให้ตรวจสอบคำสั่งของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ในขณะดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร. ออกคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนว่าไม่ถูกต้อง โดยอนุกรรมการตรวจสอบวินัยมีทั้งหมด 19 คน มีมติเสียงส่วนใหญ่ว่าการดำเนินการของรักษาราชการแทน ผบ.ตร.ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเพียง 1 เสียงที่ไม่ขอแสดงความคิดเห็น

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินสายฟ้องคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการพิจารณานั้น พล.ต.อ.วินัย เชื่อว่าเป็นการฟ้องปิดปากและตัดสิทธิ์การลงมติในที่ประชุมกรณีให้พิจารณาเพิกถอนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.วินัย ย้ำว่า ไม่ว่าผลการประชุมของ ก.ตร.จะออกมาในทิศทางไหน สุดท้ายก็เป็นเพียงเรื่องการบริหารงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ผลสิ้นสุดอยู่ที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งจะชี้ขาดว่าคำสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกราชการไว้ก่อนนั้น ชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

อ่านข่าว

จับตาประชุม ก.ตร. ถกปมคำสั่งให้ “บิ๊กโจ๊ก” ออกจากราชการ

“บิ๊กโจ๊ก” เดินหน้าฟ้องหมิ่นฯ 1 ใน ก.ตร. เหตุใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่