นายกฯเศรษฐา ยอมรับการปรับขึ้นค่าแรง 600 บาท ไม่สามารถทำได้ทันที แต่จะทำให้ภายในระยะเวลา 4 ปี เดินหน้าแก้ไขปัญหาค่าครองชีพให้กับประชาชน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าววันนี้ (9 กรกฎาคม 2567) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีถูกมองว่าเป็น CEO เก่า มีผลต่อการทำงานการบริหารราชการแผ่นดิน ในเรื่องของการเปิดไซต์งานเมื่อตอนเป็น CEO มีการเปิดไซต์งานอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อมาบริหารราชการแผ่นดินเป็นเวลา 1 ปี แล้วนั้นยังไม่มีการปิดไซต์งานอย่างเป็นรูปธรรม นายกฯเศรษฐากล่าวว่า
‘ก็ได้มีการปิดไซต์งานไปเยอะมากพอสมควร และเมื่อสมัยก่อนที่ตนเคยเป็น CEO ก็ได้มีการเปิดไซต์งานและปิดไซต์งานอย่างต่อเนื่องตลอด’
ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีค่าครองชีพในปัจจุบันนี้ ไม่สัมพันธ์กับรายได้ปัจจุบัน ทางรัฐบาลจะมีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างไร? นายกฯเศรษฐา กล่าวว่า ‘เรื่องดังกล่าวก็มีอยู่ 2 มิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน อย่างเช่น เรื่องโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง ก็เป็นโครงการที่พยายามจะเพิ่มรายได้ทางภาคการเกษตร ทำให้ผลิตผลต่อไร่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ราคาดีขึ้น มีการเปิดตลาดการค้าใหม่ การเปิดตลาดการค้าเสรี (FTA) เพื่อยกระดับรายได้ให้สูงขึ้น ในด้านรายจ่าย รัฐบาลก็ได้มีให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน (SUBSIDIZE) ในแง่ของค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน การพักหนี้เกษตรกร การทลายหนี้นอกระบบ ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำอยู่’
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า นโยบายที่ทางพรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ การเพิ่มค่าแรง 600 บาท ประเมินแล้วภายในระยะเวลา 4 ปี จะสามารถเพิ่มค่าแรงไปถึงหรือไม่? นายกฯเศรษฐา ตอบว่า ‘ก็พยายามดำเนินการทำอยู่ ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางด้าน นาย พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานในเรื่องดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า
‘เรื่องค่าแรง 400 ก็ยังดำเนินการทำได้อยู่ แต่คงจะไม่ไปถึง 600 บาท ในทันที แต่จะทำภายในระยะเวลา 4 ปี ตามที่พูดไว้’