หน้าแรก Thai PBS กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 คน

กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 คน

86
0
กกตมีมติรับรอง-สว.-200-คน-บัญชีสำรอง-99-คน-โดนสอย-1-คน
กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 คน

วันนี้ (10 ก.ค.2567) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติรับรองคุณสมบัติสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 200 คน และบัญชีสำรองอีก 100 คนแล้ว หลังมีการประชุมตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. และประชุมเสร็จ 14.30 น.

ขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลง ผลการประชุม กกต.เรื่องการพิจารณารับรองประกาศผลการเลือก สว. หลังที่ประชุมเริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 09.00 น. จนถึงเวลาประมาณ 14.30 น. ว่า ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 42 กำหนดว่าหาก กกต. เห็นว่ากระบวนการเลือกเป็นไปด้วยความถูกต้อง สุจริตเที่ยงธรรมตามกฏหมาย หรือการกระทำที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย และปฏิบัติตามกฎหมาย 3 เงื่อนไข กกต. จึงประกาศผลการเลือกเลือก สว.ได้

โดยสิ่งที่จะนำมาพิจารณา 3 เงื่อนไขในการรับรอง สว.คือได้มีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.ป.ได้มาซึ่ง สว. ได้รวบรวมกลุ่มความผิดที่ทำให้เป็นเงื่อนไขในการประกาศครั้งนี้ กลุ่มความผิดแรก คือ คุณสมบัติลักษณะต้องห้าม รวมถึงการลงสมัครลงกลุ่ม, 2. กระบวนการเลือก วันที่ ระดับอำเภอวันที่ 9 มิ.ย. ระดับจังหวัดวันที่ 16 มิ.ย. และระดับประเทศวันที่ 26 มิ.ย. และ 3.ความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม การจัดตั้ง บล็อกโหวต หรือฮั้ว

กรณีผู้สมัครรับเลือก สว.คุณสมบัติต้องห้าม กกต.เผยมีผู้สมัครสนใจ 48,117 คน ในวันสมัคร ผอ.ระดับอำเภอ ไม่รับสมัคร จำจำนวน 1,917 คน และเมื่อรับสมัครไปแล้ว ได้ลบชื่อก่อนเลือกระดับอำเภอจำนวน 526 คน ก่อนผ่านชั้นจังหวัดได้ลบผู้มีสิทธิเลือกจำนวน 87 คน ระดับประเทศได้ลดไปอีก 5 คน กกต.ได้ตรวจสอบและคัดคนที่ไม่มีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม 2,535 คน

และสำนักงาน กกต. มีมติให้ใบส้มคุณสมบัติตามมาตรา 20 วรรคสาม วรรคสี่ ระงับสิทธิสมัครเลือกชั่วคราว 89 คน และได้ส่งไปยังศาลฎีกาเพื่อพิจารณาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และมีอีก 1 คนพิจารณาตามมาตรา 60 หลังการเลือกรวมทั้งสิ้นมีใบส้ม 89 ใบ ซึ่งบุคคลมีส่วนทำให้การเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งทุกคนที่ถูกลบชื่อก่อนการเลิกจะถูกพิจารณาว่ารู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิแล้วไปสมัครรับเรื่องหรือไม่ซึ่งเป็นคดีทางอาญา นี่เป็นอีกคนละส่วนกัน ซึ่งตามที่เคยชี้แจงว่าเป็นเรื่องร้องเรียนร้อยละ 65 และปัจจุบันเรื่องร้องเรียนประมาณ 800 เรื่อง

แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.

แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.

นายแสวง กล่าวถึง ผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คน และบัญชีสำรอง 100 คน ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติและรักษาต้องห้ามแล้ว ส่วนการใช้คุณสมบัติไปสมัครแต่ละกลุ่มด้านต่างๆ ไม่ใช่กลุ่มสาขาอาชีพ และในแต่ละกลุ่มของด้านมีคน 6 ลักษณะที่สามารถสมัครได้ โดยไม่ได้หมายถึงอาชีพอย่างเดียว มีทั้งเรื่องความรู้ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ อาชีพ ลักษณะและประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการทำงานหรือเคยทำงานร่วมกันในด้านนั้น และมีผู้รับรอง

ส่วนความผิดเกี่ยวกับการดำเนินการในวันเลือก มีสำนวน 3 สำนวนได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว และมีคำร้องที่ยื่นต่อศาลฎีกา 18 คดีตามมาตรา 44 ซึ่งศาลฎีกายกคำร้องทั้งหมด และสุดท้ายกรณีเรื่องของการไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมีอยู่ 47 เรื่อง หรือเรื่องที่สังคมเรียกว่าการจัดตั้ง การฮั้ว โดยสำนักงานรวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควร โดยลักษณะที่รวบรวมมา พบว่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้พยานหลักฐานในทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน

ซึ่งลักษณะอาจทำเป็นกระบวนการที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สำนักงาน กกต.จึงขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ป.ป.ง. ที่จะเป็นความร่วมมือ ตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้สมัคร สว. หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อเป็นข้อมูลการประกอบการพิจารณา การกระทำที่จะทำให้การเลือกไม่สุจริต

ซึ่งลักษณะอาจทำเป็นกระบวนการที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปไม่สุจริตและเที่ยงธรรม กกต.ขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปปง. ที่จะเป็นความร่วมมือหลังจากนี้ ตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้สมัคร สว.หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อเป็นข้อมูลการประกอบการพิจารณา การกระทำที่จะทำให้การเลือกไม่สุจริต

และเมื่อได้ดำเนินการมาถึงขั้นนี้ เรียกว่าการเลือกตั้งถูกต้องหรือไม่จะมีการพิจารณาจากกระบวนการในเลือกทั้ง 3 ระดับ ซึ่งทุกคำร้องและทุกคดีได้จบสิ้นไปแล้ว นั่นคือไม่มีคดีค้างที่ศาลฎีกาถือว่าการเลือกเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนประเด็นเรื่องความไม่ชอบ ไม่สุจริตตามกฏหมายเมื่อมีคำร้องมีการรับเรื่องเป็นคำไว้แล้ว และขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งข้อมูล ณ วันนี้ยังพอเพียงและจะต้องไปหารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่ในชั้นนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม

“ขณะเดียวกันต้องให้โอกาสทุกฝ่ายได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงข้อกล่าวหา เพราะเป็นความเที่ยงธรรมจากกฎหมาย ด้วยเหตุดังกล่าว กกต. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการเลือก สว. เป็นไปด้วยความถูกต้องสุจริตและยัง จึงมีมติประกาศผลการเลื่อน สว. ของแต่ละกลุ่ม 20 กลุ่ม แต่บัญชีสำรอง เว้นในกลุ่ม 18 ของ สว. ในลำดับที่ 10 และต้องเลื่อนลำดับที่ 11 ไปอยู่ในลำดับแทนที่ ทำให้เหลือบัญชีสำรองของกลุ่ม 18 จำนวน 4 คน” นายแสวงกล่าว

เปิดรับหนังสือรับรอง สว. 11-12 ก.ค.นี้

สำหรับผู้ที่ได้รับประกาศ 200 คน ให้มารับหนังสือการรับรองให้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาเพื่อเป็นหลักฐานในการรายงานตัวกับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา 2 วัน คือ วันที่ 11-12 ก.ค.2567 เวลา 08.30 – 16.30 น.

อย่างไรก็ตามหลังจาก กกต.ประกาศรับรอง สว. ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ประชุมหารือและได้ข้อสรุปว่าจะเปิดให้ สว.ชุดใหม่ มารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 11-15 ก.ค. (ยกเว้นวันหยุดราชการ) เพื่อรับบัตรประจำตัวการเป็น สว. รวมถึงเอกสารและคู่มือการปฏิบัติหน้าที่ สว. จากนั้นจะออกหนังสือนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้สมาชิกกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ ก่อนที่จะลือกประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา

สอย “คอดียะฮ์” เลื่อน “ว่าที่ พ.ต.กรพด” แทน 

ทั้งนี้เลขาธิการ กกต. ยืนยันว่า กกต.มีอำนาจที่จะประกาศรับรอง ผลการเลือก สว.ไปก่อนแล้วสอยทีหลังได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภามาตรา 62 กรณีที่การเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมและมาตรา 63 ในกรณีที่ผู้สมัครมีคุณสมบัติในลักษณะต้องห้ามรวมทั้งหมด 3 มาตรา และไม่ขอแสดงความคิดเห็นถึง กกต. ชุดปัจจุบันว่าจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ไปจน สว.จะปฏิญาณตนหรือไม่ แต่ กกต.มีหน้าที่ที่จะประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับผู้ที่ กกต. ตัดสิทธิ์ในกลุ่ม 18 สื่อมวลชน คือ น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม เหตุยังไม่ลาออกจาก ที่ปรึกษานายก อบจ.อ่างทอง และได้เลื่อนลำดับ 1 จากบัญชีสำรองขึ้นมาแทนคือ ว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ ทำให้กลุ่ม 18 จะเหลือบัญชีสำรองเพียงแค่ 4 คน แต่ทั้งนี้ยังคงให้สิทธิ์นางสาว คอดียะฮ์ ยื่นฟ้องทวงสิทธิ์จากศาลฎีกาได้

อ่านข่าว : 

เปิดข้อกฎหมาย กกต.ประกาศรับรอง สว.ก่อนได้ สอยทีหลัง

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่